“It’s the people not the place” ไม่ว่าบ้านจะเป็นอย่างไร เพียงคนในบ้านมีความสุขก็ไม่มีปัญหา

แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ..เชื่อว่าหลายๆคนก็ปรารถนาอยากมีบ้านที่สวยเลิศเลอเฟอร์เฟค อยู่ในจินตนาการของตัวเอง มีบ้านในฝันตามที่ต้องการ.. บางคนมีบ้านเพราะมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น แน่นอนว่า บ้านหลังนั้น เมื่อผ่านวันเวลามาเป็นสิบๆปีย่อมเสื่อมทรุดโทรมตามกาลเวลา..บางคนเลือกที่จะปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน หรือบางคนเลือกที่จะรีโนเวทบ้านแต่คงกลิ่นไอความสุขในวันวานของครอบครัวไว้ แล้วปรับปรุงบ้านหลังนั้นให้ดูดีขึ้น ซึ่งแน่นอน“งบประมาณ” หรือ “เงิน”เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงและหลีกเลี่ยงไม่ได้

เงินจึงเป็นสิ่งสำคัญ หลายคนฝันสลายกลางอากาศ เพราะต้องเจอกับค่าวัสดุก่อสร้าง ค่าตกแต่ง จ้างสถาปนิก มัณฑนาการผู้รับเหมา และอีกจิปาถะที่ตามมาจึงต้องพับโครงการบ้านในฝันนั้นไว้ เพราะสู้กับค่าใช้จ่ายไม่ไหว เนื่องจากรายจ่ายที่เกิดขึ้นในการตกแต่งรีโนเวทบ้านมีมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น

1.ค่าจ้างสถาปนิกมัณฑนาการออกแบบ ตกแต่งภายในและคุมงาน

ส่วนใหญ่บริษัทที่รับตกแต่งภายในจะคิดค่าออกแบบที่10% ของงบประมาณการก่อสร้างและตกแต่งภายใน ยกตัวอย่างเช่น บ้านเดี่ยว พื้นที่ใช้สอย 200 ตารางเมตร มีงบประมาณการก่อสร้าง และตกแต่งพื้น ฝ้า ไฟ ตรม.ละ 10,000 บาท คิดเป็นมูลค่างานตกแต่ง 2 ล้านบาท ค่าออกแบบจะอยู่ที่ประมาณ 10% หรือประมาณ 2 แสนบาท แต่ถ้าบริษัทธรรมดาหรือฟรีแลนซ์จะลดลงกว่านี้ แต่ไม่ต่ำกว่า 5% ของงบประมาณการก่อสร้างแน่นอน

2.ค่าจ้างช่างก่อสร้างหรือผู้รับเหมาดำเนินงาน

ค่าจ้างช่างก่อสร้างหรือผู้รับเหมามาประเมินราคาในแบบที่ต้องการ เช่น การปรับปรุง การรื้อบันไดไม้ออก สร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก คานเดิม และทำห้องน้ำใหม่ 1 ห้อง เดินท่อประปา ท่อน้ำทิ้ง จากนั้นทุบผนังห้องชั้นสองเปิดเป็นห้องโล่ง ทุบห้องน้ำชั้นล่าง เจาะผนังอิฐฉาบปูนเพื่อทำประตูใหม่ พร้อมทาสีภายในบ้าน ช่างอาจตีราคาเหมา ที่ 400,000 บาท (ซึ่งยังไม่รวมค่าตกแต่งภายใน)

3.ค่าตกแต่งภายใน ซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน

เพื่อให้บ้านดูสวยงามหรูหราจึงต้องมีการตกแต่งภายใน หาเฟอร์นิเจอร์มาประดับ หรือบิ้วอินในห้องนั้นๆ ให้ดูเรียบร้อยน่าอยู่ ไม่ว่าห้องนอนหรือห้องครัว โดยเฉพาะห้องนอน ถือเป็นห้องส่วนตัวและผ่อนคลายที่สุด ซึ่งหากลองประมาณงบประมาณตกแต่งห้องนอนคร่าวๆ จากชุดเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเตียงนอน ที่นอน ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง โคมไฟ อาจใช้งบประมาณไม่น้อยกว่า 50,000 บาท – 70,000 บาทเลยทีเดียว

ซึ่งงบประมาณการตกแต่งบ้านนี้ แล้วแต่สไตล์ที่ตัวเองชอบ ในส่วนของค่าออกแบบหรือค่าก่อสร้างสามารถสืบราคาการก่อสร้างจากสถาปนิกหรือผู้รับเหมาได้เลย ว่างบที่มีอยู่เพียงพอต่อเติมบ้านได้ตามแบบที่ต้องการได้หรือไม่ ถ้าไม่เพียงพอสามารถขอคำแนะนำจากสถาปนิกว่าในงบที่มีอยู่จะต่อเติมบ้านได้อย่างไรบ้าง เช่นอาจใช้วัสดุทดแทนที่ถูกลง ปรับปรุงรูปแบบใหม่ให้อยู่ตามงบที่จำกัดซึ่งสามารถทำได้เช่นกัน

“จะเห็นได้ว่าการตกแต่งหรือรีโนเวทบ้าน ใช้งบการลงทุนก่อสร้างค่อนข้างสูง หลายคนดับฝันตัวเองเพราะไม่มีเงิน จึงต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านที่สภาพทรุดโทรมต่อไป”

4. สินเชื่ออเนกประสงค์ สานฝันรีโนเวท ปรับปรุง ตกแต่งบ้าน

สิ่งสำคัญที่สุดอย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้นก็คือ เงิน แน่นอน หากไม่มีเงิน ก็คงต้องพับโครงการบ้านในฝันไว้ ปัจจุบันหลายธนาคารให้บริการสินเชื่ออเนกประสงค์ สำหรับผู้ที่ต้องการซ่อมแซมต่อเติมบ้าน เพียงนำโฉนดที่ดินและบ้านมาเป็นหลักประกันเพื่อขอสินเชื่อได้ ไม่ว่าจะเป็นโฉนดที่ปลอดจำนอง หรือโฉนดที่มีภาระจำนองสินเชื่อบ้านเดิมอยู่ แต่ภาระหนี้ได้ลดลงไปแล้วบางส่วนก็ตาม

ยกตัวอย่างธนาคารกรุงเทพ ปัจจุบันให้บริการสินเชื่ออเนกประสงค์ประเภทเงินกู้ “สินเชื่อบัวหลวงพูนผล” ทั้งลูกค้าใหม่ที่มีบ้านปลอดภาระ และลูกค้าสินเชื่อบ้านบัวหลวงรายเดิมของธนาคาร ซึ่งพิจารณาอนุมัติวงเงินสินเชื่อเพื่อต่อเติม ตกแต่ง ซ่อมแซมบ้านตามงบประมาณหรือมูลค่าการใช้จ่ายที่ลูกค้าต้องการ สูงสุด 80% ของราคาประเมินหลักประกัน โดยมีวงเงินสูงสุดถึง 6 ล้านบาท ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถผ่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นรายเดือน แบบสบายๆ สูงสุดถึง 10 ปี โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเพียง MRR-0.625% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ตามประกาศธนาคารเท่ากับ 7.625%)

ข้อมูลสินเชื่ออเนกประสงค์สินเชื่อเงินกู้บัวหลวงพูนผล เพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขา ทั่วประเทศ

ขอบคุณข้อมูลจาก www.bangkokbank.com