Thailand 4.0 คำนี้มาแรงอย่างมาก จากการเล็งเห็นถึงความสำคัญในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบพัฒนาเศรษฐกิจประเทศให้ก้าวหน้าต่อไปในยุคสมัยแห่งเรื่องราวของเทคโนโลยี แน่นอนว่า กลุ่มธุรกิจหลักในตลาดหุ้น อย่างธุรกิจอสังหา ธุรกิจธนาคาร ธุรกิจพลังงาน และธุรกิจสื่อสาร ย่อมมีการปรับตัวพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น TerraBKK Research ส่งต่อข้อมูลดี ๆ ในเรื่อง Thailand 4.0 พร้อมแนวโน้มธุรกิจในปี 2560 และกลยุทธ์ ลงทุนหุ้น ทั้ง 4 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจอสังหา ธุรกิจธนาคาร ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจสื่อสาร รายละเอียดดังนี้

Thailand 4.0 คืออะไร ?

“ประเทศไทย 4.0” เป็นรูปแบบโมเดลการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่ “Value–Based Economy” หรือ “เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม” ใน 3 มิติสำคัญ ได้แก่ เปลี่ยนจากการผลิตสินค้า “โภคภัณฑ์” ไปสู่สินค้าเชิง “นวัตกรรม” , เปลี่ยนจากการขับเคลื่อนประเทศด้วยภาคอุตสาหกรรม ไปสู่การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมและ เปลี่ยนจากการเน้นภาคการผลิตสินค้า ไปสู่การเน้นภาคบริการมากขึ้น โดย 5 กลุ่มเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มอาหาร เกษตร และเทคโนโลยีชีวภาพ (Food, Agriculture & Bio-Tech) ,กลุ่มสาธารณสุข สุขภาพ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Health, Wellness&Bio-Med) ,กลุ่มเครื่องมืออุปกรณ์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ และระบบเครื่องกลที่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุม (Smart Devices, Robotics & Mechatronics) ,กลุ่มดิจิตอล เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมต่อและบังคับอุปกรณ์ต่างๆ ปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีสมองกลฝังตัว (Digital, IoT, Artificial Intelligence & Embedded Technology) , กลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ วัฒนธรรม และบริการที่มีมูลค่าสูง (Creative, Culture & High Value Services) ซึ่งเชื่อว่าทั้ง 5 กลุ่มข้างต้นจะเป็น แพลทฟอร์มในการสร้าง “New Startups” ต่างๆ เช่น เทคโนโลยีการเกษตร (Agritech) ,เทคโนโลยีสุขภาพ (Healthtech), เทคโนโลยีหุ่นยนต์ (Robotech) ,เทคโนโลยีด้านการเงิน (Fintech) ,อี–คอมเมิร์ซ (E–Commerce) ,เทคโนโลยีการท่องเที่ยว (Traveltech) เป็นต้น

เศรษฐกิจไทยปี 2560 ?

จากการเน้นย้ำความสำคัญด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากโมเดล Thailand 4.0 พื้นฐานความเป็นไปของเศรษฐกิจประเทศจะยังคงเกี่ยวข้องกับ รายจ่ายของรัฐบาล Government spending ,การลงทุนภาคเอกชน Investment ,การบริโภคภาคเอกชน Consumption ซึ่ง TerraBKK Research ส่งต่อรายละเอียดดังนี้

  • ภาครัฐ : ปี 2560 ลักษณะคล้ายคลึงกับปี2559 ที่ผ่านมา แต่จะเน้นภาคปฏิบัติการลงทุนจริง จากการวางแนวทางและเตรียมความพร้อมเงินทุน การจัดหาทุนการร่วมมือกับต่างชาติ การร่วมมือระหว่างรัฐบาลและเอกชน (Public Private Partnership) งบประมาณรายจ่ายภาครัฐ รวมทั้ง การจัดการประมูลโครงการรถไฟฟ้าหลากสี ,มอเตอร์เวย์ ,รถไฟรางคู่ ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2559
  • การลงทุนภาคเอกชน : จากภาครัฐส่งเสริมอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มเทคโนโลยี เป็นต้น รวมทั้ง โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economics Corridor Development – EEC) เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันการลงทุนในพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกของไทย ปรับระบบโลจิสติกส์ภาคตะวันออก ท่าเรื่องสนามบิน รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้าความเร็วสูง เป็นต้น ทั้งหมดนี้ เชื่อว่าจะเป็นตัวจุดประกายให้ภาคเอกชนเชื่อมั่นและเกิดการลงทุนตามมา
  • การบริโภคภาคเอกชน : ภาครัฐยังคงใช้มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชน อย่างมาตรการล่าสุดเมื่อปี 2559 เช่น มาตรการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อยที่ไม่ใช่เกษตรกร หรือ “คนจนในเมือง” ที่มาลงทะเบียนกับโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ โดยผู้ที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 30,000 บาท ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐคนละ 3,000 บาท และผู้ที่มีรายได้ต่อปี ตั้งแต่ 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ได้รับเงินช่วยเหลือคนละ 1,500 บาท เป็นต้น

ธุรกิจอสังหา ในปี 2560 ?

กลุ่มนี้ยังได้รับประโยชน์สอดคล้องตามสถานการณ์การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานประเทศ ซึ่งปี 2560 จะเป็นปีที่เกิดการลงทุนจริง มีเงินไหลเข้าจริง ดำเนินการรับช่วงต่อจากการเปิดประมูลรถไฟหลากสีในช่วงปลายปี 2559 ที่ผ่านมา TerraBKK Research สรุปแนวทางการลงทุนหุ้นกลุ่มอสังหา รายละเอียดดังนี้

  • ลงทุนหุ้น ในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง จะเป็นลักษณะเล่นเกร็งกำไรตามข่าวเป็นหลักตลอดปี 2559 ที่ผ่านมา เช่น ข่าวยื่นซองประมูล ข่าวชนะการประมูล เป็นต้น แต่ในปี 2560 สามารถลงทุนตามพื้นฐาน เพราะมีเม็ดเงินที่ไหลเข้ามาจริง ๆ ปัจจัยกีดกันในการคัดเลือกผู้ชนะการประมูล จะเป็นเรื่องความน่าเชื่อถือของบริษัทนั้น ๆ กลุ่มหลักยังคงเป็น อิตาเลียนไทย (ITD), ช.การช่าง (CK) , ซิโน-ไทย (STEC) , ยูนิค (UNIQ) สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีชมพูที่เป็น PPP โดดเด่นก็จะเป็นกลุ่ม BTS พร้อมพันธมิตร หรือ กลุ่ม BEM พร้อมพันธมิตร
  • ลงทุนหุ้น ในกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย ในปีที่ผ่านมา พบว่าพีคในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2559 จากการกระตุ้นภาครัฐ ไตรมาส3 ชะลอตัว ส่วนไตรมาสที่ 4 ก็จำเป็นต้องเลื่อนการเปิดตัว presale ออกไป จากเหตุการณ์ในประเทศ ทั้งหมดนี้กดดันให้ราคาหุ้นกลุ่มนี้ลดลง ค่า p/e ลดลง ส่งผลให้อัตราปันผลดูดีขึ้น ดังนั้นก็เป็นโอกาสที่ดีในการเก็บหุ้นพื้นฐานแข็งแรงเข้าพอร์ตเพื่อรับเงินปันผลในปี 2560 เช่น แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) เป็นต้น

ธุรกิจธนาคารการเงิน ในปี 2560 ?

TerraBKK Research อย่างที่ทราบกันดี ผลกระทบจากยุคเทคโนโลยี ทำให้ธนาคารจำเป็นต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลงรูปแบบบริการตาม generation จากเดิมลูกค้าถนัดที่จะพูดคุยกับพนักงานที่เป็นคนมากกว่า พอมาคนยุคนี้ ลูกค้าชอบความสะดวกสบาย ใช้ Mobile Banking เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญการใช้ระบบเทคโนโลยี machine learning เข้ามาช่วยวิเคราะห์หารายได้จากสิ่งที่ลูกค้าต้องการ FinTech จึงมีความสำคัญ รวมทั้ง Blockchain เทคโนโลยีที่ช่วยสร้างความปลอดภัย น่าเชื่อถือ โดยไม่ต้องอาศัยคนกลาง ทั้งหมดนี้ต่อไปจะทำให้การทำงานระหว่างลูกค้าและสถาบันการเงินธนาคารมีประสิทธิภาพมากขึ้น ต้นทุนจะลดลงไปเรื่อยในอนาคต ธนาคารใหญ่หลายแหล่งเริ่มจับมือกับบริษัทช่วยเหลือด้านนี้ เช่น BAY ,KBANK จับมือกับ IBM เริ่มจัดทำ Blockchain ขณะที่ SCB อยู่ระหว่างการศึกษา ส่วน BBL เป็นสมาชิก Global bank ในกลุ่ม R3 ร่วมมือกันพัฒนารูปแบบบริการทางการเงินใหม่ๆ เรียกว่า Distributed Ledger เพื่อรองรับการให้บริการทางการเงินในอนาคต

  • ลงทุนหุ้น ในกลุ่มธนาคาร เชื่อว่า ปัจจัยพื้นฐานธุรกิจกลุ่มนี้ มักมีการเติบโตสอดคล้องกับ GDP ประเทศ ภาพรวมจึงยังทรงตัว 3-5%ไม่ได้โตโดดเด่นในเรื่องรายได้ หากมองเรื่องตั้งสำรองฯ กลุ่มธนาคารเล็กที่เน้นเช่าซื้อรถยนต์ รถคันแรกก็จบไปแล้ว ปีหน้าก็น่าจะลดตั้งสำรองออกได้ กลุ่มธนาคารใหญ่ SCB จะปรับโครงสร้าง SSI มีผลต่อการลดการตั้งสำรองฯ เป็นต้น

กลุ่มสื่อสาร ในปี 2560 ?

กลุ่มสื่อสารนี้ เพื่อให้ก้าวทัน Thailand 4.0 ภาครัฐยังคงเป็นตัวหลักและมีบทบาทสำคัญในการการผลักดันโครงสร้างพื้นฐานด้านโครงข่ายคมนาคมให้เพียงพอและทันสมัยต่อการใช้งาน สำหรับผู้ประกอบการเอกชน ค่อนข้างมีความพร้อมตอบสนอง ขอแค่มีสัญญาณมา ก็พร้อมประมูลและลงเครือข่าย เปิดบริการการใช้งานของลูกค้า การลงทุนของภาคเอกชนก็ยังอยู่บนพื้นฐานของกำไรและความคุ้มค่าในการลงทุนนั้นด้วย สำหรับปี 2560 ยังคงรอความพร้อมทางภาครัฐหลังการเปลี่ยนผ่านจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ไปสู่โครงสร้างใหม่และเปลี่ยนชื่อเป็นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ทั้งนี้เรื่องของศักยภาพด้านนี้ ยังเชื่อว่าประเทศไทยยังอยู่ในอันดับต้น ๆ ของกลุ่ม AEC เป็นรองจากประเทศสิงคโปร์เท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ในการผลักดัน อย่างเหล่า Start up และ Application ใหม่ๆ เชื่อว่าต่อไปน่าจะมีบริษัทใหม่ๆ เข้าตลาดหลักทรัพย์ประเภทนี้มากขึ้น TerraBKK Research สรุปแนวทางการลงทุนหุ้นกลุ่มสื่อสาร รายละเอียดดังนี้

  • ลงทุนหุ้น ในกลุ่มสื่อสาร 3รายใหญ่ยังคงแข่งขันรุนแรง เพื่อรักษาลูกค้าหรือขยายฐานลูกค้ากันต่อไป รวมทั้งการดำเนินงานภานใต้ฐานต้นทุนที่สูงขึ้นจากการประมูลคลื่นที่ผ่านมา ความไม่สมดูลทางสัดส่วนการตลาดจะทำให้หุ้นกลุ่มนี้ยังคงมีการแข่งขันสูง ภาพรวมรายได้กลุ่มนี้จะยังคงทรงตัว รายได้จากดาต้าจะเพิ่มขึ้น แต่รายได้จากเสียงจะลดลง ส่วนนักลงทุนที่เลือกลงทุนหุ้นกลุ่มนี้เพื่อหวังเงินปันผล อัตราปันผลเฉลี่ยราว 6% ปี 2560 มีความเสี่ยงที่จะเป็นไปได้ว่า นโยบายเงินปันผลอาจจะไม่ได้ดีอย่างที่เคยเป็นมา จากการกั้นเงินเพื่อเป็นทุนสำรองรอการประมูลคลื่นในอีก 2 ปีข้างหน้าต่อไป

กลุ่มพลังงาน ในปี 2560 ?

สำหรับกลุ่มพลังานเป็นกลุ่มใหญ่ อาจจะมองออกได้ยาก หากจะจับจุดที่ว่าบริษัทไหนที่สามารถสร้าง innovation , efficiency และ sustainabilityได้ จะก้าวหน้าต่อไปได้ในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ ราคาสินค้ากลุ่มนี้เป็นราคา Global ไม่สามารถจะตั้งราคาเองได้ ไม่เหมือนกลุ่มอื่น TerraBKK Research สรุปแนวทางการลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน รายละเอียดดังนี้

  • ลงทุนหุ้น ในกลุ่มพลังงาน ควรเลือกบริษัทที่เก่งด้านการปรับตัว ที่สามารถสร้างสมดุลได้ทั้งความสามารถในการทำกำไรและความยั่งยืน ภายใต้การแกว่งตัวของราคาที่ไม่อาจกำหนดเองได้ แต่ยังทำให้บริษัทมีการเติบโตขึ้นไปตลอด เช่น กลุ่มปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัย R&D เยอะมาก เป็นประโยชน์ในการดำเนินงาน ส่งผลให้ margin ปรับตัวดีขึ้นเรื่อย ๆ , กลุ่มปตท.(PTT) ปรับตัวจากน้ำมัน , ก๊าซ และล่าสุด New Business Model อย่าง Mini Community Mall ในปั๊มน้ำมัน , บมจ.อินโดรามา(IVL) เป็นต้น
  • ปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้การลงทุนหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้มีความน่าสนใจ ภาพใหญ่มาจาก นโยบายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เข้ามาสนับสนุนเรื่องของพลังงานและถ่านหินเป็นสำคัญ จึงคาดการณ์ว่าแนวโน้มปีหน้ากลุ่มพลังงานจะปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น

ข้อมูลอ้างอิง : สัมมนา “Flowing with the tide in Thailand” ของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บทความโดย : TerraBKK เคล็ดลับการลงทุน TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก