เจาะสูตรลับ “นักลงทุน” กับเทคนิคบริหารรายได้ สู่ อิสรภาพทางการเงิน

คุณอนุพงศ์ ชัยยะราษฎร์ (ไม้แบด)

บริหารรายได้อย่างไรให้มีเงินเก็บ คงเป็นคำถามที่ใครหลายๆคนอยากที่จะไขข้อสงสัย เพราะด้วยยุคสมัยที่เต็มไปด้วยค่านิยมที่ฟุ้งเฟ้อ บวกกับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ที่สวนทางกับรายได้ จนเป็นเหตุให้มนุษย์เงินเดือนเกิดอาการคิดไม่ตกกับปัญหาทางการเงินของตัวเอง แต่ในทุกๆปัญหาย่อมมีทางแก้ หากเรารู้จักคิดและวางแผนให้รอบคอบในสไตล์มนุษย์เงินเดือน ทีมงาน TERRA BKK พาทุกท่านมาไขข้อข้องใจ กับเจ้าของกระทู้ “ข้อคิดสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่อยากมีอิสรภาพทางการเงิน” คุณอนุพงศ์ ชัยยะราษฎร์ (ไม้แบด) กูรูทางด้านการเงินและนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่จะมาเผยเทคนิค การบริหารรายได้ สู่ อิสรภาพทางการเงิน แบบบอกหมดไม่มีกั๊ก

ผมเป็นคนนึงที่พอใจจะซื้อคอนโดเป็นสิบๆที่ ดีกว่าซื้อรถหนึ่งคัน และคนเราไม่ควรมีรายได้ทางเดียว อีกทั้ง "การลงทุน" จะเงินมาก เงินน้อย ไม่สำคัญแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นคือ "การเรียนรู้"

มีออม..ไม่มีอด

อิสรภาพทางการเงิน มักจะเริ่มต้นมาจากคำว่า “ออม” การออมเงิน เป็นสิ่งจำเป็นในการเพิ่มความมั่นคงให้กับชีวิต แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังไม่รู้วิธีการออมเงินที่ได้ผลหรืออาจจะยังไม่เห็นประโยชน์ในการออม “การทำรายรับรายจ่าย”เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญ เพราะจะทำให้เราเห็นภาพว่าในแต่ละเดือนเรามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง แล้วเมื่อหักลบกลบหนี้แล้ว จะเหลือเงินเท่าไหร่สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องไม่ลืมที่จะเก็บออมด้วย “ผมคิดว่าจุดเริ่มต้นของทุกคน ต้องเริ่มจากการออมเงินก่อน ซึ่งในแต่ละช่วงวัยมันมีภาระที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นคุณยิ่งออมเร็ว คุณจะมีฐานะทางการเงินที่ดี ผมแนะนำให้ออมที่ 30% เพราะนั้นจะทำให้คุณมั่นใจว่าหลังจากที่คุณเกษียณไปแล้ว คุณจะมีเงินออมที่มากพอสำหรับการใช้ชีวิตหลังเกษียณ และผมเองเป็นคนนึงที่ยอมเสียเวลาทั้งวันเพื่อนั่งทำบัญชีรายรับรายจ่ายของตัวเอง ซึ่งข้อนี้หลายคนอาจจะมองข้ามไป แต่มันเป็นวิธีที่จะช่วยให้เราเห็นภาพในการบริหารเงินได้ดี”

ต่อยอดเงินออม

หลังจากมีเงินออมแล้ว คำถามที่จะตามมาคือ ทำอย่างไรถึงจะมีเงินเก็บมากขึ้น ซึ่งวิธีการบริหารเงินมีอยู่หลายรูปแบบไม่มีวิธีการหรือกฏเกณฑ์ที่แน่นอน แนวทางการบริหารเงินก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับรายได้ และหลังจากที่ข้างต้นได้กล่าวถึงการออมเงินไปแล้ว แต่คำถามก็คือ เราจะทำให้เงินที่ออมอยู่งอกเงยได้อย่างไร นอกจากการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ แล้วยังมีวิธีไหนที่จะมาทำให้เงินออมของเราโตขึ้น “คิดง่ายแบบเบสิคเลยครับ เราทำอะไรแล้วเราได้ตังค์ เราจะทำอันนั้น ผมเคยลงทุนหุ้น ลงทุนกองทุนรวม ตั้งแต่อายุ 22 โดดมาจนอายุ 32 ผมจึงค้นพบว่าตัวเองว่า ลงทุนอสังหาฯแล้วได้กำไรที่สุด เพราะว่าทั้งปล่อยเช่าทั้งขายดาวน์ ผมเลือกลงทุนคอนโดครับ ศึกษา และเริ่มก้าวแรกที่ทำเลพระราม 9 จุดเริ่มต้นดีเลยทำให้ต่อยอดไปได้เรื่อย ส่วนใหญ่ตอนนี้เงินของผมก็จะไปลงที่อสังหาฯ ถัดมาก็เป็นกองทุนรวม แล้วอสังหาฯตั้งแต่ลงทุนมายังไม่เคยขาดทุน อย่างที่บอกว่าเราทำอะไรแล้วได้เงิน ก็ทำอย่างนั้น” คุณอนุพงศ์ กล่าว

เคล็ด (ไม่) ลับ

นอกจากเรื่อง การลงทุน เพื่อต่อยอดเงินออมแล้ว หลักการในบริหารจัดการเงินก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะ “เงิน” คือปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิต ดังนั้นวิธีการบริหารให้เงินเกิดประโยชน์สูงสุดจะเป็นไปได้อย่างไร ? สำหรับ คุณไม้แบด นั้นมี 10 ข้อจัดทัพการเงิน ดังนี้

  1. “ออมเร็ว” เริ่มจากการออมเงิน คงไว้ที่ 30% ของรายได้ เพราะการออมเร็ว ฐานะทางการเงินย่อมดีกว่า วางรากฐานสู่อนาคตที่ดีหลังวัยเกษียณ
  2. “ซื้อบ้านก่อนซื้อรถ” เพราะการซื้อรถนั้นมูลค่ามีแต่ลดลงไม่เพิ่มขึ้นตามกาลเวลา กลับกันกับการซื้อบ้าน ที่มูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา เช่น ในปี 2559 อสังหาริมทรัพย์ เพิ่มขึ้น 6% จากปี 2558
  3. “ผ่อนบ้านสองเท่า” ดอกเบี้ยจะจ่ายน้อยลงทันที อาทิ ยื่นขอสินเชื่อ 30 ปี สิ่งที่ควรทำคือ จ่าย 2 เท่าของจำนวนที่ธนาคารกำหนดต่อเดือน และ ขอรีไฟแนนซ์ทุก 3 ปี เพื่อเป็นการลดดอกเบี้ย เมื่อลองคำนวณดูจะพบว่าหนี้ซื้อบ้านที่เป็นอยู่ 30 ปี จะเหลือแค่ 9 ปี
  4. “ไม่ควรมีรายได้ทางเดียว” จัดการเวลาเพื่อหาช่องทางในการสร้างรายได้ สำหรับคุณไม้แบด ปัจจุบันมีรายได้ 3 ทาง คือ 1)ทำงานประจำและขายบัตรเครดิต 2) ทำอาชีพ Blogger และ 3)เป็นนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์
  5. “กำหนดอัตราส่วนทางการเงินส่วนบุคคล ท่องไว้ในใจ” อาทิ 1.อัตราการออม 40% 2.รายได้ต้องเพิ่มขึ้น 15% ต่อปี 3.หนี้สินต้องไม่เกินทรัพย์สิน 2 เท่า
  6. “ควบคุมภาษีจ่าย” เมื่อจ่ายภาษีลดลง เงินออมของท่านก็จะเพิ่มขึ้น โดยภาษีที่จ่ายจริงต้องไม่เกิน 10% ของรายได้ พยายามควบคุมเพราะภาษีที่จ่ายไปคือเงินที่หายไปนั่นเอง
  7. “การประกันชีวิต” เพื่อเป็นเงินทุนสำรองลดค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดวิกฤต ทั้ง ประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพ และประกันโรคร้ายแรง
  8. “ประหยัดค่าใช้จ่าย” อาทิ ยื่นขอ Refinance ดอกเบี้ยทุกๆ 3 ปี, ประหยัดน้ำมันโดยการติดแก็ส และซื้อของออนไลน์ ประหยัดค่าเดินทาง
  9. “ลงทุนเพิ่มคุณค่าให้ตัวเอง” ทั้ง การศึกษา, การเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ และอาหารการกิน สำหรับคุณไม้แบด มองว่าการส่งเสริมการศึกษาให้ลูกนั้น จะมุ่งเน้นไปที่โรงเรียนแนวทางเลือก เก่งภาษา เก่งคณิตศาสตร์
  10. “วางแผนเกษียณ” วางแผนเกษียณจากงานประจำตอนอายุ 45 ปี แต่ไม่ใช่ว่าจะเลิกทำงาน โดยหลัง 45 ปี จะทำงานการสอนเป็นอาจารย์ตามมหาวิทยาลัย มีอาชีพBlogger และเป็นนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์

สัดส่วนการจัดทัพการออมส่วนบุคคลของคุณไม้แบด

การบริหารรายได้อย่างไรให้มีเงินเก็บ ซึ่งหลักการสำคัญ คือ เรื่องของการออมและนำเงินออมไปต่อยอดให้เกิดผลกำไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องของการวางแผนในอนาคตก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะหากไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนของการเก็บเงิน ก็อาจจะทำให้ไม่อยากที่จะออมต่อไป ดังนั้นไม่มีสูตรสำเร็จในเรื่องการออม ถนัดแบบไหนเลือกแบบนั้น แต่เป้าหมายท้ายที่สุดก็คือเพื่อเป็นหลักประกันทางการเงินในอนาคตสู่ อิสรภาพทางการเงิน ต่อไป

บทความโดย : TerraBKKเคล็ดลับการลงทุน TerraBKKค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก