วอร์เร็น บัฟเฟตต์ หนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของโลก นิยามถึงการลงทุนในแบบฉบับของตัวเองไว้ในหนังสือ "The Tao of Warren Buffett" ว่า "ผมเป็นนักลงทุนที่ดีเพราะผมเป็นนักธุรกิจ และผมเป็นนักธุรกิจที่ดีเพราะผมเป็นนักลงทุน" เพราะนักธุรกิจผู้ชาญฉลาดจะแยกธุรกิจที่ดีออกจากธุรกิจที่ไม่ดีได้ เช่นเดียวกับนักลงทุนที่ดีย่อมแยกแยะได้ว่า หุ้นตัวนั้นกำลังขายในราคาถูกหรือราคาแพงกว่าที่มันควรจะเป็น

นอกจากจะท่องจำประโยคที่ว่า "การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจ" ให้ขึ้นใจก่อนกระโดดลงมาในโลกของตลาดหุ้น (โดยไม่อยากเป็นเจ้าของหุ้นติดดอย) หรือคนที่อยู่ในโลกของการลงทุนอยู่แล้ว แต่อยากประสบความสำเร็จและอยากมั่งคั่งเช่นเดียวกับ 5 นักลงทุนระดับโลก

5 คำคมที่โด่งดังของนักลงทุนระดับท็อปเหล่านี้ อาจจุดประกายความคิดให้คุณกลายเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว ไม่แน่คุณอาจเป็นหนึ่งในตองอูที่ร่ำรวยมหาศาลเช่นเดียวกับพวกเขาก็เป็นได้

1. ฟิลลิป ฟิชเชอร์ (Philip Arthur Fisher) นักลงทุนชื่อดังชาวอเมริกัน ผู้ได้รับการยกย่องให้เป็น "บิดาแห่งการลงทุนที่เน้นการเติบโต" (Growth Investing) ทั้งยังเป็นหนึ่งในนักลงทุนชั้นครูที่ วอร์เร็น บัฟเฟตต์ นับถืออย่างมาก ได้กล่าวว่า "ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยผู้คนที่รู้ "มูลค่า" ของทุกสิ่ง แต่กลับไม่รู้ "คุณค่า" ของมัน" ด้วยเพราะสถิติระบุว่า นักลงทุนที่ขาดความรู้และการค้นคว้าหาข้อมูล ย่อมนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด ฟิลลิปยังบอกด้วยว่า การค้นคว้าหาข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ มากกว่าการรับฟังความคิดเห็นของเหล่าคนดังเสียอีก

2. วอร์เร็น บัฟเฟตต์ ในฐานะชายที่ประสบความสำเร็จทั้งในแวดวงธุรกิจและตลาดหลักทรัพย์ มีความลับที่อยากบอกกับนักลงทุนทั่วโลก "ผมจะบอกให้ฟังว่า คุณต้องทำอย่างไรถึงจะร่ำรวยจากการลงทุน ก่อนอื่นคุณต้องปิดประตู จงระวังเมื่อผู้อื่นเกิดความโลภ และจงโลภเมื่อผู้อื่นระวังตัว" นี่เป็นเทคนิกยอดนิยมของวอร์เร็น เวลาที่หุ้นดิ่งลงเขาจะเข้าไปช้อนซื้อหุ้นในตลาด และเขาจะดีดตัวออกขณะที่หุ้นกำลังพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว

3. นักลงทุน บรรณาธิการ นักเขียนผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Research Affiliates อย่าง โรเบิร์ต อาร์น็อตต์ (Robert D. Arnott) มองว่า "ในโลกของการลงทุน เมื่อไหร่ที่รู้สึกสบายย่อมหมายถึง คุณจะไม่ได้กำไรจากการลงทุน" พูดง่ายๆ ก็คือ คุณกำลังติดอยู่กับ "Comfort Zone" ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจในช่วงเวลาที่เหมาะสม จนนำไปสู่การขาดทุนในที่สุด โรเบิร์ตแนะนำให้คุณค่อยๆ ก้าวออกจาก Comfort Zone และให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ตัวเองในฐานะนักลงทุน มากพอกับการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด ทบทวนตัวเองว่า คุณมักเลือกที่จะเก็บหุ้นไว้ขณะที่นักลงทุนคนอื่นๆ กำลังกระโดดออกจากเรือ หรือตัดสินใจเทขายหุ้นในช่วงที่เกิดเหตุการณ์สำคัญๆ เพราะท้ายที่สุดกลยุทธ์ที่ดีที่สุดก็แปรเปลี่ยนเป็นมุมมองที่เลวร้ายที่สุดได้ หากคุณมองข้ามมันไป

4. "เตือนตัวเองอยู่เสมอว่า คุณเป็นนักลงทุน ไม่ใช่นักเสี่ยงโชค" เป็นคำกล่าวของ เบนจามิน เกรแฮม (Benjamin Graham) บิดาแห่งการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investment) เจ้าของทฤษฎีด้านการลงทุนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงแห่งศตวรรษที่ 20 ทั้งยังเป็นที่ปรึกษาของ วอร์เร็น บัฟเฟตต์ คำพูดนี้เบนต้องการย้ำเตือนเหล่านักลงทุนทั้งหลายว่า พวกคุณต่างก็เป็นนักลงทุนไม่ใช่นักพยากรณ์ ดังนั้นจงตัดสินใจบนพื้นฐานของการวิเคราะห์จากข้อเท็จจจริง แทนที่จะเลือกเสี่ยงกับความไม่แน่นอนของการคาดเดาหรือศาสตร์การพยากรณ์

5. นอกจากจะประสบความสำเร็จในฐานะชาวอเมริกันคนแรกที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขา Economic Sciences และบิดาแห่งเศรษฐศาสตร์สมัยใหม่ พอล แซมมวลสัน (Paul Samuelson) นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังชาวอเมริกัน มีมุมมองความคิดที่อยากแบ่งปันต่อนักลงทุนรุ่นใหม่ "การเล่นหุ้นก็เปรียบเสมือนการที่คุณเฝ้ามองภาพเขียนหรือการเจริญเติบโตของต้นหญ้า แต่ถ้าคุณต้องการความตื่นเต้นเร้าใจแล้วล่ะก็ เอาเงิน 800 ดอลล่าร์ไปลาสเวกัสดีกว่า" เพราะถ้าคุณคิดว่า การเล่นหุ้นเหมือนการพนัน บอกเลยว่า ผิดถนัด! การเล่นหุ้นต้องอาศัยการวางแผนและความอดทน ถึงอย่างนั้นความตื่นเต้นที่คุณจะได้รับจากการเล่นหุ้น เกิดจากการเฝ้ามองมูลค่าของคุณหรือผลกำไรที่เติบโตขึ้นนั่นเอง

จากคำคมของเหล่าคนดังระดับโลกทั้ง 5 คน อาจกล่าวได้ว่า การลงทุนในตลาดหุ้นเหมาะสำหรับคนที่พร้อมเผชิญความเสี่ยง รักการค้นคว้าข้อมูลและการวิเคราะห์สถานการณ์ ตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อเท็จจริงไม่ยึดคำทำนายของหมอดู ที่สำคัญนักลงทุนต้องรู้จักตัวเองอย่างดี เพื่อนำไปสู่รูปแบบการลงทุนที่เหมาะกับตัวเอง

อ้างอิงข้อมูลจาก : www.investopedia.com บทความโดย TerraBKK คลังความรู้