ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย "แม่เจ้าพระยา" ก็ยังคงเป็นไฮไลท์สำคัญของกรุงเทพมหานคร ด้วยความที่แม่น้ำเจ้าพระยาเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ ทั้งในด้านการเดินทางและวิถีชีวิต เป็นแหล่งท่องเที่ยว แหล่งไลฟ์สไตล์ รวมร้านอาหาร โรงแรมชั้นเลิศ และคอนโดมิเนียมอีกหลายโครงการ เรียงรายริม 2 ฝั่งเจ้าพระยา วันนี้ TerraBKK ขอจัดอันดับโครงการคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ยังเปิดขายอยู่ในปัจจุบัน โดยไล่เรียงตามลำดับความสูง (ชั้น) ของตัวอาคาร เริ่มต้นกันที่

คลิกเพื่อขยาย

อันดับที่ 1 : Four Seasons Private Residences Bangkok at Chao Phraya River (โฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์)

คอนโดมิเนียมหรูริมเแม่น้ำเจ้าพระยาที่สูงเป็นอันดับ 1 ด้วยความสูง 73 ชั้น จากบริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ Four Seasons Hotel & Resorts ขนาดพื้นที่ใช้สอย ตั้งแต่ 115-1.050 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นปัจจุบันอยู่ที่ 30 ล้านบาท หรือ 260,000 บาท/ตร.ม. คาดโครงการแล้วเสร็จ ปลายปี 2018 www.chaophrayaestate.com

อันดับที่ 2 : โครงการ The River (เดอะ ริเวอร์)

คอนโดมิเนียมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา จากค่าย Raimond Land มาเป็นอันดับสอง กับความสูง 71 และ 45 ชั้น The River เป็น โครงการแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 36 ล้านบาท หรือ 264,000 บาท/ตร.ม. ในปี 2555 The River ยังได้รับรางวัล ได้รับรางวัล "โครงการคอนโดมิเนียมที่ดีที่สุด (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้)" จากงาน South East Asia Property Awards www.raimonland.com

อันดับที่ 3 : โครงการ The Politan Aqua (เดอะ โพลิแทน เอควา)

โครงการริมแม่น้ำใหม่ล่าสุดจากค่ายเอเวอร์แลนด์ เตรียมเปิดจอง 18-19 มี.ค. นี้ ที่คราวนี้ เปิดเฟส 4 ด้วยคอนโดมิเนียมสูง 61 ชั้น ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในราคาที่จับต้องได้ ด้วยผลงานการออกแบบจาก Palmer and Turner ซึ่งรับประกันความหรูหรา พร้อมออกแบบให้ทุกห้องได้สัมผัสวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ขนาดพื้นที่ใช้สอย ตั้งแต่ 24 - 60 ตร.ม. 1 ห้องนอน ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.29 ล้านบาท หรือ ราคา 54,100 บาท/ตร.ม. พิเศษสำหรับ 2 ห้องนอน ทางโครงการจัดเต็มด้วยเฟอร์นิเจอร์ครบชุด (Fully-Fitted) “Euro creation” นำเข้าจากต่างประเทศ คาดโครงการแล้วเสร็จ ปี 2020
 www.thepolitancondo.com

อันดับที่ 4 : โครงการ Canapaya Riverfront Residence Rama 3 (คณาพญา เรสซิเดนซ์)

คอนโดมิเนียมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ถูกพัฒนาเป็นโครงการ Mixed-Use ขนาดใหญ่ บนถนนพระราม 3 กับความสูง 57 ชั้น โดยคณาพญา พร็อพเพอร์ตี้ ขนาดพื้นที่ใช้สอยมีให้เลือกตั้งแต่ 45 - 502 ตร.ม. ราคาปัจจุบันเริ่มต้นที่ 10.3 ล้านบาท หรือ 231,000 บาท/ตร.ม. คาดโครงการแล้วเสร็จ ปลายปี 2017 www.canapaya.com

อันดับที่ 5 : The Politan Rive


คอนโดมิเนียมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาโครงการแรก กับความสูง 56 ชั้น ที่ใกล้ฮับคมนาคมครบวงจรทั้ง รถ-ราง-เรือ ณ สถานีพระนั่งเกล้า ของค่ายเอเวอร์แลนด์ ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2559 ที่การันตีว่าไม่ว่าจะพักห้องไหนก็สามารถมองเห็นวิวพระอาทิตย์ตกดินริมแม่น้ำ มีขนาดพื้นที่ใช้สอยให้เลือกตั้งแต่ 24.5-60 ตร.ม. ปัจจุบันเริ่มต้นที่ 2 ห้องนอน ราคาเริ่มต้นที่ 4.99 ล้านบาท หรือ 81,500 บาท/ตร.ม. คาดโครงการแล้วเสร็จ ปลายปี 2019 www.thepolitancondo.com

อันดับที่ 6 : The Pano Rama 3 (เดอะ พาโน พระราม 3)


คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่จากค่าย KLand กับความสูง 55 ชั้น ที่รังสรรค์ความสวยงามของธรรมชาติให้กลมกลืนกับการใช้ชีวิต กับ 2 ห้องนอน ราคาเริ่มต้นที่ 19 ล้านบาท หรือ 122,500 บาท/ตร.ม. www.thepano.com

อันดับที่ 7 : Menam Residence (แม่น้ำ เรสซิเดนท์)

โครงการที่มาพร้อมความสูง 54 เมตร เจ้าของโครงการ คือ Menam Group – RAMADA Plaza Hotel ที่มีประสบการณ์การบริหารโรงแรมมายาวนาน โครงการนี้การันตีว่าทุกห้องที่ลูกค้าเลือกจะได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างแน่นอน ราคาปัจจุบันเริ่มต้นที่ 8.1 ล้านบาท หรือ 180,000 บาท/ตร.ม. www.menamresidences.com

อันดับที่ 8 : The Residences at Mandarin Oriental Bangkok (เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล)

1 ใน 2 คอนโดมิเนียมหรู ใน ICONSIAM อภิมหาโปรเจค 5 หมื่นล้าน ริมฝั่งเจ้าพระยา ของ บริษัท ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่พักอาศัยแบรนด์ Mandarin Oriental Hotel Group ด้วยความสูง 52 ชั้น ราคาปัจจุบันเริ่มต้นที่ 55 ล้านบาท หรือ 366,000 บาท/ตร.ม. คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จ ไตรมาส 4 ปี 2018 www.moresidencesbangkok.com

อันดับที่ 9 : โครงการ 333 Riverside Condominium (คอนโด 333 ริเวอร์ไซด์)


คอนโดมิเนียมริมโค้งน้ำเจ้าพระยา ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสายน้ำ บนมุมมองที่ดีที่สุดของในย่านเกียกกาย จากแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ด้วยความสูง 45 ชั้น โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ และพร้อมเปิดให้ชมห้องจริงวิวจริง ราคาปัจจุบันเริ่มต้นที่ 5.99 ล้านบาท หรือ 131,000 บาท/ตร.ม. www.lh.co.th

อันดับที่ 10 : โครงการ My Resort @River (มาย รีสอร์ท แอท ริเวอร์)


คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่บนโค้งน้ำเจ้าพระยา จากเอเวอร์แลนด์ ด้วยความสูง 37 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอย ตั้งแต่ 156 - 433 ตร.ม. ปัจจุบันราคาเริ่มต้นที่ 18 ล้านบาท หรือ 115,000 บาท www.myresort.co.th

อันดับที่ 11 : โครงการ Supalai Riva Grand Rama 3 (ศุภาลัย ริวา แกรนด์ พระราม 3)

รีสอร์ท คอนโดมิเนียมบนโค้งน้ำที่สวยที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา จากค่ายศุภาลัย มูลค่าโครงการ 6,800 ล้านบาท ด้วยรูปแบบห้อง 1 – 4 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 53.5 – 433 ตารางเมตร ราคาปัจจุบันเริ่มต้นที่ 4.2 ล้านบาท หรือ 78,500 บาท/ตร.ม. คาดโครงการแล้วเสร็จ ปี 2020 www.supalai.com

อันดับที่ 12 : โครงการ Manor Sanambinnam (แมเนอร์ สนามบินน้ำ)

คอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยา อีกหนึ่งโครงการพร้อมอยู่ จากค่าย by Major Development ที่คงคอนเซ็ปต์ความหรูหราเพื่อสุนทรียภาพแห่งการอยู่อาศัยตามแบบฉบับของ เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ กับคอนโดมิเนียมสูง 25 ชั้น 2 อาคาร และ 35 ชั้น 2 อาคาร ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 25-71 ตร.ม. บนถนนสนามบินน้ำ ติดกระทรวงพาณิชย์ ได้รับการออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ด้วยกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมโคโลเนียล ห้องวิวแม่น้ำ ราคาปัจจุบัน อยู่ที่ 1.8 ล้านบาท หรือ 69,000 บาท/ตร.ม. www.manorbymajor.com

อันดับที่ 13 : โครงการ U Delight Riverfront Rama 3 (ยู ดีไลท์ เรสซิเดนซ์ ริเวอร์ฟร้อนท์ พระราม 3)

คอนโดมิเนียม สูง 30 ชั้น ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จากค่ายแกรนด์ ยูนิตี้ ในคุณพักผ่อนๆง่ายๆ แบบชีวิตติดสายน้ำ ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาทหรือ 105,500 บาท/ตร.ม. www.grandunity.co.th

อันดับที่ 14 : The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ)

โครงการที่ 2 จากค่ายเอเวอร์แลนด์ ที่เปิดตัวโครงการไปเมื่อ ก.ค. 2559 ที่ผ่านมา โครงการ The Politan Breeze (เดอะ โพลิแทน บรีซ) คอนโด Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร บนพื้นที่กว่า 7 ไร่ครึ่ง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ขนาดพื้นที่ใช้สอย ตั้งแต่ 29 - 60 ตร.ม. ปัจจุบันราคาเริ่มต้น 1.8 ล้านบาท หรือ 62,000 บาท/ตร.ม. คาดโครงการแล้วเสร็จ 2018 www.thepolitancondo.com

อันดับที่ 15 : โครงการ Metro Luxe Riverfront Rattanathibet (เมโทร ลักซ์ ริเวอร์ฟร้อนท์ รัตนาธิเบศร์)

คอนโดรูปแบบใหม่สไตล์รีสอร์ท ทำเลติดริมแม่น้ำย่านรัตนาธิเบศร์ ให้คุณพักผ่อนแบบเป็นส่วนตัว คอนโด Low Rise 8 ชั้น โครงการพร้อมเข้าอยู่ ห้อง River View ปัจจุบันราคาเริ่มต้นที่ 2.77 ล้านบาท หรือ 95,500 บาท/ตร.ม. www.pf.co.th

คลิกเพื่อขยาย

คลิกเพื่อขยาย

พลิกฟื้นริมแม่น้ำเจ้าพระยากับโครงการจากภาครัฐ

การตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนโดยส่วนใหญ่ในสมัยก่อน มักจะตั้งบริเวณริมแม่น้ำ เพื่อประโยชน์ทั้งในการทำการเกษตร, การสัญจร และการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน ซึ่งความสำคัญของแม่น้ำในสมัยก่อนนั้น ย่อมเกี่ยวพันกับวิถีชีวิต

ภายหลังจากการเปิดโครงการ Asiatique The River Front ในปี 2555 ความคึกคักบริเวณริมแม่น้ำสำหรับแม่น้ำเจ้าพระยา ก็ได้เปลี่ยนผ่านจากพื้นที่ที่เกี่ยวกันกับวิถีชีวิต เป็นการเพิ่มเติมด้วยการเพิ่มศักยภาพทำเลทอง ของการเป็นสุดยอดทำเลแห่งที่อยู่อาศัย

ความตื่นตัวของการพัฒนาที่ดินบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา เริ่มชัดเจนมากขึ้น เมื่อภาครัฐให้สัญญานบวกในการเข้ามาลงทุนเพื่อพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นโครงการยักษ์ใหญ่ที่หลายสายตาจากกลุ่มทุนต่างเฝ้ามอง มิหนำซ้ำยังเกิดขึ้นพร้อมกันหลายโครงการ โดยมุ่งหวังว่าจะพลิกฟื้นทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้เป็นทำเลศักยภาพของการอยู่อาศัย, การเดินทาง, การอนุรักษ์รักษาวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวขึ้นมาอีกครั้ง โดยในบทความนี้ TerraBKK Research จะขอรวบรวมและอัพเดทความคืบหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาจากทางภาครัฐ เพื่อตอกย้ำถึงศักยภาพทำเลพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

โครงการถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา

โครงนี้ดำเนินการโดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นโครงการศึกษาความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ วิศวกรรม และสิ่งแวดล้อม มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ที่เริ่มผิดเพี้ยนไปจากข้อกำหนดทางผังเมือง ปัญหาการรุกล้ำพื้นที่ริมน้ำจากโรงงานและคลังสินค้า รวมไปถึงการเข้าถึงที่ยากลำบากของพื้นที่สองฝั่งรืมแม่น้ำ อีกทั้งยังไม่เชื่อมโยงกับระบบขนส่งมวลชนทางบกอื่นๆ โดยสอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ.2558-2565 โดยพื้นที่ศึกษาโครงการตั้งแต่สะพานปทุมธานี 1 จังหวัดปทุมธานี ผ่านจังหวัดนนทบุรี, กรุงเทพมหานคร, บางกระเจ้า, สมุทรปราการ และสิ้นสุดที่คลองลัดโพธิ์ รวมระยะทางตามแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกโดยประมาณ 140 กิโลเมตร มูลค่าโครงการ 35,835 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น 8 พื้นที่ทางเลือก (P:Project) ซึ่งแบ่งออกเป็น 15 พื้นที่ย่อย (S:Selection) พิจารณาจากการใช้ประโยชน์ที่ดิน เขตการปกครอง และการคมนาคม ดังนี้

โดยทิศทางการพัฒนา เป็นไปเพื่อรองรับกิจกรรมต่างๆที่จะเกิดขึ้นบริเวณชุมชน วิถีชีวิตชุมชนดั้งเดิมรวมไปถึงการรองรับนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างแลนด์มาร์คตลอดแนวฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยสิ่งที่จะเพิ่มขึ้นมาได้แก่

  • พื้นที่เพื่อการสัญจรริมน้ำ ได้แก่ ทางสัญจนเพื่อเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนระบบอื่นๆ เป็นเส้นทางกว้างเพียงพอรองรับการสัญจรจำนวนมากที่มีระยะทางสั้น เน้นความรวดเร็วในการเดินทาง ทางสัญจรเชื่อมโยงระหว่างชุมชนเปิดโล่งสาธารณะและทางสัญจรเพื่อนันทนาการ เป็นทางสัญจรขนาดเล็ก ไม่เน้นการใช้ความเร็วในการเดินทาง เส้นทางเข้าถึงพื้นที่ริมน้ำ สะพานคนเดินหรือจักรยาน เชื่อมโยงระหว่างชุมชน/เมืองสองฝั่งแม่น้ำ จุดเปลี่ยนภ่ายการเดินทางริมน้ำ และท่าเรือเชื่อมต่อการเดินทางทางน้ำ
  • ศูนย์กลางกิจกรรมริมน้ำของเมือง ได้แก่ ศูนย์กลางเมืองสงบริมน้ำ บริเวณตลาดเทศบาลเมืองปทุม, ศูนย์กลางเมืองมีชีวิตชีวาบริเวณท่าน้ำนนท์, ศูนย์กลางเมืองเติบโตปากเกร็ด-เมืองท่องเที่ยวเกาะเกร็ด และศูนย์กลางเมืองกรุงเทพฯเชื่อมต่อบางกระเจ้า ปอดของกรุงเทพฯ
  • สถานที่พักผ่อนริมน้ำสำหรับชุมชน เช่น บริเวณศาสนสถานริมน้ำที่อยู่ใกล้ชุมชน พื้นที่สาธารณะหลังเขื่อน โรงพยาบาลของรัฐ สถานบันราชการ
  • จุดแวะพักริมน้ำเพื่อการท่องเที่ยวและนันทนาการ เช่น บริเวณศาสนสถานริมน้ำและบริเวณสถาบันราชการ ปัจจุบันโครงการศึกษาความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ วิศวกรรม และสิ่งแวดล้อม มีความคืบหน้าโครงการไปแล้วกว่า 95%

ขอบคุณภาพจาก : www.chaoprayariverrim.com

โครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา : เจ้าพระยาเพื่อทุกคน (Chao Phraya For All)

โครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา หรือ ทางเดิน-ปั่นเลียบแม่น้ำ ในเชื่อ “เจ้าพระยาเพื่อทุกคน (Chao Phraya For All)" เป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูทรัพยากรและพัฒนาพื้นที่สาธารณะริมฝั่งแม่น้ำ เพื่อประชาชนทุกคนทุกระดับให้สามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกัน โดยกระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายให้สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร จัดทำแผนแม่บทพัฒาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ระยะทางยาวรวม 57 กิโลเมตร เงินลงทุนประมาณ 30,000 ล้านบาท จากบริเวณสะพานพระราม7 ไปจนถึงสุดเขตกรุงเทพมหานคร และโครงการนำร่องความยาว 14 กิโลเมตร จากสะพานพระราม7 ไปจนถึงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เงินลงทุนประมาณ 14,000 ล้านบาท เพื่อเป็นโครงการตัวอย่างในการพัฒนาเจ้าพระยา โดยประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการนี้ได้แก่

  • ประชาชน - สามารถเข้าถึงแม่น้ำได้สะดวกและปลอดภัย เกิดพื้นที่ลานกิจกรรมริมน้ำ เกิดพื้นที่แหล่งพบปะสังสรรค์ของคนเมือง ประชาชนผูกพันใกล้ชิดแม่น้ำ เกิดทางเลือกใหม่ในการเดินทางเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะ
  • ชุมชน - เด็กและเยาวชนมีพื้นที่ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ เชื่อมต่อชุมชนกับพื้นที่สาธารณะและการเดินทาง พัฒนาระบบสาธารณูปโภค ครอบครัวและคนในชุมชนมีพื้นที่ส่วนกลางเพิ่มขึ้น ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีสุขภาพแข็งแรง
  • เมือง - เกิดเมืองน่าอยู่และยั่งยืน เกิดโครงข่ายทางเดิน-ปั่น เชื่อมต่อพื้นที่สีเขียว นันทนาการ วัฒนธรรม ระบบขนส่งรถเรือราง พัฒนาระบบรวบรวมน้ำเสียและการระบายน้ำ ป้องกันอุทกภัย

ขอบคุณภาพจาก : chaophrayaforall.com

โดยกรอบการดำเนินงานสำรวจ ออกแบบ และจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แบ่งออกเป็น 3 ส่วน
  • งานส่วนที่ 1 : งานศึกษาและจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ระยะทางสองฝั่งรวม 57 กิโลเมตรจากสะพานพระราม7 ถึงสุดเขตกรุงเทพมหานคร
  • งานส่วนที่ 2 : งานสำรวจออกแบบรายละเอียดและวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมในขั้นรายละเอียด (EIA) โครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงจากสะพานพระราม7 ถึงสะพานพระปิ่นเกล้า รวม 14 กิโลเมตร
  • งานส่วนที่ 3 : ปัจจุบันอยู่ในช่วงชะลอโครงการเพื่อประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของประชาชน
โครงการสะพานคนเดินข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา

โครงการก่อสร้างสะพานสำหรับคนเดิน เชื่อมระหว่างบริเวณท่าพระจันทร์และท่าศิริราช มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสะพานสำหรับคนเดิน, ทางจักรยาน, ทางสำหรับผู้พิการ, สวนสาธารณะ และอื่นๆ โดยคำนึงถึงชีวิตตามวัฒนธรรมแบบไทย ส่งเสริมการท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยา เสริมภาพลักษณ์ของประเทศ ปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนของการจ้างที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบสะพานคนเดินและทางจักรยาน โดยได้มีการประมาณค่าใช้จ่ายในการลงทุนและดำเนินงานประมาณ 2,458.4 ล้านบาท โดยไม่มีการเวนคืนที่ดิน ความยาวประมาณ 240 เมตร กว้างประมาณ 10-15 เมตร และมีความสูงเทียบเท่ากับสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า โดยสะพานคนเดินข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ จะสามารถรองรับผู้สัญจรเฉลี่ยต่อวันวันละ 7,000 คน นอกจากนี้บนสะพานยังมีการออกแบบพื้นที่สำหรับรถพยาบาลขนาดเล็กเท่ารถกอลืฟวิ่งรับส่งผู้ป่วยข้ามฝั่งได้อย่างสะดวก โดยจะเชื่อมต่อไปยังอาคารของโรงพยาบาลศิริราชอีกด้วย

โครงการพัฒนาท่าเรือเชื่อม Commute Hub รถ-เรือ-ราง

โครงการพัฒนาจุดเชื่อมโยงการสัญจรระหว่างรถ-เรือ-ราง โดยเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการขนส่งมวลชนทั้งทางบกและทางน้ำ โดยท่าเรือที่สามารถเชื่อมการเดินทางระหว่างรถ-เรือ-ราง ได้แก่ ท่าเรือสาทร, ท่าเรือบางโพ-ท่าเรือราชินี, ท่าเรือพระนั่งเกล้า และท่าเรือพระราม 6

โดย แผนการพัฒนาแรก รฟม. ได้เปิดประมูลสร้างท่าเทียบเรือพระนั่งเกล้า เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีพระนั่งเกล้า ภายใต้กรอบวงเงิน 90 ล้านบาท โดยจะเร่งข้างที่ปรึกษาเพื่ออกแบบรายละเอียดงานก่อสร้างท่าเทียบเรือพระนั่งเกล้าก่อนเบื้องต้น วงเงินประมาณ 5 ล้านบาท ระยะเวลาออกแบบ 1-2 เดือน จากนั้นจะเปิดประมูลเพื่อก่อสร้าง โดยใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 10 เดือน คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ช่วงปลายปี 2560

นอกจากนั้น ยังมีการพัฒนาพื้นที่อื่นๆเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้บริการเรือและรถไฟฟ้าสายสีม่วง ได้แก่

  • อาคารผู้โดยสารและทางเดินเชื่อม (Walkway) และสะพานข้ามแยก สำหรับผู้ใช้บริการรถำฟฟ้า วงเงิน 99 ล้านบาท
  • โครงการปรับปรุงอาคารจอดแล้วจร (Park & Ride) บริเวณแยกนนทบุรี จำนวน 10 ชั้น รองรับรถยนต์ได้จำนวน 1,100 คัน วงเงิน 160 ล้านบาท

ขอบคุณภาพจาก : www.chaoprayariverrim.com

โดยจาก โครงการพัฒนาจากภาครัฐริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 4 โครงการ ดังกล่าว จะช่วยส่งเสริมศักยภาพพื้นที่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้เป็นอย่างมาก ซึ่งพื้นที่ที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากโครงการพัฒนา ได้แก่

  • ช่วงท่าพระจันทร์ - ศิริราช : ผู้ได้รับประโยชน์นั้นได้แก่ สถานพยาบาล สถานที่ราชการ สถาบันการศึกษา และการส่งเสริมการท่องเที่ยว บริเวณพระราชวัง เนื่องจากพื้นที่สองฝั่งบริเวณนี้เป็นพื้นที่อนุรักษ์และพื้นที่สถาบันราชการ จึงทำให้ภาคเอกชนไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียมาก นอกจากภาคส่วนพาณิชยกรรมบริเวณท่าพระจันทร์ อย่าง ท่ามหาราช เป็นต้น
  • ช่วงสะพานพระราม 7 - สะพานพระปิ่นกล้า : ได้รับประโยชน์โดยตรงจากโครงการทางเดินเลียบริมแม่น้ำเจ้าพระยา ความยาวตลอดแนว 14 กิโลเมตร ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เกิดทัศนียภาพที่ดีภายในพื้นที่ เกิดพื้นที่สาธารณะและพื้นที่สีเขียว รวมไปถึงเกิดพื้นที่พาณิชยกรรมขนาดเล็ก ที่จะสามารถช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตและเพิ่มพูนมูลค่าที่ดินในบริเวณนี้อีกด้วย
  • ช่วงท่าเรือพระนั่งเกล้า : เนื่องจากการพัฒนาอาคารผู้โดยสารเพื่อให้บริเวณนี้เป็น hub ของการเดินทางครบวงจร รถ-เรือ-ราง ซึ่งแผนการดำเนินการท่าเรือพระนั่งเกล้ามีการดำเนินการที่ชัดเจนและคืบหน้ามากที่สุด หากไม่นับท่าเรือสาทรที่มีการพัฒนาเรียบร้อยแล้ว ทำให้การเดินทางในช่วงนี้สะดวกขึ้น ช่วยเชื่อมต่อแและเพิ่มทางเลือกการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ-นนทบุรี ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
บทความโดย TerraBKK คลังความรู้