หากจะกล่าวถึงเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่กำลังเป็นที่กล่าวถึงเป็นอย่างมากในขณะนี้คงหนีไม่พ้น “รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน” ที่จะมาเชื่อมต่อสถานีบางซื่อ-ท่าพระ-หัวลำโพง-หลักสอง ให้เชื่อมต่อถึงกันเป็นลูปขนาดใหญ่ ความพิเศษของสายนี้คือเป็นจุด interchange ให้กับรถไฟฟ้าสายสีอื่นๆ เรียกได้ว่าจะกลายเป็นเส้นรถไฟฟ้าที่เข้ามาเติมเต็มรถไฟฟ้าในอนาคตให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และเมื่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินวิ่งครบลูป ไม่เพียงแต่จะได้เห็นโครงการคอนโดฯที่เยอะมากขึ้น ราคาของโครงการเปิดใหม่ก็จะเปิดตัวสูงขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน ย้อนกลับไปเมื่อ 25 ปีก่อน ทำเลรอบรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินยังไม่มีโครงการคอนโดมิเนียมมากนัก หากจะขึ้นสักโครงการหนึ่งก็เป็นเพียงเจ้าเล็กๆ มีไม่ถึง 1,000 ยูนิตต่อปี แต่เมื่อปี 2004 ที่ได้เริ่มเปิดใช้รถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำ เงิน ช่วงที่ 1 คือบางซื่อ-หัวลำโพง ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่รถไฟฟ้าเริ่มวิ่งจริง ส่งผลให้จำนวนโครงการคอนโดมิเนียมมีมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในย่านรัชดาภิเษกที่ดูจะหนาแน่นเป็นพิเศษ

         สำหรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินครบทั้งลูปนั้น เราสามารถแบ่งออกเป็น 3 โซนใหญ่ๆ ได้คือ โซนบางซื่อ-หัวลำโพง (รถไฟฟ้า MRT เส้นปัจจุบัน), โซนเตาปูน-ท่าพระ และโซนบางไผ่-หลักสอง

“รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินนี้เรามองว่าการวิ่งเป็นลูปจะได้เปรียบมากกว่า
ด้วยการเชื่อมต่อที่เยอะกว่าไม่ขาดช่วงวิ่งผ่านในจุดสำคัญ และไม่หลุดจากตัวเมืองมากนัก”

โซนบางซื่อ-หัวลำโพง
         
คงไม่ต้องพูดอะไรมากกับคอนโดฯ ฝั่งนี้ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าฮอตฮิตมากแค่ไหน โดยเฉพาะกับฝั่งรัชดาภิเษกที่หนาแน่นไปด้วยกลุ่มคนทำงานในย่าน New CBD โครงการที่เปิดใหม่ในโซนนี้ในปี 2016-2017 มีทั้งสิ้น 6 โครงการ จำนวนรวมกว่า 1,900 ยูนิต โดยแต่ละโครงการมีราคาเปิดตัวกว่า 145,000-275,000 บาทต่อตารางเมตร 
         ปัจจุบันโครงการคอนโดมิเนียมมือสองมีการประกาศขายในราคาประมาณตารางเมตรละ 95,000-180,000 บาท เพราะถือว่าเป็นโซนเดียวของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่อยู่ใกล้เมือง และมีอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาประมาณ 7.2% ต่อปีสำหรับคอนโดฯปล่อยเช่านั้นมีค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 16,000-30,000 บาทต่อเดือน


โซนเตาปูน-ท่าพระ
         เป็นทำเลที่พร้อมไปด้วย Real Demand ที่มีคุณภาพ พบว่ากลุ่มลูกค้าหลักของคอนโดมิเนียมเหล่านี้คือแพทย์และอาจารย์มหาวิทยาลัย เนื่องจากทำเลนี้เต็มไปด้วยโรงพยาบาลชั้นนำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลธนบุรี, โรงพยาบาลวชิระ, โรงพยาบาลยันฮี ฯลฯ ซึ่งจัดว่าเป็นลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง โครงการที่เปิดใหม่ในโซนนี้ในปี 2016-2017 มีทั้งสิ้น 9 โครงการ จำนวนรวมกว่า 5,000 ยูนิต โดยแต่ละโครงการมีราคาเปิดตัวประมาณ 60,000-100,000 บาทต่อตารางเมตร
         ปัจจุบันโครงการคอนโดมิเนียมมือสองมีการประกาศขายในราคาประมาณตารางเมตรละ 67,000-100,000 บาท และมีอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาประมาณ 8.1% ต่อปี สำหรับคอนโดฯปล่อยเช่านั้นมีค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 9,000-15,000 บาทต่อเดือน

โซนบางไผ่-หลักสอง
         ทำเลนี้มีความน่าสนใจตรงที่ราคาคอนโดฯ เปิดใหม่ก่อนหน้านี้ในยังมีราคาไม่สูงมากนัก แต่ราคาคอนโดฯ มือสองที่ขายได้กลับมีราคาที่สูงเกือบเทียบเท่าฝั่งจรัญฯ อีกทั้งคนที่ซื้อคอนโดฯ ในทำเลนี้ส่วนใหญ่เป็น Real Demand ที่เดิมอยู่ฝั่งธนฯ แต่ต้องเดินทางเข้ามาทำงานในเมือง ซึ่งตรงนี้ TerraBKK Research มองว่ายังเป็น Demand ที่เข้ามาเรื่อยๆ พวกเขาจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตโดยออกมาอยู่คอนโดมิเนียมใกล้เมืองมากขึ้น โครงการที่เปิดใหม่ในโซนนี้ในปี 2016-2017 มีทั้งสิ้น 3 โครงการจำนวนรวมกว่า 1,400 ยูนิตโดยแต่ละโครงการมีราคาเปิดตัวประมาณ 70,000-90,000 บาทต่อตารางเมตร
         ปัจจุบันโครงการคอนโดมิเนียมมือสอง มีการประกาศขายในราคาประมาณตารางเมตรละ 50,000-90,000 บาท และมีอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาประมาณ 8.4% ต่อปี สำ หรับคอนโดฯ ปล่อยเช่านั้นมีค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 8,000-12,000 บาทต่อเดือน

“รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเป็นสายที่มีศักยภาพมากที่สุดสำหรับการเชื่อมต่อและการเดินทางภายในเมือง 
อีกทั้งยังเป็นรถไฟฟ้าสายแรกที่สร้างเสร็จครบลูป”

         หากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมีการก่อสร้างเสร็จครบลูปทั้ง 3 ช่วง จะทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของที่อยู่อาศัยในลักษณะนี้ เนื่องจากความจำเป็นของระยะทางระหว่างที่อยู่อาศัยและแหล่งงานไม่ได้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอีกต่อไป เมื่อสามารถเดินทางไปกลับระหว่างที่ทำงานและที่อยู่อาศัยได้อย่างสะดวกด้วยโครงข่ายรถไฟฟ้า โดยแหล่งงานที่สำคัญที่สามารถเข้าถึงได้โดยรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินกระจายอยู่ตลอดแนวเส้นทาง สามารถแบ่งช่วงทำเลที่เป็นแหล่งงานซึ่งจะเป็นแม่เหล็กสำคัญในการดึงดูดการอยู่อาศัยบริเวณแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ได้ดังนี้

         • ช่วงสถานีบางแค-บางซื่อเป็นช่วงของการเชื่อมชานเมืองเข้าสู่พื้นที่เขตเมือง ทำเลช่วงนี้แต่เดิมจะเป็นที่ตั้งของพวกแนวราบอย่างบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ซึ่งนับตั้งแต่รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ได้มีการก่อสร้างในทำเลนี้ก็เกิดคอนโดมิเนียมเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นเส้นทางที่พาดผ่านแนวเส้นถนนจรัญสนิทวงศ์ ที่เต็มไปด้วยแหล่งงานอย่างโรงพยาบาลจำนวนมาก จึงนับเป็นเส้นทางที่เชื่อมคนฝั่งธนฯ เข้าสู่เมืองอย่างแท้จริง

         • ช่วงสถานีบางแค-หัวลำโพง เส้นทางที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเทพฯ ถึงแม้ทำเลในช่วงนี้จะไม่สามารถพัฒนาอะไรได้มากนัก เนื่องจากติดข้อจำกัดทางด้านผังเมือง แต่ศักยภาพพื้นที่ในช่วงนี้ก็เป็นย่านเศรษฐกิจที่สำคัญของพระนครเลยทีเดียว ช่วงตั้งแต่สามย่านไปจนถึงเขตพระนคร ครอบคลุมตั้งแต่สถานีสามย่าน-วังบูรพา เป็นย่านเก่าแก่ที่เป็นทำเลเศรษฐกิจดั้งเดิมของกรุงเทพฯ เช่น เยาวราช, ดิโอล สยาม, สะพานเหล็ก, สำเพ็ง, พาหุรัด, ปากคลองตลาด หรือยอดพิมาน ที่เป็นแหล่งรองรับไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ย่านนี้ประกอบไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมาย เป็นย่านวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดของกรุงเทพฯ

         • ช่วงสถานีหัวลำโพง-ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เส้นทางของย่านธุรกิจหรือ CBD ที่ผ่านแหล่งงานและย่านธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ อย่าง สามย่าน สยาม สีลม สาทร อโศก เหล่านี้ล้วนเป็น destination ด้านแหล่งงานที่สามารถเชื่อมการเดินทางของคนที่พักอาศัย ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เพื่อเข้ามาสู่ CBD แห่งนี้ได้

         • ช่วงสถานีศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์-ลาดพร้าว เส้นทางช่วงสถานีศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์-รัชดาภิเษก นับเป็นทำ เลศักยภาพที่สำคัญมากอีกแห่งของกรุงเทพฯ เนื่องจากเป็นทำเลที่ได้ขึ้นชื่อว่า New CBD รายล้อมด้วยอาคารสำ นักงานขนาดใหญ่ตลอดแนว รวมถึงศูนย์การค้าขนาดใหญ่ อย่าง CentralPlaza Grand Rama9, Show DC, TheStreet, Fortune Town, Terminal21 เป็นต้น เรียงรายไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารมากมาย ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนในระดับเมือง

         • ช่วงสถานีลาดพร้าว-บางซื่อ เส้นทางนี้สามารถเดินทางเข้ามาอย่างสะดวกจากทางฝั่งธนฯ ซึ่งย่านนี้มีแหล่งงานคุณภาพ รวมไปถึงสถานศึกษาที่สำคัญหลายแห่งอีกด้วย นอกจากนั้นบริเวณตามแนวเส้นรถไฟฟ้าจากฝั่งธนฯ เข้าสู่บริเวณบางโพไปจนถึงช่วงลาดพร้าว จะมีลักษณะการผสมผสานระหว่างชุมชนดั้งเดิม และศูนย์การค้าหลายแห่ง เช่น เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว, ยูเนี่ยนมอลล์รวมไปถึงตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยอย่างจตุจักร, เจเจกรีน, เจเจ มอลล์ เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารคาเฟ่ และแหล่ง hang out สำหรับกลุ่มเพื่อนและครอบครัวกระจายอยู่ทั่วทำเล

ขอบคุณข้อมูลจาก: HINT MAGAZINE