หากจะบอกว่าการจะซื้อบ้านซักหลังหนึ่ง ต้องดูทั้งทำเลที่ตั้ง สภาพบ้าน ชื่อเสียงเจ้าของโครงการ สภาพแวดล้อม การเดินทาง ฯลฯ เท่าที่กล่าวมานี้ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับทำเลไปซะครึ่งหนึ่ง  ซึ่งคงไม่ผิดนักหากจะบอกว่าหัวใจสำคัญของการซื้อบ้านก็คือ “ทำเล” หลายครั้งที่ TerraBKK Research มักจะย้ำอยู่เสมอว่าซื้อบ้านให้ดูทำเลเป็นอันดับแรกเสมอ ไม่ว่าจะซื้อเพื่ออยู่เองหรือลงทุน เพราะ

“ทำเลมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และ ทำเลมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาบ้านในอนาคต”

เมื่อเราซื้อบ้านซักหลังหนึ่ง ผ่านไป 10-20 ปี เมื่อมันโทรม มันไม่สวย มันเชย เราจะซ่อมจะรีโนเวทมันกี่ครั้งก็ยังได้ แต่ “ทำเล” เป็นสิ่งเดียวที่คุณเปลี่ยนมันไม่ได้! มีกฎอยู่ข้อหนึ่งที่ทีมงาน TerraBKK Research อ่านเจอจาก realestate.com.au ถึงปัจจัยที่ทำให้ราคาอสังหาฯเติบโตในแต่ละปี ว่า 80% เป็นผลมาจาก “ทำเล” และอีก 20% มาจากตัว Property เอง ดังนั้นหากจะบอกว่า เมื่อเราซื้อบ้านซักหลังที่ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นักบนทำเลที่ดี  ย่อมได้เปรียบว่า การซื้อบ้านสวยแต่อยู่ในทำเลไม่ดี แต่ในตอนนี้ผู้คนต่างหลงใหลกับความสวยงามของ Property มากกว่าความสำคัญของทำเลที่ตั้ง

วันนี้เราคงไม่พูดถึง “ทำเล” ในด้าน Physical มากนัก ไม่ว่าจะเป็นทำเลดีต้องอยู่ใน CBD ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ทางด่วน ติดถนนใหญ่ อยู่ในชุมชนที่มีผู้คนพลุกพล่าน ... นั่นคือเรื่องที่เรารู้ๆกันอยู่แล้ว แต่ “ทำเล” มีผลมากกว่านั้น ไม่เพียงแต่จะทำให้เราได้รับความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน แต่มันส่งผลต่อจิตใจแบบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

ทำไมบางคนยอมจ่ายแพงเพื่อให้ได้อยู่ในทำเลใจกลางเมือง? ทำไมบางคนยอมจ่ายเพิ่ม เพื่อแค่เขยิบออกมาให้ใกล้สถานีรถไฟฟ้ามากขึ้น? ทำไมบางคนยอมจ่ายเงินที่สามารถซื้อคฤหาสน์ชานเมืองได้ 1 หลังแลกกับห้องชุดขนาดไม่ถึง 100 ตร.ม. เชื่อว่ามันคือเหตุผลที่มีทั้งด้านที่จับต้องได้ (Functional Benefit) และด้านที่จับต้องไม่ได้ (Emotional Benefit) สำหรับด้านที่จับต้องได้ แน่นอนว่าใครๆก็คงรู้ดีว่าทำเลในเมืองย่อมสะดวกสบายกว่า การเดินทางครบทุกรูปแบบ มีห้าง/ศูนย์การค้าครบครัน แล้วในด้านที่จับต้องไม่ได้ (Emotional Benefit) มันเป็นยังไง?

  1. Activity: จะเดินทางไปไหนก็ทำได้ง่ายขึ้น ลดเวลาในการเดินทาง ไม่ต้องเสียอารมณ์ทุกครั้งที่จะเข้าเมือง บางคนใช้เวลาบนถนนกว่า 3-4 ชม. ต่อวัน ซึ่งเป็นเวลาที่เสียไปเปล่าๆ จะดีกว่าไหมหากเราซื้อเวลานั้นด้วยการเขยิบเข้ามาอยู่ในเมืองให้มากขึ้น
  2. Interest: ทำเลที่ดีต้องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เราได้ ชอบช้อปปิ้งก็ต้องมีห้าง/ศูนย์การค้า ชอบกินก็ต้องมีร้านอาหารหรือ Community Mall ดีๆซักที่ ไว้ให้เราไปพักผ่อนในวันหยุด
  3. Opinion: อยากให้คนอื่นมองเรายังไงถ้าเราอยู่ในทำเลนี้? ตรงนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะอธิบายยาก แต่คงจะเคยได้ยินกันมาบ้างถึงความภูมิใจในการครอบครองบ้าน/คอนโดซักที่หนึ่ง ให้ลองนึกภาพว่าหากเราได้เป็นเจ้าของคอนโดซักห้องบนถนนสาทร ที่แค่พูดชื่อทำเลก็รู้สึกเท่แล้ว

ทั้งหมดนี้คือคุณค่าของคำว่า “ทำเล” ที่มีทั้งส่วนที่เรามองเห็นและมองไม่เห็น แต่สุดท้ายและท้ายที่สุด ทุกครั้งที่จะซื้ออสังหาฯซักที่ ให้ดูที่ “ทำเลที่ตั้ง” ก่อนทุกครั้ง อย่าหลงใหลไปกับคำโฆษณาความสวยงามของสิ่งก่อสร้าง