ถึง "สไปเดอร์แมน" จะได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในหนังซุปเปอร์ฮีโร่ระดับแม่เหล็กที่ถูกนำมารีเมกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่การกลับมาอีกครั้งของ Spider-Man: Homecoming ครั้งนี้ยังคงสมศักดิ์ศรีจนสื่อหลายสำนักยกให้เป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดก็ว่าได้  เพราะนอกจากแฟนๆจะได้ฟินกับส่วนผสมที่ลงตัวในหนัง บวกกับความน่ารัก สดใส ออร่าพุ่งของสไปดี้หนุ่มเวอร์ชั่น ทอม ฮอลแลนด์แล้ว สำหรับนักธุรกิจที่คิดจะตีตั๋วเข้าไปชม บอกเลยไม่ผิดหวัง เพราะเหนือกว่าอรรถรสที่จะได้รับ คือ 3 บทเรียนธุรกิจแสนเลอค่าที่พ่อหนุ่มสไปเดอร์แมนสอดแทรกไว้ในหนังอย่างกลมกล่อม

                  สำหรับใครที่ดูแล้ว แต่พลาด 3 บทเรียนนี้ไป ไม่ต้องเสียใจ คิดตีตั๋วเข้าไปดูซ้ำอีกรอบ เพราะคัดเน้นๆมาเสิร์ฟให้ถึงที่แล้ว  

                  1.ใช้โอกาสที่มีให้เป็นประโยชน์ : Spider-Man: Homecoming เดินเรื่องย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นก่อนที่ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์จะกลายเป็นหนึ่งในซุปเปอร์ฮีโร่ในจักรวาลมาร์เวล ปีเตอร์เป็นเพียงเด็กเนิร์ดวัยว้าวุ่นเหมือนวัยรุ่นทั่วไป กระทั่งวันหนึ่งระหว่างที่ไปทัศนศึกษาเขาถูกแมงมุมอาบกัมมันตภาพรังสีกัดเข้า ทำให้จับผลัดจับผลูได้พลังพิเศษของแมงมุมมาแบบไม่ตั้งใจ ทว่าพลังพิเศษกลับต้องแลกด้วยความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่

                  โอกาสที่ได้มาแบบไม่คาดฝันของสไปเดอร์แมนสอนอะไรกับนักธุรกิจหรือผู้ประกอบการป้ายแดง? แม้คำว่าโชคช่วย หรือ โอกาสดีๆแบบนี้จะเกิดขึ้นได้น้อยมากในชีวิตจริง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องไปตำหนิโชคชะตา หรือมัวแต่นั่งรอโอกาส เพราะคนเราสามารถสร้างโอกาสให้ตัวเองได้ ด้วยการค้นหาทักษะที่คิดว่าตัวเองมี แล้วพัฒนาให้โดดเด่น จากนั้นใช้ให้เป็นประโยชน์ เพื่อให้ธุรกิจก้าวหน้าเหนือกว่าคู่แข่ง

                  2.ใช้คอนเนกชั่นช่วงชิงความได้เปรียบ : สไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นนี้ดำเนินเรื่องราวต่อจาก Captain America : Civil War ซึ่งในตอนนั้นหนังได้ปูให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างโทนี สตาร์ค (ไอรอนแมน) และ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ไว้แล้ว ด้วยความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันนี้เองทำให้ โทนี มหาเศรษฐีหนุ่มนักประดิษฐ์ทุ่มทุนพัฒนาสูทสุดล้ำให้สไปเดอร์แมน ที่มาพร้อมลูกเล่นมากมายไม่ว่าจะเป็นกลไกโดรนสำรวจ, เครื่องยิงใย ที่มีการติดตั้งระบบการเล็งด้วยเลเซอร์นำวิถี แถมยังเซตติ้งรูปแบบการยิงใยได้มากถึง 500 กว่าแบบ

                 

ทั้งหมดนี้ เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ไม่ว่าจะอยู่ในธุรกิจไหน หนึ่งในกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ คือ เน็ตเวิร์กที่ดีมีส่วนสำคัญมากในการผลักดันให้ธุรกิจก้าวไกลไปอีกขึ้น เพราะฉะนั้นในฐานะเจ้าของธุรกิจไม่ควรมองข้ามโอกาสทองจากการร่วมมือกับพันธมิตร แทนที่จะเติบโตอย่างโดดเดี่ยว การจูงมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพเป็นอีกทางเลือกในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจที่น่าสนใจ

                  3.ใช้คู่แข่งเป็นแรงขับดัน : หนึ่งในตัวละครที่มาช่วยสร้างสีสันให้กับสไปเดอร์แมนในภาคนี้คือ วัลเจอร์ หรือ เอเดรียน ทูมส์ ตัวร้ายที่ทั้งลุ่มลึก มีมิติ ภายใต้รูปลักษณ์มนุษย์นกแร้ง ดวงตาสีเขียวแฝงไปด้วยความอำมหิต เขาคือคู่ปรับและศัตรูตัวฉกาจของสไปเดอร์แมน เป็น ตัวแปรสำคัญที่ตอกย้ำให้เห็นถึงความอ่อนหัดของสเปเดอร์แมน และเขาอีกนั่นแหละที่เป็นแรงขับดันสำคัญให้ปีเตอร์ในร่างสไปเดอร์ฮึด ลุกขึ้นสู้ขาดใจ

                  ถึงในภาพยนตร์ ตัวร้ายจะเป็นเพียงสีสัน และตัวเสริมให้หนังดูมีพลัง แต่ในชีวิตจริง ตัวร้ายในสนามธุรกิจ คือ ผู้ที่พร้อมจะผลักคุณกระเด็นออกจากสนามทุกเมื่อ หากไม่เตรียมพร้อมรับมือให้ดี เพราะฉะนั้นแทนที่จะหวาดกลัวหรือมัวแต่วิตกกับการปรากฏตัวของคู่แข่ง นักธุรกิจที่ดีต้องพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ยิ่งคู่แข่งร้ายกาจเท่าไหร่ ยิ่งต้องมองว่าเป็นแรงผลักดันชั้นดีให้คุณยิ่งเรียนรู้และพัฒนา ศึกษาคู่แข่งว่าให้รอบด้านว่าอะไรคือจุดแข็ง-จุดอ่อนอีกฝ่าย ขณะเดียวกันต้องพยายามพัฒนาตัวเองไปให้สุดทางเพื่อให้เหนือกว่า เพราะกาารช่วงชิงความเปรียบ ก็ต้องยอมลงทุนบางอย่างเพื่อผลประโยชน์ในระยะยาว

ขอบคุณที่มา : http://inc-asean.com

 บทความโดย : TerraBKK คลังความรู้

TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก