หลังจากประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นกับการทำสถิติปิดการขายโครงการ “เดอะรีเซิร์ฟ ทองหล่อ” ภายในสองสัปดาห์ ที่ถือเป็นโครงการคุณภาพระดับมาสเตอร์พีซโครงการแรกของ พฤกษา เรียลเอสเตท ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยล่าสุด ค่ายพฤกษาเตรียมเปิดโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ “เดอะ รีเซิร์ฟ” ของกลุ่มพรีเมียม ในทำเลที่สะท้อนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตได้ 24 ชั่วโมง เดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ-ประดิพัทธ์(The Reserve Phahol-Pradipat) อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสะพานควายเพียง 500 เมตร เมื่อทีมงาน TerraBKK Research สำรวจค่าเช่าคอนโดมิเนียมในแถบนั้นพบว่าคอนโดมิเนียมในทำเลสะพานควายมีอัตราค่าเช่าอยู่ที่ 15,000-30,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของห้อง รวมถึงระยะห่างจากรถไฟฟ้าที่ยิ่งใกล้ก็ยิ่งได้ค่าเช่าที่สูงขึ้น สำหรับ Rental Yield ในทำเลสถานีสะพานควายนี้ ต้องถือว่าสูงกว่าสถานีอื่นๆ บนถนนพหลโยธินด้วยกัน คือประมาณ 5-6.5% ต่อปี และมีการเพิ่มขึ้นของราคาขายหรือ Cap Gain อยู่ที่ 5-10% ต่อปี แต่ที่น่าสนใจคือ หากเป็นโครงการใหม่ อัตราการเพิ่มขึ้นของราคาหรือ Cap Gain จะสูงถึง 10-25% เลยทีเดียว ทั้งนี้โครงการยังถูกรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในย่านสะพานควายครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า BigC, โรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล พหลโยธิน และร้านอาหารที่หลากหลาย นอกจากนั้นสะพานควายยังอยู่ใกล้กับศูนย์การค้าและแหล่งช้อปปิ้งไลฟ์สไตล์ที่อยู่ห่างกันเพียง 1-2 กิโลเมตรเท่านั้น อาทิ ตลาดนัดสวนจตุจักร ตลาดนัดไลฟ์สไตล์ขนาดใหญ่ที่มีสินค้าให้เลือกมากมาย, JJ Green ตลาดนัดกลางคืนที่ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน และ Union Mall ศูนย์การค้าแฟชั่นของวัยรุ่นและวัยทำงานชั้นนำของประเทศไทย ตอบโจทย์สำหรับการอยู่อาศัยที่สามารถเข้าไปใช้สิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันได้

พหลฯ-ประดิพัทธ์ Compact Neighborhood

   1.ศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ

สำหรับถนน พหลโยธิน-ประดิพัทธ์ ครอบคลุมช่วงสถานีบีทีเอสสะพานควาย เดิมทีพหลฯ-ประดิพัทธ์นั้น เป็นทำเลที่อยู่อาศัยของกลุ่มบุคคลที่ได้รับมรดกตกทอดมาจากตระกูล หรือว่าง่ายๆก็คือเศรษฐีเก่า ทำให้ยังคงเห็นความเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยที่ให้กลิ่นอายคนกรุงเทพฯ แบบเดิมๆ แต่ด้วยศักยภาพทำเลที่ดี ทำให้การพัฒนาเริ่มเห็นอาคารสำนักงานหลายแห่งปักหลักอยู่ที่นี่ ที่เราพอจะทราบกันดีอยู่แล้วก็มี ธนาคารกสิกร, ธนาคารออมสิน, อาคารเอไอเอสทาวเวอร์, อาคารวรจักร, IBM, SC Tower และอีกมากมาย ทำให้ภาพลักษณ์ของถนนพหลโยธินเริ่มเปลี่ยนเป็นศูนย์กลางธุรกิจขนาดย่อมๆ ประชากรที่ใช้ชีวิตปะปนกันไประหว่างพนักงานบริษัท, เจ้าของกิจการ, ร้านค้า และชุมชนดั้งเดิม นอกจากนั้นยังมีโรงพยาบาล หน่วยงานราชการ สาธารณูปการ และโรงเรียน ที่อยู่ในรัศมีการให้บริการ ทำให้ทำเลพหลฯ - ประดิพัทธ์มีความหลากหลายและครบครันในตัวเอง ซึ่งเราเรียกว่า Compact Neighborhood

   2.ย่าน LIVE-WORK-PLAY 24 ชั่วโมง

                  จากแยกประดิพัทธ์ออกไปในรัศมี 1.5 กิโลเมตร พบว่าทำเลนี้มีโครงสร้างของย่านที่สมบูรณ์แบบ โดยศูนย์กลางการค้า, ธุรกิจ และบริการ จะอยู่ตรงใจกลาง ผสมผสานไปกับที่อยู่อาศัยแนวสูง ภายในถนนตรอกซอยเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบและหอพัก ซึ่งมีลำดับของการเข้าถึงที่เหมาะสม คนที่อาศัยในบริเวณนี้ไม่จำเป็นต้องออกไปที่อื่นถ้าไม่จำเป็น เนื่องจากสามารถ LIVE – WORK – PLAY ได้ในทำเลนี้ สำหรับการเดินทางระหว่างย่าน คนในทำเลนี้สามารถเข้าถึงขนส่งมวลชนได้ง่าย และหากใช้รถยนต์ก็สามารถใช้ถนนพหลโยธิน, ประดิพัทธ์และถนนสุทธิสาร เพื่อออกสู่ทำเลได้อย่างสะดวก

   3.สะดวกสบายด้วย Infrastructure ครบครัน

                  พหลฯ - ประดิพัทธ์ ถือเป็นทำเลที่อยู่อาศัยชั้นดีอีกหนึ่งแห่ง เพราะนอกจากความอุดมสมบูรณ์แล้ว ยังมีการพัฒนาเกิดขึ้นเสมอในทำเลนี้ อย่างในเร็วๆนี้ เราจะได้เห็น โรงพยาบาลวิมุตติ โรงพยาบาลแห่งใหม่ของทำเล, โครงการอารีย์ฮิลล์ โครงการ Mixed-use ผสมผสานโรงแรมและคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นในทำเลนี้ และที่สำคัญคือ โครงการสถานีกลางบางซื่อ ที่จะเป็น Hub การเดินทางของประเทศ เป็นสัญญาณว่าการพัฒนาในทำเลนี้จะยังเดินทางไปอีกไกลอย่างแน่นอน

 

 

โครงการ เดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ-ประดิพัทธ์ (The Reserve Phahol-Pradipat) คอนโดมิเนียมความสูง 25 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 260 ยูนิต บนพื้นที่โครงการประมาณ 1 ไร่ ออกแบบภายใต้แนวคิด Modern Timeless เน้นการใช้วัสดุธรรมชาติที่เรียบง่าย หรูหรา แต่มีความร่วมสมัย อย่าง หินสีขาวแผ่นใหญ่ตัดกับเฟรมโลหะ เนื้อเบา ในโทนสี NEUTRAL ทำให้เกิดเป็นเอกลักษณ์ในการออกแบบที่มีความเรียบ เท่ แฝงความมีรสนิยม

ใช้ชีวิตได้มากกว่า กับ Oversize Living Space

สำหรับรูปแบบห้องชุด ทางโครงการดีไซน์พื้นที่ ความสบายที่เหนือกว่า โดยจุดเด่นอยู่ที่การออกแบบให้มีเพดานสูงโปร่ง กระจกบานยาว เห็นวิวได้กว้างและเปิดรับแสงธรรมชาติได้มากกว่า พร้อมพื้นที่ชั้นลอยแยกสัดส่วน Oversize Living Space ที่ขยายพื้นที่ส่วนรับแขก ให้มีขนาดใหญ่ ทั้งความสูงของฝ้าเพดานและความกว้างของพื้นที่การใช้งาน ให้ความรู้สึกปลอดโปร่งและทำให้ได้ใช้เวลากับ Living Area ได้มากขึ้น โดยแบ่งลักษณะห้องชุด ดังนี้

  • ONE BEDROOM EXCLUSIVE 47.30 - 48.70 sq.m.
  • ONE BEDROOM SIMPLEX 29.45 - 40.40 sq.m.
  • ONE BEDROOM LOFT 28.40 - 38.95 sq.m.

ใช้ชีวิตได้ไม่รู้เบื่อกับ COMMUNITY SPACE 24 ชั่วโมง

พื้นที่เดียวให้เพลิดเพลินได้ถึง 3 FUNCTIONS มีทั้งส่วนทำงาน 24 ชม. CO-WORKING SPACE ในแบบ INDOOR & OUTDOOR มาพร้อม ALL-DAY PANTRY ส่วนของบาร์เครื่องดื่ม อำนวยความสะดวกให้ได้ทั้งวัน และ ADAPTIVE FUNCTION ROOM ห้องอเนกประสงค์ ที่ปรับเปลี่ยนเป็นห้องประชุมหรือดูหนังได้ ซึ่งทางโครงการจัดเต็มกับพื้นที่ส่วนกลาง เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์แบบครบครัน ที่เริ่มจาก

  • Urban forest พื้นที่สวนหน้าโครงการที่ออกแบบให้เป็นรั้วต้นไม้สูงไล่ระดับ ที่สร้างบรรยากาศความร่มรื่นและเป็นส่วนตัวให้กับโครงการ โดยเลือกใช้พันธุ์ไม้และเส้นสายที่มีแนวคิดจากต้นสนประดิพัทธ์ ที่สอดคล้องบริบทที่ตั้งของโครงการ
  • Lobby พื้นที่รับรอง 24 ชั่วโมง ที่จัดไว้ให้สามารถนั่งพักผ่อนหรือทำงานได้ภายในพื้นที่เดียวกัน
  • Private Garden สวนส่วนตัวที่ชั้น 8 ที่มีความสงบและร่มรื่น
  • 24 Hrs Social Club พื้นที่ทำงานในรูปแบบ Co-working space ที่รองรับการคิด และสร้างสรรค์งานในทุกรูปแบบ ภายใต้พื้นที่สูงโปร่งและบรรยากาศสบายๆทั้งแบบ indoor และ outdoor workplace
  • All-Day Pantry ภายใน Social Club ที่ทำหน้าที่เป็นบาร์อาหารเบาและเครื่องดื่ม พร้อมไว้ด้วยอุปกรณ์สนับสนุนต่างๆ ที่ทำให้ทุกการทำงานไม่ติดขัด
  • Adaptive Function Room ห้องเอนกประสงค์ที่ออกแบบเป็นรูปแบบ step บันได สามารถใช้เป็นห้องส่วนตัวในการประชุม, Brainstorm, Lecture และชมภาพยนตร์เพื่อหาแรงบันดาลใจเพิ่มเติมได้
  • Infinite Edge Pool สระว่ายน้ำน้ำล้นระบบน้ำเกลือที่เปิดมุมมองสู่พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของสวนจตุจักร
  • Skyline Lounge มุมทำงานบนชั้นลอยเหนือสระว่ายน้ำ ที่มีความเป็นส่วนตัวและได้บรรยากาศของวิวปลายตาของเมืองกรุงเทพมหานคร
  • Fitness และ Steam Room ห้องออกกำลังกายฝ้าเพดานสูง ที่ออกแบบมุมมองให้เปิดโล่ง และสะท้อนบรรยากาศเมืองเข้ามาสู่ภายใน
  • Party Yard ลานโล่งบนดาดฟ้า สำหรับจัดกิจกรรมและสังสรรค์ในบรรยากาศเมือง
  • Open Air Cinema พื้นที่ชมภาพยนตร์ outdoor ที่ดาดฟ้าโครงการ
  • Rooftop Pantry พื้นที่เตรียมอาหารที่ดาดฟ้า รองรับทุกกิจกรรมและการสังสรรค์ 

                  พบข้อเสนอสุดพิเศษจาก พฤกษา เรียลเอสเตท เพียงลงทะเบียนผ่านทางเว็ปไซด์ รัส่วนลดพิเศษสูงสุดมูลค่ากว่า 200,000 บาท* พร้อมเปิดชมห้องตัวอย่าง 27 สิงหาคมนี้ ราคาเริ่มต้น 6.5 ล้านบาท* สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 1739 หรือ Line @ : https://goo.gl/9qvEKJ และคลิกลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ https://goo.gl/R3WN78

คลิก!! ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุดกว่า 200,000 บาท*

ขอบคุณข้อมูลจาก thereservecondo.com