น้อยคนนักที่จะไม่เคยได้ยินกิตติศัพท์อันเลื่องลือของ “เจงกิสข่าน” จักรพรรดินักรบชาวมองโกลผู้พิชิต ผู้ก่อตั้งจักรวรรดิมองโกล ไม่ว่าจะด้วยฝีมือการรบ หรือในฐานะจักรพรรดิกระหายสงครามแห่งมองโกล แต่ผลงานการรบที่เป็นประจักษ์ พิชิตดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลของโลก จนไม่มีกองทัพใดสามารถยืนขวางทางของพวกเขาได้ ทำให้เจสกิสข่านได้รับการยกย่องว่าเป็นนักการทหารที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของโลกเลยทีเดียว

         เบื้องหลังความสำเร็จของกองทัพเจสกิสข่านไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่มาจากความมุ่งมั่น และ หัวใจที่เด็ดเดี่ยว เพื่อแลกกับความยิ่งใหญ่ การสร้างกองทัพอันแข็งแกร่ง ทำให้นักรบในกองทัพมองโกลไม่มีทางเลือกที่จะอ่อนแอ นอกจากเสียสละ ทุ่มเทสุดชีวิต และแน่นอนที่ขาดไม่ได้คือ วิสัยทัศน์ของผู้นำที่เกรียงไกร เพื่อไปสู่เป้าหมายอันยิ่งใหญ่ นั่นคือ “การหลอมรวมโลกนี้ให้เป็นอาณาจักรเพียงหนึ่งเดียว” เจงกิสข่านได้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในฐานะผู้นำ และ จิตวิทยาในการนำพากองทัพไปสู่เป้าหมายอย่างน่าสนใจ จนสามารถถอดรหัสออกมาได้เป็น 9 บทเรียนดังนี้

         1.มีจุดหมายในใจ : “สำหรับนักรบมองโกล ไม่มีคำว่าเกียรติยศในสนามรบ หากสุดท้ายการรบนั้นจบลงด้วยความปราชัย สิ่งที่เจงกิสข่านพูดเสมอคือ “ไม่มีคำว่าดี ตราบที่เป้าหมายยังไม่บรรลุ”

         2.ทำเป็นตัวอย่าง : “หากต้องเปียก เราจะเปียกด้วยกัน หากต้องเผชิญกับความหนาวเย็น เราจะฝ่าฝันความหนาวนั้นไปด้วยกัน”

         

3.ไม่มองแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง “คนที่เป็นผู้นำจะมีความสุขไม่ได้ หากผู้ใต้ปกครองยังไม่มีความสุข” ถึงจะเป็นจอมทัพ แต่เจงกิสข่านไม่เคยลืมรากเหง้าของตัวเอง “ข้ายังสวมเสื้อผ้าชุดเดิม กินอาหารแบบเดียวกับที่คนเลี้ยงวัวและเลี้ยงม้ากิน นั่นเพราะพวกเราทุกคนทุ่มเทและเสียสละไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะฉะนั้นเมื่อมีสุขพวกเราจะร่วมเสพ ข้ามองว่าชนชาติของพวกเรายังไม่ต่างกับเด็กแรกเกิด และข้าคิดเสมอว่าต้องดูแลกองทัพทหารของข้าเสมือนเป็นพี่น้อง”

         4.คิดการณ์ใหญ่ มีวิสัยทัศน์ เป้าหมายของเจสกิสข่านคือ การครองโลก เพื่อที่ให้ฝันยิ่งใหญ่นี้กลายเป็นจริง ครั้งหนึ่งเขาเคยประกาศว่า “หากปราศจากซึ่งเป้าหมาย มนุษย์เราก็ไม่สามารถจัดการกับชีวิตของตัวเองได้ สาอะไรกับชีวิตของคนอื่น”

         5.ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน “ไม่มีมิตรภาพไหนจะสัตย์ซื่อไปกว่าหัวใจของตัวเอง แม้ว่าจะมีหลายสิ่งที่สามารถไว้วางใจได้ แต่ไม่มีใครจะเป็นทาสที่ซื่อสัตย์ได้เท่ากับตัวเจ้าเอง ต่อให้มีคนหลายคนที่สามารถช่วยเหลือเจ้าได้  แต่ก็ไม่มีใครจะรู้ใจเจ้าไปได้ดีกว่า จิตใต้สำนึกของตัวเจ้าเอง

         6.ถ่อมตัว หนึ่งในประโยคเด็ดอันแสนตราตรึงจากนักรบผู้เกรียงไกร คือ “ตราบที่เจ้าไม่สามารถกลืนความหยิ่งผยองของตัวเอง เจ้าก็ไม่สามารถเป็นผู้นำใครได้”

         7.พอประมาณ สมถะ เจงกิสข่านเคยพูดไว้อย่างน่าจับใจว่า “ข้าเกลียดความหรูหรา มันง่ายมากที่คนเราจะหลงลืมวิสัยทัศน์และเป้าหมาย เมื่อเรามีเสื้อผ้าที่ดี มีม้าฝีเท้าดี และ ผู้หญิงสวยอยู่รายล้อม ซึ่งหากปล่อยให้เป็นเช่นนั้น  เจ้าจะไม่ต่างจากทาส และแน่นอนว่าเจ้าจะต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง”

         8.เข้าใจธรรมชาติของคนที่แตกต่าง เมื่อวางแผนที่จะปกครองโลกทั้งโลก สิ่งที่เจงกิสข่านเข้าใจเป็นอย่างดีคือ ธรรมชาติของผู้คนที่แตกต่าง ประโยคที่สะท้อนถึงความเข้าใจดังกล่าวคือ ครั้งหนึ่งเจงกิสข่านเคยบอกว่า “คนที่เอาชนะได้จากฝั่งตรงข้ามของทะเลสาบ ย่อมถูกปกครองมาแตกต่างกัน”

         9.อย่ากลัว หลักการง่ายๆของเจงกิสข่านในการข่มขวัญความกลัวในกองทัพ คือ “ถ้ากลัว อย่าลงมือทำ ถ้าคิดจะลงมือทำ จงอย่ากลัว”

 เรียบเรียงจาก www.forbes.com, www.fatherly.com, www.thairath.co.th

บทความโดย : TerraBKK คลังความรู้

TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก