ต่อให้เงินจะบันดาลความสุขบางอย่างให้คนเราได้ แต่เงินก็ไม่ใช่กุญแจที่ไขประตูแห่งความสุขให้ชีวิตได้ทุกบาน

         ถ้าไม่เชื่อ ลองไปดูผลงานวิจัยล่าสุดจากฝั่งอังกฤษที่ทีมนักวิจัยจาก Oxford Economics บริษัทวิจัยด้านเศรษฐกิของอังกฤษ จับมือกับ National Centre for Social Research เพื่อไขความลับว่าอะไรคือ ดัชนีชี้วัดความสุขของคนเราอย่างแท้จริงกันแน่

         คำตอบที่มาวินเป็นอันดับหนึ่งจากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั่วอังกฤษถึง 8,250คน ด้วยชุดคำถาม 60 ข้อ พบว่า ที่สุดแล้วความสุขไม่ได้เกิดจากการมีเงินล้าน หรือ เป็นเจ้าของทรัพย์สินมากมาย แต่กลับเป็นเรื่องง่ายๆ ใกล้ตัวที่ใครก็สร้างได้ นั่นคือ ''การนอนหลับอย่างมีคุณภาพ''

         งานนี้หลายคนอาจส่ายหน้า แถมเบ้ปาก มองบน เถียงว่าไม่จริง เงินทองต่างหากคือแก้วสารพัดนึกที่บันดาลความสุขได้ทุกอย่าง แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะผลวิจัยฟ้องออกมาแล้วว่า คนที่มีคุณภาพการนอนที่ดีนั้นมีดัชนีชี้วัดความสุขสูงกว่าผู้ที่ประสบปัญหาในการนอนมากถึง 15 คะแนน เช่นเดียวกับคนที่รู้สึกไม่พึงพอใจกับชีวิตรัก มีดัชนีควาสุขต่ำกว่ามาตรฐานความสุขที่คนเราควรจะมีอย่างมีนัย ขณะที่การมีรายได้เพิ่มขึ้น แม้จะทำให้ดัชนีความสุขในชีวิตเพิ่มขึ้นก็จริง แต่ก็เพียงแค่ 0.5 คะแนนเท่านั้น นั่นหมายความว่า การได้ขึ้นเงินเดือน 4 เท่า แม้จะเป็นเรื่องน่ายินดีที่ควรค่าแก่การมีความสุข แต่ก็เป็นความสุขที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น เทียบไม่ได้กับดัชนีความสุขที่พุ่งปรี๊ดเมื่อได้นอนหลับอย่างมีคุณภาพ

         ทำไม...? ดร.มารี บาร์นส์ ประธานสหพันธ์การนอนแห่งออสเตรเลีย มีคำอธิบาย “เราเชื่อกันมาตลอดว่า การนอนหลับที่ดีมีผลต่อดัชนีความสุขของคนเรา งานวิจัยนี้ถือเป็นการตอกย้ำความเชื่อของเรา เหตุผลที่ทำให้การนอนหลับที่ดีช่วยให้คนเรามีความสุข เพราะการนอนหลับช่วยให้เราสามารถรับมือกับสิ่งต่างๆ รอบตัวได้ดี ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่มีฐานะร่ำรวย ยากจน มีรายได้เท่าไหร่ หรือ มีความเครียดขนาดไหน การนอนหลับล้วนส่งผลกับทุกกลไกที่เกิดขึ้น”

         

ผลวิจัยนี้ได้จัดอันดับปัจจัยที่ทำให้คนเรามีความสุข ดังนี้ การมีงานที่มั่นคง, ได้เห็นคนใกล้ชิดมีสุขภาพที่ดี, ได้รับการสนับสนุนจากคนรอบข้าง, มีลูกหลานอยู่ในบ้าน รวมทั้งแต่การได้พูดคุยกับเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียง สิ่งเหล่านี้ล้วนมีคุณค่าต่อจิตใจมากกว่าการมีเงินเดือนเพิ่มขึ้นเสียอีก  

         นอกจากนี้ หากจะลงลึกไปถึงดัชนีความสุขครัวเรือน ว่าครอบครัววัยไหนมีความสุขที่สุด ผลการวิจัย พบว่า ครอบครัวคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งสร้างครอบครัวและมีลูกเล็กอยู่บ้านเป็นกลุ่มที่มีความสุขมากที่สุด ส่วนกลุ่มที่มีดัชนีความสุขรองลงมาคือ กลุ่ม baby boomers ซึ่งมีอายุ 55 ปีขึ้นไป แต่ยังอยู่ในวัยทำงาน เพราะเป็นช่วงที่หน้าที่การงานมั่นคง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ส่วนกลุ่มที่มีความสุขน้อยที่สุดคือ กลุ่มคนที่อายุ 35-45 ปี ไม่มีลูกหลาน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่รู้สึกว่าไม่มีเครือข่ายของเพื่อนฝูงคอยสนับสนุนและไม่ค่อยพอใจกับชีวิตรัก

         ส่วนปัจจัยที่พบว่าเป็นตัวบั่นทอนความสุขในชีวิตของคนเรา ในงานวิจัยชิ้นนี้ มีคำตอบเช่นกัน โดยชี้เป้าไปที่กลุ่มที่ชอบเก็บตัว ไม่ค่อยออกจากบ้านไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง คนที่ติดหนี้ ดื่มหนัก และไม่ค่อยมีสังคม ขณะที่ปัจจัยอย่างการมีบ้านเป็นของตัวเอง หรือใช้โซเชียลมีเดียหนัก กลับพบว่าไม่มีผลกับเรื่องดัชนีมวลรวมความสุขแม้แต่น้อย

         อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า ผลวิจัยนี้จะอ้างอิงจากกลุ่มตัวอย่างชาวอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ บางครั้งอาจจะไม่ตอบรับกับบริบทของบ้านเรา แต่ก็ถือเป็นมุมมองที่ทำให้เราต้องย้อนกลับมาถามตัวเองว่าแล้วความสุขที่แท้จริงของตัวเราเอง และของคนในสังคมเป็นอย่างไร  แน่นอนว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากกับการดำเนินธุรกิจ ทำให้เรารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่สังคมต้องการและมองหาในชีวิต

ขอบคุณที่มาจาก : www.telegraph.co.uk

บทความโดย : TerraBKK เคล็ดลับการลงทุน

TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก