กรุงเทพฯ ประเทศไทย วันที่ 16 ตุลาคม 2560 – เดอะ พาวิลเลี่ยนส์ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (The Pavilions Hotels & Resorts) ผู้นำด้านการบริหารงานการบริการจากประเทศฮ่องกง เปิดตัว “เดอะจินโตะเรสซิเด้นซ์” (The Ginto Residences) โครงการที่อยู่อาศัยและโรงแรมห้าดาวแห่งแรกในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเขตนิเซโกะ จังหวัดฮอกไกโด คาดดึงดูดนักลงทุนไทยล้นหลาม พร้อมเตรียมขยายกิจการเพิ่มทั่วเอเชียและยุโรป จับเทรนด์ “โฮเทลเรสซิเด้นซ์” ชูจุดขายทำเลแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก

          มร. กอร์ดอน โอลด์แฮม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง เปิดเผยว่า เดอะ พาวิลเลี่ยนส์ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ได้ลงทุนกว่า 3 พันล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและโรงแรมสุดหรูในเขตนิเซโกะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น ภายใต้ชื่อ “เดอะจินโตะเรสซิเด้นซ์” ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูสภายในเครือฯ แห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น โดยเฟสแรกเป็นวิลลาส่วนตัว (Private Villa) 31 หลัง ขนาด 1,000 ตารางเมตรขึ้นไป ราคาตารางเมตรละ 800 – 1,500ดอลลาร์ (USD) ขายไปแล้วทั้งสิ้น 16 หลัง โดยผู้ซื้อนักลงทุนชาวฮ่องกง สิงคโปร์ และไทย ส่วนเฟสที่สอง คือ “เดอะพาวิลเลี่ยนส์นิเซโกะ” (The Pavilions Niseko) โรงแรมระดับห้าดาว ประกอบด้วยห้องพัก 40 ห้อง เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ สปาออนเซนแบบอินดอร์และเอาท์ดอร์, ยิม, โยคะสตูดิโอ และห้องอาหาร รวมไปถึง “จินโตะวิลเลจ” (Ginto Village) ศูนย์การค้าและศูนย์รวมความบันเทิงแนวบูติคที่จะเปิดให้บริการภายในโครงการอีกด้วย โดยเจ้าของที่อยู่อาศัย (Residence)สามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอันหรูหราของโรงแรมทั้งหมดได้เช่นกัน ทั้งนี้ ได้เริ่มก่อสร้างโครงการแล้วในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2019

          "นิเซโกะ (Niseko) นับเป็นเมืองท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นเมืองที่จะมอบประสบการณ์การพักผ่อนให้แก่ผู้มาเยือนได้สัมผัสได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์งดงาม เป็นสถานที่เล่นสกีที่มีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่นในฤดูหนาว และยังมีกิจกรรมเอาท์ดอร์อีกมากมาย เช่น การเดินป่า ปีนภูเขา ปั่นจักรยาน ล่องแก่ง และเล่นกอล์ฟ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เรามั่นใจว่า โครงการเดอะจินโตะเรสซิเด้นซ์ จะประสบความสำเร็จในการดึงดูดนักลงทุนรวมถึงนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้ามาอย่างแน่นอน โดยเฉพาะนักลงทุนและนักท่องเที่ยวชาวไทยที่นิยมมาท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นมากขึ้นในทุกๆ ปี” มร.กอร์ดอนกล่าว

          ข้อมูลจากการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นระบุว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นพุ่งขึ้นสูงถึง 24ล้านคนจากทั่วโลกในปี 2016 และคาดว่า จะเพิ่มขึ้นเป็น 40 ล้านคนในปี 2020 ซึ่งเป็นปีที่กรุงโตเกียวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน (Summer Olympic Games) สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้าไปในประเทศญี่ปุ่นจำนวน 901,525 คนในปี 2016 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2015 (จำนวน 796,731คน)

          นอกจากนั้น กลุ่มเดอะ พาวิลเลี่ยนส์ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ยังได้เตรียมพร้อมขยายกิจการในภูมิภาคเอเชียและยุโรปอีกทั้งสิ้น 3 แห่งภายในปี 2020 ได้แก่ โรงแรมเดอะพาวิลเลี่ยนส์มาดริด (The Pavilions Madrid) ประเทศสเปน (2018), เดอะพาวิลเลี่ยนส์ลิสบอน (The Pavilions Lisbon) ประเทศโปรตุเกส (โรงแรมเปิดให้บริการในปี 2018 และเรสซิเด้นซ์จะแล้วเสร็จในปี 2020) และเดอะจินโตะเรสซิเด้นซ์ (The Ginto Residences) นิเซโกะ ประเทศญี่ปุ่น (โรงแรมและเรสซิเด้นซ์เปิดให้บริการในปี2019) รวมเป็น 8 แห่ง จากเดิมที่เปิดให้บริการแล้ว 5 แห่ง ได้แก่ ภูเก็ต (โรงแรมและเรสซิเด้นซ์), บาหลี, เนปาล, อัมสเตอร์ดัม และกรุงโรม  โดยโครงการใหม่ 3 แห่งที่กำลังจะเปิดให้บริการ เน้นทำเลที่ตั้งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกและดีไซน์ระดับไฮเอนด์ที่แตกต่าง และทั้งหมดเป็นโครงการที่อยู่อาศัยระดับลักซัวรี่ในรูปแบบโรงแรม (Hotel Residence) โดยนักลงทุนสามารถซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่สอง บ้านพักต่างอากาศ หรือเพื่อการลงทุน ซึ่งจะบริหารงานเช่าโดยเดอะพาวิลเลี่ยนส์ฯ

 

          มร.กอร์ดอน ให้ความเห็นว่า “เรสซิเดนซ์รูปแบบโรงแรมกลายเป็นเทรนด์ทั่วโลกและเกิดขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนและผู้ซื้อมีการเชื่อมโยงและมั่นใจในแบรนด์ที่ตนเองมีประสบการณ์หรือเป็นเจ้าของอยู่ และถึงแม้ว่า การแข่งขันในตลาดปัจจุบันจะสูงขึ้น แต่เราเชื่อว่า โฮเทลเรสซิเด้นซ์ยังคงดึงดูดการลงทุน เนื่องจากมีความแตกต่างจากโครงการเรสซิเด้นซ์ทั่วไป นั่นคือการบำรุงรักษาสถานที่ โดยโฮเทลเรสซิเด้นซ์จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากพนักงานโรงแรมแม้เจ้าของจะไม่ได้อยู่อาศัยก็ตาม ขณะเดียวกันยังตอบโจทย์ผู้ซื้อที่มองหาบ้านหลังที่สอง บ้านพักต่างอากาศ และยังเป็นโอกาสในการลงทุน สามารถรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบครอบครัวขนาดใหญ่ได้อีกด้วย คาดว่า โฮเทลเรสซิเด้นซ์จะดึงดูดความสนใจอย่างยั่งยืนอย่างแน่นอน”