สนข. คาดผู้โดยสารรถไฟฟ้าภูเก็ตทะลุ หมื่นคนต่อวัน คมนาคมเร่งชงแผนร่วมทุนพีพีพีเข้าครม. ภายในมิ.ย. 61 ก่อนเปิดประมูลโครงการ 3.94 หมื่นล้านปลายปีหน้า

          นายฤทธิกา สุภารัตน์ รักษาการผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เปิดเผยว่าความคืบหน้าโครงการรถไฟรางเบา (แทรม) จังหวัดภูเก็ตนั้น อยู่ระหว่างการจัดจ้างเอกชนเข้ามาศึกษาความเหมาะสมแนวทางการร่วมทุนพีพีพี คาดซึ่งจะใช้เวลาศึกษาราว 6 เดือน อย่างไรก็ตามมองว่าโครงการดังกล่าวสามารถเดินหน้าไปได้อย่างรวดเร็วไม่น่าติดปัญหาอะไรเพราะเป็นโครงการที่เป็นนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้เกิดการลงทุนระบบรถไฟฟ้าในจังหวัดใหญ่ของแต่ละภูมิภาคเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่

          แหล่งข่าวจากสำนักงานโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่าโครงการรถไฟรางเบา (แทรม) จังหวัดภูเก็ตช่วงท่านุ่น-ท่าอากาศยานภูเก็ต-ห้าแยกฉลองวงเงิน 3.94 หมื่นล้านบาท โดยรัฐบาลให้เป้าหมายกระทรวงคมนาคมเอาไว้ว่าต้องเร่งศึกษารูปแบบการร่วมทุนพีพีพีให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสแรกของปี 2561 จากนั้นต้องเสนอโครงการขอความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ภายในเดือน มิ.ย. ก่อนเปิดประมูลให้ได้ตัวเอกชนเข้ามาดำเนินโครงการภายในปี 2561 เนื่องจากเป็นโครงการที่ถูกบรรจุในแพคเกจลงทุนระยะเร่งด่วนของปีงบประมาณ 2560 (PPP Fast Track)โดยจะเริ่มก่อสร้างเฟสแรกก่อนคือช่วงท่าอากาศยานภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี ประกอบด้วย 6 ทางลอด และ 1 สถานียกระดับ ที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต ส่วนด้านปริมาณผู้โดยสารที่คาดการณ์นั้นสูงถึง 70,000 คนต่อวัน เนื่องจากผ่านโรงเรียนมากกว่า 40 แห่งรวมถึงชุมชนย่านการค้าในพื้นที่ตลอดจนมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในจังหวัดกว่าปีละหลายล้านคน ส่งผลให้ผลประกอบการของโครงการดังกล่าวถือว่ามีความคุ้มค่าน่าแก่การเข้ามาลงทุน โดยเฉพาะเมื่อดูจากอัตราค่าโดยสาร15-25 บาทต่อเที่ยวต่อ

          “รถไฟฟ้าภูเก็ตเป็นโครงการที่คนในจังหวัดสนับสนุนอย่างมากเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่และพัฒนาระบบขนส่งให้คนภูเก็ต ดังนั้นจึงควรเป็นเมืองโมเดลต้นแบบที่จะนำไปใช้ในการก่อสร้างรถไฟฟ้าในจังหวัดอื่นๆ ซึ่งสนข.เน้นด้านการทำความเข้าใจกับชาวบ้านแล้วพบว่าคนในพื้นที่ต่างพร้อมให้ความร่วมมือและเสียสละพื้นที่บางส่วนเพื่อให้เปิดหน้างานการก่อสร้างได้ โดยเฉพาะการยอมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจราจรเมื่อการก่อสร้างเริ่มต้นขึ้น” แหล่งข่าวกล่าว

ขอบคุณ บทความจาก Posttoday

https://m.posttoday.com/biz/gov/521804