ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็ยังคงเป็นไฮไลท์สำคัญของกรุงเทพฯ ด้วยบรรยากาศ แหล่งท่องเที่ยวดั้งเดิม โรงแรมและร้านอาหาร ที่ตั้งอยู่รายล้อมริม 2 ฝั่งแม่น้ำ ซึ่งเหมาะสำหรับการพักผ่อน และท่องเที่ยวไปพร้อมกัน

แน่นอนว่า ด้วยบรรยากาศริมแม่น้ำที่ผ่อนคลาย ทำให้หลายคนต้องฝันอยากมีคอนโดฯ ริมน้ำ ไว้เพื่อพักผ่อนสักห้อง

ซึ่งตอนนี้ตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก็มีคอนโดฯ ขึ้นเรียงรายอยู่หลายโครงการ โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นคอนโดมิเนียมหรู ระดับลักชัวรีและซูเปอร์ลักชัวรี เพราะที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาใจกลางเมือง เป็นที่ดินที่หายากและมีราคาสูงกว่าทำเลทั่วไป เรียกได้ว่าเป็น "Prime Area" ที่บริษัทอสังหาฯ ต้องเร่งหาทำเลเด่นเพื่อปักหมุดโครงการกันอย่างดุเดือด

ปัจจุบันโครงการคอนโดมิเนียมหรู ระดับลักชัวรีและซูเปอร์ลักชัวรี ในทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีซัพพลายอยู่ไม่มากนัก เมื่อเทียบกับทำเลกลางเมือง เพราะแต่ละปีมีการเปิดตัวเพียง 1-2 โครงการ

โดยช่วง 3 ปีนี้ มีโครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 3 โครงการ จำนวน 634 ยูนิต เท่านั้น ด้วยซัพพลายที่มีไม่มากทำให้มีความต้องการซื้อสูง โดยเฉพาะกลุ่มตลาดต่างประเทศที่ซื้อเพื่อลงทุนและอยู่อาศัยในบรรยากาศท่องเที่ยวริมน้ำ มีสัดส่วน 30-40% ซึ่งสูงกว่าทำเลอื่นๆ ที่มีสัดส่วน 25% 

ปัจจุบันคอนโดทำเลริมน้ำ กลุ่มลักซัวรีและซูเปอร์ลักชัวรี ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3.19 แสนบาทต่อตร.ม. สูงกว่าค่าเฉลี่ยคอนโดหรูกลางเมืองที่ราคาเฉลี่ย 2.69 แสนบาทต่อตร.ม.

พูดถึงศักยภาพทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยากันไปพอสมควรแล้ว

วันนี้ทีมงาน TerraBKK จะพาคุณร่วมชมบรรยากาศจริงของคอนโดฯ ระดับ Ultimate Luxury บนทำเลที่สวยที่สุดริมโค้งน้ำเจ้าพระยา ย่านเจริญนคร กับโครงการ บันยันทรี เรสซิเดนซ์ ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ  ของ บมจ. เนอวานา ไดอิ

 

ต้องบอกก่อนว่า ใครที่ชื่นชอบบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา ต้องมาดูโครงการนี้ก่อนเลย เพราะเจ้าของโครงการอย่างเนอวานา ไดอิ ได้ออกแบบให้พื้นที่โครงการอยู่ห่างจากแม่น้ำเพียง 16 เมตร ซึ่งจะทำให้คุณได้สัมผัสกับทัศนีย์ภาพริมแม่น้ำแบบรอบด้าน

โดยการออกแบบ บันยันทรี เรสซิเดนซ์ ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ  มาจากแนวคิด The Sanctuary for your Soul คือ เน้นให้ผู้พักอาศัยได้เข้าถึงการพักผ่อนอย่างแท้จริง โดยใช้จุดเด่นจากทำเล ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบของชุมชนเก่าแก่โบราณในย่านเจริญนคร และศูนย์กลางธุรกิจ การค้า อย่างสาทร และเยาวราช ซึ่งจะเห็นว่าคอนเซปต์โครงการนี้ จะมีความแตกต่างจากคอนโดฯ โครงการละแวกใกล้เคียงที่เน้นบรรยากาศการท่องเที่ยวและช็อปปิ้งเป็นหลัก

สำหรับการออกแบบสถาปัตยกรรม-งานก่อสร้าง โครงการ “บันยันทรี เรสซิเดนซ์ ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ” ได้เลือกใช้ SCDA Architect บริษัทออกแบบงานสถาปัตยกรรมระดับโลกจากนิวยอร์ค ร่วมเป็นที่ปรึกษาร่วมกับบริษัท อินทีเรียอาร์คิเทกเชอร์ 103 ส่วนการใช้แสงสีบนอาคาร ใช้บริษัทจากสิงคโปร์ และบริษัท บวิค-ไทย เป็นผู้ดำเนินงานก่อสร้าง ทำให้เกิดเป็นความสวยงามที่เรียบหรู สะท้อนถึงแนวคิดเพื่อการใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข และเต็มไปด้วยรสนิยมที่ไม่เหมือนใคร

เห็นได้จากรูปแบบ ตัวอาคาร ของคอนโดฯ ที่เป็นทรงสูง 45 ชั้น ซึ่งทุกห้อง ได้ออกแบบเป็น Single Loaded Corridor หน้ากว้าง  8 เมตร ทำให้ผู้พักอาศัยในคอนโดฯ แห่งนี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ห้องขนาดเท่าไหร่ คุณก็จะเห็นวิวแม่น้ำแบบพาโนรามิค สัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามของแม่น้ำสายหลักของประเทศไทยอย่างชัดเจนแน่นอน ถือเป็นจุดขายที่โดดเด่นของโครงการนี้

นอกจากนี้การวางรูปแบบห้องยังให้ความเป็นส่วนตัวสูงมาก ด้วยจำนวนห้องชุดเพียง 133 ยูนิต และจำนวนห้องพักต่อชั้นสูงสุด เพียง 4 ยูนิต เท่านั้น พร้อมบริการล็อบบี้ลิฟท์ส่วนตัว  ทำให้การเข้าห้องพัก มีความ Exclusive มากขึ้น ส่วนการใช้วัสดุภายในห้องจะเลือกใช้แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชั้นนำอย่าง Poliform  จากประเทศอิตาลี พร้อมคุณภาพระดับมาตรฐานบันยันทรี

สำหรับโครงการ บันยันทรี เรสซิเดนซ์ ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ  มีพื้นที่ 5-1-10 ไร่ จำนวน 1 อาคาร สูง 45 ชั้น จำนวน 133 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 300,000 บาทต่อตร.ม.

มีแบบห้อง5 แบบ (Room mix)

1) แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 69.40-85.45 ตร.ม.  จำนวน 48 ยูนิต

2) แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 156.40-179.20 ตร.ม.  จำนวน 66 ยูนิต

3) แบบ 3 ห้องนอน ขนาด 243.10 ตร.ม. จำนวน 16 ยูนิต

4) แบบ 4 ห้องนอน ขนาด 417.35 - 419.85 ตร.ม. จำนวน 2 ยูนิต

5) Penthouse ขนาด 836.70 ตร.ม. จำนวน 1 ยูนิต 

ส่วนที่จอดรถมีมากกว่า 260 คัน หรือ คิดเป็น 200% ของยูนิตทั้งหมด

ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกระดับ Super Premium ของโครงการนี้ ทั้งหมดถูกออกแบบให้เห็นวิวแม่น้ำแบบพาโนรามิคในทุกมุมมองเช่นกัน โดยเป็นพื้นที่ส่วนกลาง 59% ของพื้นที่อาคาร เป็น Facility 6,000 ตร.ม.

โดยบริเวณชั้น 1 ด้านหน้าติดริมแม่น้ำจะแบ่งเป็นพื้นที่

  • Residence Lobby
  • Riverside Lounge
  • Outdoor Lounge
  • Private Floating Jetty ท่าเทียบเรือส่วนตัวของโครงการ พร้อม Shuttle Boat Service  
  • Sunken Seating Area
  • Multipurpose Room

สำหรับ ชั้น 2 จะแบ่งเป็นห้องๆ ตามการใช้งาน ซึ่งทุกห้องจะมองเห็นวิวแม่น้ำเช่นกัน

  • Meeting Room
  • River view owners Lounge
  • Library Room
  • Board Room
  • Private Dining Room ที่พร้อมให้บริการ แบบ Private Chef Table จากโรงแรม 5 ดาว
  • Prefunction Room

มาถึงบริเวณชั้น 3 ซึ่งจุดนี้จะมองเห็นวิวแม่น้ำ ได้ทั้ง 2 ฝั่ง

แบ่งเป็นพื้นที่ในอาคาร และนอกอาคารซึ่งตั้งอยู่บนอาคารจอดรถ

โดยด้านในอาคารฝั่งขวา จะเป็น Fitness Center  ตรงกลางเป็น Riverfront Jacuzzi Pool ที่สามารถมองเห็นวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาแบบพาโนรามิค และฝั่งซ้าย จะเป็นส่วน Outdoor Lonunge & BBQ Area

ส่วนด้านนอกอาคารจะเป็นโซน Panoramic View Swimming  Pool  , Kids Pool, Kids Room, Cabanas, Saunas,Active Play Area และ Banyan Tree Spa Room ที่สามารถเรียก เทอราปิสจากบันยันทรี* มาบริการที่โครงการได้อีกด้วย

สำหรับการดีไซน์ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง ภายในโครงการนี้ จะเน้นการตกแต่งโดยใช้โทนสีน้ำตาลทอง และสีครีม โดยมีการใช้หินอ่อนเป็นผนังสลับ ให้ความรู้สึกหรูหรา ส่วนบริเวณด้านนอกจะเป็นสวนหย่อม พร้อมโซฟาโทนสีเทา เพื่อ ให้รู้สึกผ่อนคลาย สบายตา เหมาะแก่การพักผ่อน

เพิ่มเติมด้านบริการ สำหรับผู้ซื้อโครงการบันยันทรี เรสซิเดนซ์ ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ  จะได้รับบริการสุดพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของบันยันทรี  คือ สิทธิ์การเป็นสมาชิก The Sanctuary Club เพื่อรับประโยชน์จากแบรนด์ในเครือทั่วโลก ได้รับส่วนลดสูงสุด 30% ไม่ว่าจะเป็น บันยันทรี อังสนา แคสเซีย ดาหวา หรือลากูน่า

และการเป็นสมาชิกแบบ Banyan tree private collection เพื่อรับสิทธิประโยชน์จากการเข้าพักในเครือ ในญี่ปุ่น, โมร็อคโค, สก็อตแลนด์, ลอนดอน, บาหลี และคอสตาริก้า อีกด้วย

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ บันยันทรี เรสซิเดนซ์  ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ ปัจจุบันงานก่อสร้างคืบหน้าถึงชั้น 20 จากทั้งหมด 45 ชั้น โดยพร้อมจัดพรีเซลล์และเปิดให้ชมห้องตัวอย่างครั้งแรก ที่ Sales Gallery ณ ที่ตั้งของโครงการ ในวันที่ 18-19 พ.ย. นี้ ด้วยราคาพิเศษ เริ่มต้นที่ 22.9 ล้านบาท

ผู้สนใจสามารถเข้าชมรายละเอียดโครงการได้ที่ www.banyantreeresidencesriversidebangkok.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1787