​     “ศรีราชา” เมืองยุทธศาสตร์อีกแห่งของชลบุรี ด้วยระยะห่างจากตัวเมืองจังหวัดชลบุรีเพียง 24 กิโลเมตร และการเดินทางที่สามารถเข้าถึงกรุงเทพฯ ได้อย่างสะดวกทั้งถนนสุขุมวิทและมอเตอร์เวย์ ทำให้การพัฒนาการของเมืองศรีราชานั้นเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งดึงดูดแรงงานคุณภาพจำนวนมากเข้ามาในพื้นที่ โดยเฉพาะแรงงานประเทศญี่ปุ่น ทำให้เมืองศรีราชาเป็นเมืองที่มีประชากรญี่ปุ่นมากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากกรุงเทพฯ และถูกตั้งชื่อว่าเป็น Little Osakaเลยทีเดียว ซึ่งโครงการ Knightsbridge Ocean Sriracha จาก ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ได้พัฒนาโครงการเพื่อตอบโจทย์ประชากรชาวญี่ปุ่นด้วย

“ศรีราชา” ยังคงเป็น Little Osaka อยู่?

​     จากข้อมูลของกรมโรงงานอุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2559 พบว่าศรีราชมีนิคมอุตสาหกรรมกว่า 10 แห่ง มีจำนวนโรงงานถึง 1,300 แห่ง และมีบุคลากรที่ทำงานในโรงงานเหล่านี้รวมแล้วกว่า 127,000 คน นับว่าเป็นกลุ่มประชากรขนาดใหญ่มาก เมื่อเทียบกับประชากรทั้งหมดในอำเภอศรีราชาที่มีจำนวน 275,773 คน (พ.ศ.2558) และมีขนาดพื้นที่ 616.4 ตารางกิโลเมตร โดยสัดส่วนของบุคลากรที่ทำงานในโรงงานมีถึง 46% และในจำนวนของบุคลากรที่ทำงานในโรงงาน จากช่วงปี 2555-2557 ที่มีชาวญี่ปุ่นจำนวนถึง 10,000 คน รวมถึงแผนเมกะโปรเจคจากทางภาครัฐ ในการเข้ามาพัฒนา Eastern Economic Corridor หรือ EEC ที่มีขอบเขตการพัฒนาตั้งแต่ฉะเชิงเทราเรื่อยมาจนถึงระยะอง และมีมูลค่าการลงทุนถึงประมาณ 1.5 ล้านล้านบาทใน 5 ปีแรก

ศรีราชา ได้รับอานิสงส์อะไรจาก EEC?

     ​จากแผนการพัฒนา EEC กำหนดบทบาทให้ ชลบุรี-ศรีราชา เป็นเมืองและศูนย์กลางการศึกษานานาชาติ รองรับอุตสาหกรรมรถยนต์อนาคตและอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ซึ่งเอื้อต่ออุตสาหกรรมญี่ปุ่นและอุตสาหกรรมใหม่ ที่จะดึงดูดแรงงานคุณภาพทั้งไทยและต่างประเทศเข้ามามากขึ้น โดยมีการลงทุนด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้วยกัน 15 โครงการ แบ่งออกเป็น 9 ด้าน ได้แก่

พัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา วงเงินลงทุน 200,000 ล้านบาท
พัฒนาท่าเรือมาบตาพุต วงเงินลงทุน 10,150 ล้านบาท
พัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง วงเงินลงทุน 88,000 ล้านบาท
พัฒนาเมืองใหม่และโรงพยาบาล 400,000 ล้านบาท
พัฒนาด้านการท่องเที่ยว 200,000 ล้านบาท
พัฒนาด้านอุตสาหกรรม 500,000 ล้านบาท
พัฒนามอเตอร์เวย์ 35,3000 ล้านบาท
พัฒนารถไฟรางคู่ 64,300 ล้านบาท
พัฒนารถไฟฟ้าความเร็วสูง 158,000 ล้านบาท

     ศรีราขา ได้รับอานิสงส์ทั้งการเป็นเส้นทางของรถไฟฟ้าความเร็วสูง, การพัฒนารถไฟรางคู่, การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง, พัฒนามอเตอร์เวย์ และการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งจะสามารถยกระดับการเดินทางและโครงสร้างพื้นฐานทางการขนส่งให้พื้นที่อุตสาหกรรมในศรีราชามีประสิทธิภาพมากขึ้น ก่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการลงทุนทั้งจากไทยและต่างชาตินั่นเอง

ภาพจาก : www.ftilogistics.org

อีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นโครงการแรกในประเทศไทย นั่นก็คือโครงการ Digital Park Thailand  (Thailand Silicon Valley) หรือ เมืองนวัตกรรม ที่พัฒนาโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนของกำลังคนดิจิทัลได้ถึง 52,000 คนในปีแรก มีเม็ดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาทต่อปี และจะสามารถยกระดับอุตสาหกรรมดิจิตอลในพื้นที่ได้ปีละประมาณ 80,000 ล้านบาท พื้นที่โครงการตั้งอยู่ที่อำเภอศรีราชา บนพื้นที่ทั้งหมดกว่า 700 ไร่ ซึ่งแบ่งพื้นที่การพัฒนาออกเป็น 3 ส่วนคือ

Digital innovation Zone - พื้นที่เพื่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัล เพื่อให้เป็นพื้นที่ศูนย์กลางการเรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีดิจิทัล มีทั้งมหาวิทยาลัยและสถาบันสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัล ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ IoT Institute (Internet of Things)

Digital Service Zone - พื้นที่สำหรับบริษัทด้านดิจิทัลที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพ

Smart Living Zone - ที่อยู่อาศัยภายใต้ระบบอัจฉริยะเพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้

ภาพจาก : www.blognone.com/node/97114

สำหรับการพัฒนาตามแผน EEC ที่กำลังดำเนินการในขณะนี้ประกอบไปด้วย 7 โครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา, โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส3, โครงการท่าเรือมาบตาพุด, โครงการท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ, โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง สายกรุงเทพ-ระยอง, โครงการรถไฟทางคู่ และ โครงการทางหลวงพิเศษ พัทยา-มาบตาพุด, แหลมฉบัง-นครราชสีมา และชลบุรี-ตราด

โครงการ Knightsbridge Ocean Sriracha ยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ในแผน EEC ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง อีกทั้งยังมีระยะห่างจาก Digital Park Thailand เพียง 2.6 กิโลเมตร ทำให้เกิดข้อได้เปรียบในเรื่องของศักยภาพทำเลที่แวดล้อมไปด้วยแหล่งงานเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นยังเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและสถานศึกษา อาทิเช่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา, โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราช, โรงเรียนดาราสมุทรศรีราชา, โรงเรียนเซนต์ปอลล์เวนต์, โรบินสัน ศรีราชา, โรงพยาบาลพญาไท ศรีราช, โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา, เจ ปาร์ค แหล่งรวมชาวญี่ปุ่นของเมืองศรีราชา และ ศรีราชา อินเตอร์เนชันนอล กอล์ฟ คลับ

Knightsbridge The Ocean Srirachaคอนโดฯศักยภาพ รับผู้เช่าชาวญี่ปุ่น

     สำหรับโครงการ Knightsbridge The Ocean Sriracha เป็นโครงการคอนโดฯ ของบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ที่ถูกพัฒนาต่อเนื่อง จากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ออริจิ้น ได้เริ่มบุกเบิกเข้าพัฒนาโครงการอสังหาฯ ในพื้นที่ EEC มาแล้วหลายโครงการ ซึ่ง Knightsbridge The Ocean Sriracha ได้แนวคิดมาจากศักยภาพความเป็นศรีราชา ที่มีนิคมอุตสาหกรรมจำนวนมาก และในอนาคตจังหวัดชลบุรีก็จะเป็นอีกหนึ่งยุทธศาสตร์ที่สำคัญของไทย ตามการลงทุนภาคอุตสาหกรรมจากนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่ตอนนี้มาทำงานและอาศัยในศรีราชาจำนวนมาก ซึ่งความต้องการเช่าคอนโดฯ ก็ยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการนี้ได้การันตีค่าเช่าสูงถึง 30% (6%/ปี ในระยะเวลา 5 ปี)


ด้วยศักยภาพของทำเลศรีราชา ดังนั้น TerraBKK จึงไม่พลาดที่จะพาคุณเข้าชมโครงการ Knightsbridge The Ocean Sriracha ซึ่งโครงการนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ติดถนนสุขุมวิท (ทล.3) ซึ่งเป็นถนนหลักของโครงการ ถนนเส้นนี้เป็นถนนใหญ่สามารถขับเข้ากรุงเทพหรือจะไปออกพัทยาก็ไปง่าย และยังมีเส้นทางเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวชายทะเลได้ ในระยะทางเพียง 1.4 กิโลเมตร นอกจากนี้ตัวอาคารยังตั้งอยู่บนฮวงจุ้ยมังกร ด้านหลังพิงภูเขา ด้านหน้าวิวทะเลทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถชมวิวได้ทั้งสองฝั่ง

สำหรับโครงการ Knightsbridge The Ocean Sriracha เป็นคอนโด High Rise สูง 36 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 722 ยูนิต บนพื้นที่ทั้งหมด 4-0-4.5 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 2,500 ล้านบาท

     ตัวอาคารถูกออกแบบเป็นรูปตัว L โดยด้านในตัว L จะหันหน้าเข้าทางวิวภูเขา หรือ ทิศตะวันออก โดยใช้ศิลปะแบบ Art Deco ด้วยการใช้รูปทรงเลขาคณิตเข้าไปในโครงสร้างใช้วัสดุเรียบ เน้นโทนสีขาว ดำ น้ำตาล และสีทอง ส่วนบนของตัวตึกเพิ่มความหรูหรา

     ด้านการตกแต่ง ที่โครงการนี้จะเน้นออกแบบให้ครอบคลุมกิจกรรมของคนญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับห้องน้ำมาก ส่วนเฟอร์นิเจอร์จะออกแบบเฉพาะให้เก็บของได้เยอะมาก เป็นแบบ Fully Furnished แบบลอยตัวและ Built-in พร้อมเครื่องปรับอากาศทุกห้อง ส่วนพื้นห้องเป็นยางลายไม้ ซึ่งป้องกันรอยขีดข่วนและความชื้นได้ดีกว่าระเบียงและห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิค

     สำหรับห้องน้ำ จะแบ่งส่วนเปียกแห้ง โดยสุขภัณฑ์ภายในจะมีฝักบัว และ Rain Shower, อ่างจากุชชี่สำหรับนอนแช่น้ำพักผ่อน, พร้อมเก้าอี้เล็กสำหรับนั่งอาบน้ำตามสไตล์คนญี่ปุ่น

โดยห้องทั้งหมดของโครงการจะมี 5 แบบ

Superior (1-Bedroom)   24.50 – 29.00 ตร..

Deluxe (1-Bedroom)     33.00 – 37.50 ตร..

Suite (2-Bedroom)        52.00 – 62.00 ตร..

Penthouse                      87.00 – 93.00 ตร..

Duplex                          61.00 – 101.00  ตร..

สำหรับห้อง 1 ห้องนอน ถูกออกแบบสำหรับอยู่อาศัย 1-2 คน มีครัวเปิด โต๊ะรับประทานอาหารเล็ก ส่วนนั่งเล่นและห้องนอนแบ่งพื้นที่ด้วยประตูกระจกบานเลื่อนและห้องน้ำ 1 ห้อง

ส่วนห้อง 2 Bedroom เหมาะกับการอยู่อาศัย 3-4 คน  มีครัวเปิด โต๊ะรับประทานอาหาร 4 ที่นั่ง ห้องนั่งเล่นมีช่องเปิดกว้างรับวิวได้ ส่วนห้องนอนมีระเบียงให้ทั้ง 2 ห้อง มีห้องน้ำ 2 ห้อง


มาดู Facilities ที่โครงการนี้ แบ่งพื้นที่ส่วนกลางถึง 4 ชั้น คืออยู่ที่ชั้น 4, 35 และ 36) โดยชั้น 1-3 จะเป็น Lobby และที่จอดรถรวมจอดซ้อนประมาณ 320 คัน โดยทั้ง 4 ชั้น แบ่งเป็น Triple Facilities ได้แก่

     

Circle Of Nature ชั้นล่างสุด มีสนามหญ้าและสนามพัตต์กอล์ฟ มีลักษณะเป็นสนามหญ้าขนาดใหญ่พอสมควร สำหรับไว้ให้ผู้พักอาศัยฝึกซ้อมการพัตต์ ซึ่งมีการดีไซน์หลุมไว้ให้แบบหลากหลายถึง 3 หลุมด้วยกัน อบๆ มีการจัดสวนให้เดินเล่นหรือนั่งเล่นได้ เพื่อพักผ่อนหย่อนใจกันได้ ซึ่งด้านนี้จะอยู่ติดกับวิวภูเขา ให้ความรู้สึกของพื้นหญ้าเรียบที่ต่อเนื่องกับภูเขาสูง

    Circle Of Community ชั้น 4 สระว่ายน้ำแบบฟรีฟอร์ม และสวน เพื่อให้ครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งโซนนี้ได้จัดอยู่ทิศตะวันออก ใกล้ภูเขา ซึ่งเป็นทิศที่ไม่โดนแดดจัด แถมยังได้ภูเขาช่วยบัง จึงทำให้สระว่ายน้ำนี้สามารถว่ายน้ำได้ทั้งวัน ไม่ร้อน

โดย Facilities ในชั้นนี้จะประกอบด้วย  Party Lawn,  Kids Club, ห้องซักรีด, Multi-function Room, Golf Simulator Room, Home Theatre Room และสระว่ายน้ำ สระ เป็นแบบฟรีฟอร์ม ระบบ Over Flow ขนาด 8 x 70 เมตร ลึก 1.2 เมตร แบ่งเป็นสระเด็กลึก 0.30 เมตร เป็นสระที่เน้นเล่นสนุกไม่เน้นว่ายน้ำจริงจัง

    Circle Of Inspiration อยู่ในชั้น 35-36 โดยชั้น 35 จะเป็นสระว่ายน้ำระบบ Over Flow ขนาด 5 x 20 เมตร ลึก 1.2 เมตร ห้องออนเซ็นชายชมวิวภูเขา ห้องออนเซ็นหญิงชมวิวเมืองศรีราชา รวมถึงซาวน่า, สตรีม ยกขายหญิง รวมถึง Tatami Room เป็นห้องนั่งเล่นแบบญี่ปุ่น บนชั้น 36 มี Fitness และBusiness Lounge 

สำหรับการเดินทางไปยังโครงการ ถ้ามาด้วยรถยนต์ก้มีความสะดวก เพราะโครงการอยู่ระหว่างตัวเมืองศรีราชากับอ่าวอุดมแหลมฉบัง และอยู่บนถนนหลักที่สามารถเดินทางไปพัทยาหรือกรุงเทพได้ง่าย

ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะก็มีรถโดยสารประจำทาง รถสองแถว และรถมอเตอร์วิ่งผ่าน นอกจากนี้ โครงการมี Shuttle Service ให้

สถานที่ใกล้เคียง

ตึกคอม ​​​​​ 1.8 .
ท่าเรือศรีราชา ฮาร์เบอร์ 1.6 .
ตลาดสดศรีราชา ​​​2.5 .
Robinson ศรีราชา ​​2.8 .
เกาะลอย ​​​​3.5 .
.เกษตรศาสตร์ ศรีราชา 3.5 .
J-Park ​​​​​8.2 .
นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง 8.5 .

เรียกได้ว่า โครงการKnightsbridge The Ocean Sriracha เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดแบบหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้ทันที และมีรสนิยมฟังก์ชั่นสไตล์ญี่ปุ่น ที่สำคัญคือคุณจะได้คอนโดฯ ที่มีวิวทะเลและวิวภูเขา ทัศนียภาพดี ให้ Facilities อย่างครบถ้วน

ส่วนใครที่อยากจะลงทุนเพื่อให้คนญี่ปุ่นเช่า ก็เหมาะมาก เพราะโครงการที่อยู่ไม่ห่างจากเมืองมากนัก เดินทางสะดวก สามารถใช้รถส่วนตัวและใช้รถโดยสารสาธารณะ

นอกจากนี้ยังมี Hi-Speed Internet บริการ พร้อมแม่บ้านดูแลและเนื่องจากเป็นโครงการที่ออกแบบฟังก์ชั่นมาเพื่อคนญี่ปุ่น จึงมี Japanese Agent Service สำหรับหาผู้เช่าให้แก่นักลงทุน

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ Knightsbridge The Ocean Sriracha ตอนนี้ที่โครงการมีโปรโมชั่น ช่วงเวลาสุดพิเศษ ราคาเริ่ม 2.79 ล้านบาท ผ่อนเพียง 3,000 บาท/เดือน และขายพร้อมผู้เช่านาน 1 ปี Rental Yleld สูงถึง7% และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Tel 061 419 0999 และสามารถลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท คลิก https://goo.gl/bjhJpM

ขอบคุณข้อมูลจาก knightsbridge.origin.co.th