ปีใหม่ใกล้เข้ามา หลายคนยังสาละวนอยู่กับการตั้ง New Year Revolution เพื่อเป็นเข็มทิศในการใช้ปีหน้า จนอาจลืมไปว่า ก่อนจะข้ามสเต็ปไปสู่การตั้งเป้าหมาย ต้องเริ่มต้นจากการเตรียมตัวให้พร้อม ทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะฉะนั้นก่อนจะคิดการณ์ใหญ่ ตั้งเป้าใหญ่แล้วทะยานไปให้ถึง ลองเริ่มจากก้าวเล็กๆ ด้วยการเก็บกวาด ชำระจิตใจให้ผ่องใส พร้อมรับสิ่งดีๆ ที่จะเข้ามาดีกว่า งานนี้บอกเลยไม่ต้องเข้าวัด ไปถือศีลปฏิบัติธรรมเพราะแค่ 9 วิธีน้อยแต่มากนี้ จิตใจก็ผ่องใสได้

         1.บอกตัวเองให้คิดดีเข้าไว้ ถึงจะพูดง่ายแต่ทำยาก แต่ถ้าอยากเซ็ทซีโร่ให้ใจดวงเดิมก็ต้องทำให้ได้ วิธีฝึกง่ายๆ คือ ลองหาสมุดโน๊ตน่ารักๆ สักเล่มมาไว้ข้างกาย เพื่อใช้สำหรับบันทึกเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน อย่างได้เลื่อนตำแหน่ง ถูกขอแต่งงาน ได้ลองไปชิมอาหารร้านใหม่ๆ หรือ มองออกไปนอกหน้าต่างแล้วเห็นพระอาทิตย์ขึ้นพอดี เป็นต้น

         

ข้อดีของการฝึกให้ตัวเองมองเห็นคุณค่าของสิ่งเล็กๆ รอบตัวอยู่เสมอ คือ ช่วยให้จิตใจไม่ขุ่นหมอง เมื่อสุขภาพใจดี รบร้อยครั้งก็ชนะร้อยครั้ง

        2.ฝึกหายใจช้า ลองเช็คดูซิว่า คุณหายใจด้วยจังหวะไหน เพราะถ้าตามหลักวิชาการแล้ว อัตราการหายใจเฉลี่ยของวัยรุ่นควรอยู่ที่ 15 ลมหายใจต่อนาที ถามว่าทำไมต้องหายใจเนิบๆช้า ข้อดี คือ ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทพาราซิมพาเทติก ซึ่งจะทำงานในช่วงที่ร่างกายมีการพักผ่อน ลดอัตราการเต้นของหัวใจ และคลายความวิตกกังวล

        3.อยู่กับปัจจุบัน แทนที่จะเสียพลังงานไปกับการคาดการณ์อนาคตที่มองไม่เห็น หรือ หมกหมุ่นอยู่กับอดีตที่ผ่านมา สู่อยู่กับปัจจุบันและทำให้ดีที่สุดดีกว่า

        4.กอดกันบ้าง ถ้าคุณไม่ใช่ประเภทหวงเนื้อหวงตัว ชนิดที่ว่าไม่อยากให้ใครมาสัมผัส การกอดกัน ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยมหัศจรรย์ที่กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารสารเอ็นโดรฟีน หรือ ฮอร์โมนแห่งความสุข ซึ่งร่างกายจะผลิตขึ้นเมื่อเราเกิดความสุขใจ หรือเมื่อเกิดความปิติสุข

        5.อยู่ดีมีสุข เชื่อหรือไม่ว่า แค่เวลาสั้นๆในช่วงเช้าหรือเย็นย่ำของแต่ละวันที่คุณได้อยู่กับตัวเอง เพื่อทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละวันนั้นดีต่อใจขนาดไหน อย่างน้อยก็ช่วยให้คุณรู้สึกว่าชีวิตนี้เป็นของคุณ และคุณสามารถควบคุมได้ จากผลการวิจัยของ Values Study พบว่า คนที่รู้สึกว่าควบคุมชีวิตตัวเองได้ จะมีความพึงพอใจในการใช้ชีวิตมากกว่าคนที่รู้สึกว่าชีวิตนี้ช่างเหนือการควบคุม

        6.เติมสีสันให้ชีวิตบ้าง มีงานวิจัยหลายชิ้นที่พบแล้วว่าการใส่เสื้อผ้าในโทนสีสว่างจะช่วยเพิ่มการหลั่งของฮอร์โมนที่ช่วยให้รู้สึกตื่นตัว กระฉับกระเฉง มีสมาธิ และไวต่อสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ รอบตัวมากขึ้น ยิ่งมีการหลั่งสารนี้มากเท่าไร คนนั้นก็จะมีความพอใจหรือมีความสุขมากขึ้นตามไปด้วย ใครที่ไม่รู้จะเปลี่ยนแนวจากสาวในลุคโมโนโทนอย่างไร

เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการลองเพิ่มสีเขียวเข้ามาใช้ชีวิต อาจเริ่มด้วยการเปลี่ยนสีพื้นหน้าจอเดรสท็อปของคอมพิวเตอร์ให้เป็นสีเขียว เพราะสีเขียวมีอานุภาพช่วยลดอาการตาล้า ช่วยสร้างบรรยากาศที่สงบ คลายความกังวล ขณะที่สีน้ำเงินช่วยให้คุณรู้สึกทำอะไรก็มีประสิทธิผล และ ช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจ

        7.ติดอาวุธความคิดสร้างสรรค์ อย่าเพิ่งส่ายหน้าขอบาย เพราะคิดว่าคุณไม่มีทางลุกขึ้นมาจับดินสอแล้วปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ลงบนกระดาษขาวให้เต็มไปด้วยเรื่องราวได้ คุณไม่จำเป็นต้องเล่นใหญ่ขนาดนั้น แค่เปิดโอกาสให้สมองมีพื้นที่เล็กๆ ในการเติมความสดชื่นด้วยการปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ ลองทำในสิ่งใหม่ๆ ก็พอ หรือ ถ้าไม่ใช่สายติสต์จริงๆ อาจลองหากิจกรรมกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์อย่าง เกมปริศนา ซูโดกุ ก็พอแล้ว

        8.จัดการความเครียด เทคนิคง่ายๆ ในการรับมือความเครียด คือ ไม่ต้องวิ่งหนี แต่ให้เวลาตัวเองได้ทบทวนความคิดลบๆ เหล่านี้ วันละ 15-20 นาที แล้วไปต่อแทนที่จะจมปลัก คุณต้องบอกตัวเองเสมอว่า คุณไม่มีเวลามาจมอยู่กับความคิดลบๆ มากมาย เพราะยังมีหลายอย่างให้ทำ การฝึกให้ตัวเองผลัดผ่อนความกังวลไว้เป็นเรื่องท้ายๆในชีวิต ทำให้จิตใจคุณผ่องใสอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะไม่ต้องเอาใจไปผูกกับเรื่องแย่ๆ แต่ไปโฟกัสกับสิ่งดีๆแทน

ขอบคุณที่มา : https://psych2go.net