เป้าหมายของการอ่านหนังสือของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอ่านเพื่อหาข้อมูลเพื่อนำไปใช้ได้จริง บางคนอ่านเพราะความชอบ ความเพลิดเพลิน มีความสุขกับการขลุกอยู่กับตัวหนังสือในแต่ละวัน แต่ถ้าหากเราสามารถนำการรักการอ่านกับการประยุกต์ไปใช้งานได้จริง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและต่อยอดการใช้งานให้เกิดผลจริงในชีวิตประจำวันได้

            หากเราเปลี่ยนการอ่านเชิงอนุรักษ์นิยมเป็นการอ่านแบบนักคิดจะช่วยก่อประโยชน์ต่างๆ ที่สามารถวัดผลได้จริงมากมาย วันนี้เรามีเทคนิคการอ่านหนังสือให้เกิดผลโดยไม่เปล่าประโยชน์ดังต่อไปนี้

            1.หนังสือคือเชื้อเพลิงแห่งความคิด

         เมื่อเริ่มอ่านหนังสือ สมองของเรากำลังถูกลนด้วยความคิดของคนเขียน ระหว่างการอ่านเราควรฝึกคิดตามตัวหนังสือที่อ่าน อย่าเพียงแต่อ่านแค่ว่า ผู้เขียนอะไรมาให้เราอ่าน แต่ฝึกคิดต่อยอดตาม คำนึงถึงเหตุและผล ความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน

           

 2.ฝึกบันทึกจากการอ่าน

         ทุกครั้งที่เราอ่านหนังสือคือการลงทุนทางความคิด เราจะต้องหากำไรจากการอ่านให้มากที่สุด คือการจดบันทึก สรุปจากการอ่านว่าได้อะไรบ้าง คนส่วนใหญ่มักจะละเลยข้อนี้ไป อ่านเพื่อให้รู้และไม่ฝึกการคิดตามหลังจากอ่านเสร็จสิ้น เพราะกำไรจากการอ่านคือความคิดที่เราบันทึกไว้ทุกครั้งนั่นเอง

            3.อย่าอ่านแค่เรื่องราวแต่จงเอาความคิด

         การอ่านทั่วไปเรามักสนใจแค่เรื่องราวของผู้เขียนที่ถ่ายทอดมาให้เราอ่าน แต่กว่าที่จะกลายมาเป็นตัวหนังสือให้เราได้อ่าน ผู้เขียนได้กลั่นกลองเรื่องราวและความคิดมากมาย ทุกครั้งที่อ่านเราควรทำความเข้าใจใจถึงความคิดของเนื้อหาที่อ่าน เพื่อให้เข้าถึงจุดมุ่งหมายของผู้เขียนและสิ่งที่เขาเขียน

         4.นำดอกผลทางความคิดไปใช้งาน

         เมื่อเราได้จดบันทึกการอ่านเสร็จสิ้นแล้ว ควรนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น การนำไปถ่ายทอดสู่ผู้อื่นฟัง การนำไปปรับเขียนบทความ การนำไปพัฒนางานให้ดีขึ้น การนำไปพัฒนาตนเอง การนำไปสร้างอาชีพใหม่ หรือการนำไปปรับปรุงกระบวนการคิดแบบใหม่เชิงสร้างสรรค์ ย่อมเกิดประโยชน์และเห็นผลจากการอ่านในทางตรง เช่นกัน

            จะเห็นได้ว่าการอ่านหนังสือแบบนักคิดแตกต่างจากการอ่านหนังสือแบบทั่วไป การได้ใช้เชื้อเพลิงทางความคิดจากการอ่านหนังสือ ช่วยให้เกิดแสงสว่างทางความคิดเพื่อให้เกิดความคิดแบบใหม่ เราต้องคิดเสมอว่า การอ่านเพียงอย่างเดียวคือการอ่านเพื่อเป็นผู้ตามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ถ้าเราอ่านเพื่อเป็นนักคิด เราจะเป็นผู้นำทางความคิดได้อย่างแน่นอน

            อ้างอิงข้อมูลจาก : หนังสือเรื่อง “กล้าเปลี่ยนแปลง” โดย คุณณรงค์วิทย์ แสนทอง

            เรียบเรียงโดย ทีมงาน Terrabkk.com