พื้นที่ริมเจ้าพระยาเป็นอีกหนึ่งทำเลที่หลายคนให้ความสนใจและจับจองเป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะเพื่ออยู่อาศัยหรือลงทุน ตั้งแต่บริเวณใจกลางกรุงเทพฯ ไปจนถึงนนทบุรี และสำหรับอีกหนึ่งทำเลริมน้ำ ที่มีความน่าสนใจทั้งเรื่องของวิว, ราคา และการเดินทาง อย่างทำเลพระนั่งเกล้า ซึ่งมีโครงการ The Politan Aqua คอนโดมิเนียมตึกสูง 61 ชั้น ติดริมแม่น้ำที่ราคาเพียงล้านต้นๆ อีกทั้งยังมีโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจากทางภาครัฐหลายโครงการ ทำให้ The Politan Aqua กลายเป็นคอนโดมิเนียม High Rise แห่งเดียวที่เป็น HUB การเดินทาง “รถ-เรือ-ราง”

สะดวกทางรถด้วยถนนหลายเส้นทาง

                  The Politan Aqua ตั้งอยู่บน ถนนสนามบินน้ำ ที่สามารถเข้าถึงศูนย์การค้าชั้นนำอย่าง เซ็นทรัล พลาซ่า รัตนาธิเบศร์ และเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน โดยผ่าน ถนนรัตนาธิเบศร์ ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักของเมืองนนทบุรี แต่ล่าสุดมีโครงการจากทางภาครัฐที่เข้ามาเสริมศักยภาพการเดินทางให้สะดวกมาขึ้น

โครงการแรกจากแนวคิดของ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้จัดทำ โครงการศึกษาความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ วิศวกรรม และสิ่งแวดล้อม ถนนเลียบริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งทำเลพระนั่งเกล้าได้เป็นหนึ่งในแผนการพัฒนา โดยรายละเอียดคือการปรับปรุงสะพานพระนั่งเกล้าเพื่อรองรับทางจักรยาน อีกทั้งยังเพื่อเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีพระนั่งเกล้า

โครงการต่อมาโดย การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และ กรมทางหลวง (ทล.) ได้หารือร่วมกันสร้าง ทางด่วนสายเหนือตอน N2, N3 ขั้นที่ 3 โดยเส้นทางสามารถเชื่อมฝั่งตะวันตกและตะวันออกของกรุงเทพฯ ได้สะดวกมากขึ้น ตั้งแต่วงแหวนรอบนอกตะวันตกตามแนว ถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนเกษตรนวมินทร์ ไปสู่มอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรี

                  และอีกหนึ่งโครงการโดย กรมทางหลวงชนบท มีแผนศึกษาโครงข่ายใหม่นั่นคือ สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ขอรูปประกอบด้วยครับ บริเวณถนนสนามบินน้ำ เพื่อเชื่อมระหว่างถนนกาจนาภิเษกตะวันตกไปยังถนนวิภาวดีรังสิต ระยะทางรวม 19 กิโลเมตร

ท่าเรือใหม่สนับสนุนการเป็น Commute Hub

 

                  ท่าเรือพระนั่งเกล้า เป็นอีกหนึ่งท่าเรือที่ถูกบรรจุในแผนโครงการพัฒนาจุดเชื่อมโยงการสัญจรระหว่าง รถ- เรือ-ราง โดย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เปิดประมูล ท่าเทียบเรือพระนั่งเกล้า ภายใต้กรอบวงเงิน 90 ล้านบาท และไม่ได้มีแค่ท่าเทียบเรือเท่านั้น แต่ยังพ่วงมาด้วย โครงการปรับปรุงอาคารจอดแล้วจร (Park & Ride) บริเวณแยกนนทบุรี เป็นอาคารสูง 10 ชั้น รองรับรถยนต์ได้จำนวนถึง 1,100 คัน วงเงิน 160 ล้าน บาท และยังมี อาคารผู้โดยสารและทางเดินเชื่อม (Walkway) และสะพานข้ามแยก เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า วงเงิน 99 ล้านบาท

พลิกทำเลนนทบุรีด้วยระบบราง

                  รถไฟฟ้าสายสีม่วง เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อ 6 สิงหาคม 2559 ในเส้นทางบางไผ่-เตาปูน และได้เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่สถานีบางซื่ออย่างไร้รอยต่อได้ในวันที่ 11 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยก่อนจะมีการเชื่อมที่สถานีบางซื่อ รถไฟฟ้าสายสีม่วงมีปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยวันละประมาณ 30,000 เที่ยว แต่หลังจากมีการเชื่อมเส้นทางรถไฟฟ้าทั้งสองสายแล้ว ผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงมีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมากกว่า 50,000 เที่ยว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเดินทางจากนนทบุรีสู่กรุงเทพฯที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น  

 

เมืองใหม่จากสถานีกลางบางซื่อ (Bangsue Grand Station)

               แผนโครงการพัฒนาพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ หรือ Bangsue Grand Station ซึ่งเป็นอภิมหาเมกะโปรเจคมูลค่า 63,000 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 2,235 ไร่ ที่จะทำให้เกิด New Town แห่งใหม่ที่มีการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มข้น จากการแบ่งพื้นที่การพัฒนาออกเป็น 5 โซน ประกอบไปด้วย Zone A: Smart Business Complex, Zone B: ASEAN Commercial and Business Hub, Zone C: Samrt Healthy and Vibrant, Zone D: World Renowed Garden Intherchange Plaza และพื้นที่นิคมรถไฟ กม.11 ซึ่งการใช้ประโยชน์พื้นที่หลักๆ จะเป็นศูนย์การค้าพาณิชยกรรมทั้งค้าส่งและค้าปลีก, โรงแรม, อาคารแสดงสินค้า, ศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติ, หอประชุม, โรงพยาบาลนานาชาติ, อาคารสำนักงาน, ที่อยู่อาศัย และที่พักอาศัยสำหรับเจ้าหน้าที่การรถไฟ

                  นอกจากการใช้ประโยชน์พื้นที่ที่เข้มข้นสูงทั้งในด้านพาณิชยกรรมและแหล่งงานแล้ว ยังได้มีการออกแบบวางผังโดยใช้หลักการ TOD (Transit Oriented Development) ซึ่งเป็นหลักการออกแบบพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชนเช่นเดียวกับหลายประเทศชั้นนำทั่วโลก เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ของการพัฒนาที่สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้อย่างคุ้มค่าและสูงที่สุด ทำให้เป็นไปได้สูงอย่างมากว่าจำนวนประชากรที่จะเข้ามาทำกิจกรรมในพื้นที่สถานีกลางบางซื่อนั้นจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากมหาศาล ส่งผลต่อความต้องการที่อยู่อาศัยด้วยเช่นกัน

                  นอกจาก New Town บริเวณสถานีกลางบางซื่อที่จะกลายมาเป็นแหล่งงานใหม่แล้ว ยังมีแหล่งงานเดิมตั้งแต่ช่วงทำเลเตาปูนไปจนถึงวิภาวดี ที่มีอาคารสำนักงานชั้นนำหลายแห่ง และสามารถเข้าถึงได้ด้วยการใช้รถไฟฟ้าสายสีม่วง ได้แก่ บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) และ ปตท. (สำนักงานใหญ่) นอกจากนั้นในปี 2563 จะเกิดรถไฟฟ้าสายสีชมพู ที่สามารถเข้าถึงศูนย์ราชการฯ และแหล่งงานอื่นๆในนนทบุรีได้อีกด้วย

เพราะเป็นคอนโดมิเนียมริมน้ำ บรรยากาศจึงเหมือนได้พักผ่อนในทุกวัน

                  ทำเลริมน้ำนั้นเป็นสิ่งที่มีค่า และเป็นที่ต้องการสำหรับการอยู่อาศัยเพื่อการพักผ่อน ซึ่ง The Politan Aqua เข้าใจโจทย์ข้อนี้ดี จึงวางตัวอาคารรับทิศเหนือ-ใต้ ทำให้เย็นสบายและรับลมตลอดปี รวมทั้งตัวอาคารมีช่องแสงทั้ง 4 ด้าน จึงให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง ทุกสัดส่วนได้รับคิดค้นมาอย่างดีจากทีมดีไซเนอร์ระดับโลก Palmer & Turner พร้อมพื้นที่สวนมากกว่า 5 ไร่ และส่วนกลางระดับ 5 ดาว ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ด้วยทำเลโครงการที่สามารถเข้าสู่แหล่งงานด้วย รถ-เรือ-ราง ประกอบกับบรรยากาศริมน้ำที่ตอบรับการพักผ่อน ทำให้ The Politan Aqua คือตัวเลือกการอยู่อาศัยที่ดีสำหรับคนที่อยากมีสถานตากอากาศส่วนตัวในทุกวันของชีวิต

The Politan Aqua

เป็นเจ้าของแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้รถไฟฟ้า

เริ่ม 1.45 ลบ ดาวน์ 3,999 บ/ด

เฉพาะ 3-4 ก.พ. นี้ รับ Premium Furniture Package

โทร 02-002-2222

www.thepolitancondo.com/aqua

ขอบคุณข้อมูลจาก www.thepolitancondo.com