5 ปีย้อนหลัง ผลประกอบการ 16 บริษัท กลุ่ม "สื่อสาร" ไตรมาส 3/2558
TerraBKK Research ได้รวบรวม 16 บริษัท กลุ่ม "สื่อสาร (ICT: Information Communication Technology)" โดยทาง TerraBKK Research ได้ทำการอัพเดทผลประกอบการย้อนหลัง 5 ปี ตั้งแต่ไตรมาส 1-3/2558 หลังจากมีการดำเนินงานผ่านมาแล้ว 9 เดือน โดยรวบรวมเฉพาะบริษัทที่อยู่ใน SET ไม่ได้หยิบยกบริษัทใน MAI มาพูดถึง และเป็นบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับโครงข่ายโทรคมนาคม โดยไม่ได้รวมบริษัทที่จำหน่ายโทรศัพท์มือถือ หรือจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ผ่านการวิเคราะห์งบการเงินและอัตราส่วนทางการเงินสำคัญต่างๆ เพื่อค้นหาศักยภาพของกิจการที่มีแนวโน้มการเจริญเติบโตที่ดีที่สุดบริษัทค้าปลีกบริษัทใดบ้างที่น่าสนใจ ติดตามได้ดังต่อไปนี้
หลังจากในช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา กลุ่มสื่อสารกลายเป็นกลุ่มที่ถูกจับตามองจากนักลงทุนทุกฝ่าย ทั้งในและต่างประเทศ จากการประมูลสัญญาณ 4G ที่มีราคาสูงทุบสถิติโลกด้วยมูลค่าที่มากกว่า 100,000 ล้านบาท แต่หลังจากการประมูลตลาดหุ้นโดยเฉพาะกลุ่มสื่อสารถูกแรงเทขายอย่างหนัก เนื่องจากความกังวลทั้งในเรื่องของ คู่แข่งรายใหม่ที่เข้ามาอย่าง JAS ซึ่งจะเข้ามากินส่วนแบ่งในตลาดทำให้ผู้เล่นรายเก่าอย่าง AIS-TRUE-DTAC อาจจะมีรายได้ที่ลดลงในอนาคตได้ ส่วน DTAC ณ ปัจจุบันก็ยังไม่ได้สัมปทานคลื่น 4G เลยแม้แต่คลื่นเดียวหลายฝ่ายต่างคาดการณ์กันว่าจะ DTAC จะหมดอนาคตหรือไม่ทั้งนี้และทั้งนั้นก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าจะแก้เกมอย่างไร
จากการสำรวจผลประกอบการกลุ่ม "สื่อสาร" เราพบว่า ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทที่สามารถสร้างผลปรกะกอบการได้ Turnaround กลับขึ้นมามีกำไรคือ TRUE ถ้าเราไม่ดูแค่ผลกำไรเราจะพบว่า TRUE มีรายได้เติบโตเร็วมากอยู่ในอันดับที่ 2 ของกลุ่มแต่กำไรกลับติดลบเนื่องจากถูกค่าเสื่อมราคาลดทอนผลกำไรไปค่อนข้างมาก สำหรับบริษัทที่มีผลกำไรโตผิดปกติคือ JAS เนื่องจากรับรู้รายได้จากการขายกองทุน JASIF ส่วนบริษัทที่เป็น TOP ของกลุ่มคือ ADVANC และ INTUCH
รายได้ (Revenue) ของกลุ่ม "สื่อสาร" เราพบว่า ผู้เล่นรายใหญ่ไม่ว่าจะเป็น ADVANCED INFO SERVICE หรือ TRUE CORPORATION ต่างก็มีการเติบโตของรายได้เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องและทำยอดรายได้แตะระดับสูงสุดใหม่ทุกปี แต่เมื่อดู TOTAL ACCESS COMMUNICATION หรือ DTAC กลับมีแนวโน้มรายได้ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง สำหรับปีนี้ DTAC รายได้ลดลงไป -1.13% สำหรับบริษัทที่มีการเพิ่มขึ้นของรายได้สูงที่สุด คือ JAS: JASMINE INTERNATIONAL เพิ่มสูงขึ้นถึง 213.69% จากปีที่ผ่านมา อันดับรองลงมากคือ THCOM: THAICOM (+24.71%) INET: INTERNET (+16.94%) THAILAND INTUCH: INTOUCH (+11.25%) และ SYMC: SYMPHONY COMMUNICATION (+5.16%) สำหรับรายได้ของ JAS ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากนั้นเกิดจาก กำไรจากการขายทรัพย์สินให้ JASIF ณ วันส่งมอบในงบการเงินรวม เท่ากับ 18,022 ล้านบาท ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่กำไรที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกปีจึงต้องระวังด้วย กำไรสุทธิ (Net Profit) พบว่า TRUE CORPORATION เป็นบริษัทที่มีกำไรสุทธิขึ้นมาเป็นบวกจากที่ในอดีตมีอัตรากำไรสุทธิติดลบ (Turnaround) ส่วนบริษัทที่มีกำไรมาเป็นอันดับหนึ่ง คือ ADVANCED INFO SERVICE เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 5.39% บริษัทที่มีรายได้เพิ่มและรับรู้กำไรได้เพิ่มขึ้นด้วยได้แก่JASMINE INTERNATIONAL (+514%), INTERNET THAILAND (+131.24%) และINTOUCH (+4.9%) สำหรับ INTOUCH นั้นพบข้อสังเกตุที่ว่า รายได้เพิ่มขึ้น +11.25% แต่กำไรกลับเพิ่มขึ้นเพียง INTOUCH (+4.9%)
อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) บริษัทที่มีอัตรากำไรขั้นต้นมากที่สุดนำมาเป็นอันดับ 1 คือ JTS: JASMINE TELECOM SYSTEMS มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 57.74% เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง อันดับรองลงมาคือ ADVANCED INFO SERVICE (+44.23%), JASMINE INTERNATIONAL (+43.28%) และ SYMPHONY COMMUNICATION (+42.25%) เมื่อดูถึงแนวโน้มของอัตรากำไรขั้นต้นบริษัทที่มีอัตรกำไรขั้นต้นเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือ ADVANC และ INTUCH ส่วนอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) บริษัท INTUCH มีแนวโน้มของอัตรากำไรสุทธิลดลง แต่ก็ยังอยู่ในอัตราที่สูงที่สุดของกลุ่ม สำหรับ JAS อยู่ในอันดับสอง และ ADVANC อยู่ในอันดับสาม
อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (Return on Asset) จะเป็นตัวที่แสดงถึงประสิทธิภาพของการใช้ทรัพยากรภายในองค์กรเพื่อสร้างผลตอบแทนให้แก่กิจการว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยขนาดไหน บริษัทที่มีอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์มากที่สุด เรียงจากมากไปน้อย คือ JASMINE INTERNATIONAL (59%), ADVANCED INFO SERVICE (39.51%) และ INTOUCH (33.79%) อัตราผลตอบแทนจากผู้ถือหุ้น (Return on Equity) บริษัทที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นได้มากที่สุด เรียงจากมากไปน้อย ได้แก่ JASMINE INTERNATIONAL (115.39%), ADVANCED INFO SERVICE (99.02%), INTOUCH (72.3%) และ CSL: CS LOXINFO (60.42%) ถ้าหากเราไม่นับรวม JAS ซึ่งเป็นบริษัทที่มีกำไรผิดปกติในปีนี้ บริษัท ADVANCED INFO SERVICE จะเป็นบริษัทที่มี ROE สูงที่สุด เท่ากับ 99.02% นอกจากบริษัทเหล่านี้แล้วยังมี DTAC, ILINK, SAMART, AIT และ SAMTELเป็นบริษัทที่มี ROE ค่อนข้างสูงเช่นกัน
กำไรต่อหุ้น (Earning per Share) การเติบโตของกำไรต่อหุ้นจะเป็นตัวบอกถึงความสามารถในการทำกำไรของ บริษัท ว่าบริษัทสามารถสร้างกำไรส่วนเพิ่มให้แก่นักลงทุนต่อหนึ่งหน่วยลงทุนได้ดี มากน้อยขนาดไหนและเมื่อเราดูแนวโน้มอัตรากำไรต่อหุ้นประกอบทำให้เราสามารถ เลือกบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตได้ดีมากขึ้น บริษัทในกลุ่มโรงแรมที่มีอัตรากำไรต่อหุ้นเพิ่มสูงขึ้นและมีค่าเป็นบวก ได้แก่ TRUE CORPORATION (+666.67%), JASMINE INTERNATIONAL (+536.36%), CS LOXINFO (+202.44%), INTERNET THAILAND (+100.00%) และ THAICOM (+17.76%) สำหรับการดูการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ถือเป็นตัวชี้วัดตัวหนึ่งที่สำคัญที่สุดตัวหนึ่ง
หนี้สินต่อทุน (Debt to Equity) สัดส่วนของหนี้สินต่อทุนที่อยู่ในระดับปกติไม่ควรมีหนี้สินต่อส่วนของทุนมากกว่า 2 เท่าและถ้าจะให้ดีควรจะน้อยกว่า 1 เท่า จากการสำรวจพบว่า บริษัที่มีหนี้สินต่อทุนมากกว่า 2 เท่า ได้แก่ TOTAL ACCESS COMMUNICATION, SAMART, ADVANCED INFO SERVICE, JASMINE INTERNATIONAL, TRUE CORPORATION และ SAMART TELCOMS อัตราหนี้สินต่อทุนที่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงเป็นปัจจัยที่ต้องคอยเฝ้าดูถึงความเหมาะสมด้วยว่าบริษัทที่มีนัยทางการเงินที่ผิดพลาดเหรือไม่
อัตรากำไรสุทธิ จะแสดงถึง ความสามารถในการทำกำไรสุทธิของบริษัท เป็นการวัดความสามารถของบริษัทในการควบคุมรายจ่ายทุกประการทั้งดอกเบี้ยและภาษีเมื่อเทียบกับยอดขาย หากอัตราส่วนนี้มีค่าสูงแสดงว่าบริษัทสามารถเปลี่ยนยอดขายให้เป็นกำไรสุทธิได้มาก
อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt to Equity Ratio) แสดงถึง สัดส่วนของเงินทุนจากการกู้ยืมต่อเงินทุนจากเจ้าของธุรกิจถ้าอัตราส่วนนี้สูงแสดงว่าบริษัทมีการกู้ยืมเงินในสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับเงินทุนจากผู้ถือหุ้นของบริษัท ทำให้มีความเสี่ยงในลักษณะเดียวกับอัตราส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์
อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (Return on Asset:ROA) แสดงถึง ระดับผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมของบริษัท เป็นการวัดความสามารถในการนำสินทรัพย์ทั้งหมดของธุรกิจใช่ในการสร้างยอดขายและควบคุมค่าใช่จ่ายในการดำเนินงานทั้งหมดสุทธิจากภาษีแต่ก่อนต้นทุนทางการเงิน (ดอกเบี้ยจ่ายสุทธิจากภาษีที่ประหยัดได้) อัตราส่วนที่สูงแสดงว่าบริษัทมีความสามารถสูงในการนำสินทรัพย์ไปสร้างกำไรจากการดำเนินงาน
อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity : ROE) แสดงถึง ระดับผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น เป็นการวัดความสามารถในการทำกำไรให้แก่เงินทุนของผู้ถือหุ้น หากค่าที่ได้จากการคำนวณสูงแสดงว่าผู้ถือหุ้นมีโอกาสได้รับเงินปันผลและผลตอบแทนที่สูง
บทความโดย : TerraBKK คลังความรู้ แหล่งข้อมูล : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก