5 บทเรียนที่ได้รับจาก การเข้าตลาดหุ้น
ถ้ามองย้อนไปจากอดีต ถึงปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นไทยนั้น มีขาขึ้น ขาลง อย่างชัดเจน และในทุกๆปี ก็มีช่วงที่ตลาดหุ้น “ตก” ในทุกปี อยู่ที่ว่าจะ ตกมาก หรือ ตกน้อย
ในขณะเดียวกัน ก็มีนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นทุกๆปี ยิ่งถ้าช่วงที่ตลาดบูมๆ ก็จะมีนักลงทุนหน้าใหม่มากหน่อย และจากที่สอบถามคนรอบข้างที่อยากเริ่มเล่นหุ้น ส่วนใหญ่จะบอกว่า “อยากรวย” “เห็นเขาบอกว่าเล่นหุ้น รวยเป็นล้าน” แต่เมื่อได้ก้าวเท้าเข้ามาในตลาดหุ้นอย่างจริงจัง กลับได้รู้จักแต่กับคำว่า “ขาดทุน”
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป –> เป็นอีกหนึ่งคำจำกัดความดีๆ ของ วงเวียนชีวิตของเม่าไทยในตลาดหุ้นจริงๆ
ลองมองดูกราฟด้านล่าง ในทุกๆปี จะมีช่วงวิกฤต และช่วงเวลาแห่งโอกาส เพียงแต่ว่า คุณนั้นจะมองเห็นโอกาสที่อยู่ในวิกฤตแต่ละครั้งหรือไม่? ซึ่งเซียนหุ้นที่มีชื่อเสียงในปัจจุบันท่านมองเห็น และกล้าซื้อเมื่อคนอื่นกลัว แต่การที่คุณจะกล้าในแต่ละครั้งนั้น อย่าลืมว่าคุณต้องมีสติให้ดี
จบปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เราลองกลับทบทวนตัวเองกันดีกว่า ว่าในปีที่ผ่านมา เราได้ทำอะไรพลาดไปบ้างในการลงทุน และนำเอาบทเรียนเหล่านั้นมาปรับปรุงเพื่อการลงทุนที่ดีขึ้นในปีใหม่กัน
“การลงทุนที่ดีเริ่มจาก MINDSET ที่ดีของตัวคุณเอง”
คุณฟังไม่ผิดค่ะ สิ่งสำคัญที่สุดก่อนที่คุณจะลงทุนคือ การที่คุณรู้จักตนเอง รู้จักว่าแนวทางการลงทุนแบบไหนเหมาะกับตัวคุณเอง ปรับทัศนคติของตัวคุณเอง และเพิ่มความมีสติในทุกการตัดสินใจในตลาดหุ้น “อย่าหวังรวยเร็ว เพราะอาจจนนาน” อยากให้คุณจำคำนี้เอาไว้ดีๆ เพราะเมื่อคุณเข้ามาในตลาดหุ้นแล้วเกิดได้กำไร “ความโลภ” อาจทำให้คุณขาดสติ และวินัยในการลงทุนได้ ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำให้ได้คือ รักษาทุนให้ดี และทำทุนให้เป็นกำไร ให้ได้
“อย่าเชื่อมาร์ โดยที่ยังไม่ได้ศึกษาข้อมูล”
คุณคงต้องเคยผ่านช่วงเวลาที่มาร์เก็ตติ้ง โทรหรือไลน์หา บอกว่ามีหุ้นเด็ดมากต้องรีบซื้อแล้วจะรวยใช่ไหมค่ะ แล้วเคยมั้ยค่ะ พอคุณซื้อตามที่มาร์บอกปุ๊ป ราคาล่วงลงทันที หรือจริงๆแล้วข่าวที่เขาบอกนั้นไม่มีความจริงอยู่เลย ถ้าคุณเคยประสบพบเจอเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเอง คุณคงพอที่จะเข็ดและไม่เชื่ออีก (บ้าง) แต่ถ้าคุณยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เราอยากให้คุณระวัง และ ศึกษาทุกข้อมูลที่ได้รับก่อนที่จะทำการลงทุน พื่อปกป้องเงินทุนของตัวคุณเอง
“หมั่นทำการบ้าน ดูแลพอร์ตของตนเองอยู่เสมอ”
ถ้าคุณเคยได้ฟังหรือได้อ่านถึงความสำเร็จของเหล่ากูรู เซียนพันล้าน ด้านลงทุนมาแล้ว คุณจะรู้ว่าเกือบทุกท่านต้องเคยผ่านการขาดทุนอย่างหนักมาก่อน และความเสียหายจากการลงทุนนั้น ได้กลับเป็นแรงผลักดันให้ท่านเหล่านั้นกลับมาศึกษาและหาแนวทางเอาชนะตลาดให้ได้ ซึ่งอีกสิ่งที่ท่านเหล่านั้นได้ทำคือ ต้องศึกษาอย่างไม่หยุดยั้ง เพราะการแข่งขันกับตลาดหุ้น นอกจากต้องมีสติและความรู้ให้มาก ยังต้องรู้ถึงข่าวสารข้อมูลตลาดรอบโลกด้วย ดังนั้นเมื่อคุณต้องการที่จะชนะตลาดหุ้น คุณจะต้องไม่หยุดที่จะค้นคว้า หาข้อมูล ดูข่าวสารอัพเดทเรื่องราวเศรษฐกิจรอบโลกบ้าง
“อย่าเชื่อมั่นมากเกินไป”
ตลาดหุ้น เกิดขึ้นอยู่กับความไม่แน่นอน หุ้นที่มีชื่อเสียง วันหนึ่งอาจร่วงได้ และหุ้นที่ขึ้นอยู่ ก็อาจตกได้ ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในปีนี้สำหรับหุ้นกลุ่มสื่อสาร โดยเฉพาะ หุ้น D__C ที่ขึ้นไปถึงร้อย และกลับมาที่หลักสิบได้ ที่ทำให้เม่าหลายคนต้องเจ็บหนัก ส่ิงที่คุณทำได้คือ หมั่นเปิดหู เปิดตา ดูข่าวสารรอบตัวคุณ และมีสติการตัดสินใจให้ดี หากคุณเป็นนักเทคนิค คุณต้องมีวินัยในกราฟ และหากคุณเป็นแนววีไอ คุณอาจมองหาโอกาสในยามที่วิกฤตเพื่อช้อนซื้อหุ้นราคาถูกก็เป็นได้ ที่สำคัญคุณต้องแม่นในจังหวะ และศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนที่จะลงทุน อย่าเชื่อมั่นมากเกินไปจนไม่ได้ดูรอบข้างว่ามีอะไรเกิดขึ้นไปแล้ว
“หาแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเองให้ได้”
สำหรับข้อนี้ ไม่มีใครช่วยคุณได้นอกจากตัวคุณเอง การที่จะหาแนวทางการลงทุนของตนเองให้ได้นั้น คุณต้องรู้จักตนเองให้มาก ต้องรู้ว่านิสัยและไลฟ์สไตล์ของตัวคุณเองเป็นอย่างไร ยกตัวอย่าง อย่าง Lady P. เองต้องทำงานที่พบปะลูกค้า และประชุมอยู่ตลอดเวลา การซื้อหุ้นที่ต้องเฝ้าจอตลอดเวลาอาจไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะ ดังนั้นการลงทุนจึงเน้นไปที่การลงทุนในตัวบริษัท กิจการที่มองว่ามีนโยบาลการลงทุนที่ชัดเจน มีผู้บริหารที่น่าเชื่อถือ เป็นต้น ซึ่งบางคนอาจจะเหมาะกับแนวทางด้านเทคนิคที่ดูกราฟ ส่วนบางคนอาจเหมาะกับการดูงบการเงิน ผลประกอบการของบริษัท ซึ่งเทคนิคเหล่านี้คุณสามารถศึกษาได้จากข้อมูลในโลกอินเตอร์เน็ตมากมาย ซึ่งสิ่งสำคัญคือ คุณต้องกำจัดตัวขี้เกียจศึกษาในตัวคุณออกไปให้ได้เสียก่อน
ส่วนตัว Lady P. เอง ปีนี้ก็ได้มีข้อผิดพลาดในการลงทุนเหมือนกัน สาเหตุคือ โลภมากไป จึงทำให้การลงทุนไม่เป็นระบบอย่างที่ได้ตั้งไว้ จึงทำให้เกิดการ Overtrade และขาดสติในการลงทุน เพราะคิดว่าจะได้อย่างเดียว ดังนั้น อย่าลืมนะคะว่า การลงทุนมีความเสี่ยง แต่เสี่ยงที่สุดคือ การที่ไม่รู้จักว่าตนเองทำอะไรอยู่ค่ะ” ขอให้โชคดีในการลงทุนนะคะ
ติดตามข้อมูลการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่เพจ งงหุ้น
Photo credit by : wikimedia.org หมายเหตุ : ภาพประกอบบทความ บางภาพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาแต่อย่างใด
Discussion
Follow breaking news Investment property articles on Facebook, click here.