"ภูเก็ต" เมืองน่าลงทุนเทียบเท่าสีลม-สาทร
"ภูเก็ต" เป็นอีกหนึ่งทำเลที่นักลงทุนทั้งหลายต้องจับตามอง ด้วยความเป็น Destination ด้านการท่องเที่ยว การเติบโตของราคาคอนโดมิเนียมในทำเลนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย มีการเติบโตของราคาที่คล้ายสีลม-สาทร TerraBKK Research จึงขอเจาะลึกเรื่องการลงทุนในภูเก็ตมาไว้ 3 ประเด็นหลักๆ ดังนี้
1. ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในภูเก็ต
เมื่อเจาะลึกถึงตลาดคอนโดมิเนียมในภูเก็ต TerraBKK Research จะขอแบ่งวิเคราะห์ออกตาม 3 โซนใหญ่ๆคือ กะทู้, ถลาง และเมืองภูเก็ต โดยแบ่งตามอำเภอ ซึ่งแต่ละโซนจะมีจุดเด่นและลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
โซนกะทู้ : ศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูเก็ตเรียกได้ว่าเป็นโซนที่รวบรวมแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของภูเก็ตเอาไว้ในโซนนี้ ไม่ว่าจะเป็น หาดป่าตองอันเป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของภูเก็ต, หาดกมลา, แหล่งท่องเที่ยวแอดเวนเจอร์ต่างๆ เช่น ภูเก็ตวอเตอร์สกี, สนามยิงปืน และที่เป็นจุดเด่นด้านความบันเทิงของโซนนี้คือ ภูเก็ตแฟนตาซี ทำให้โซนนี้กลายเป็น destination หลักๆ ของนักท่องเที่ยว ล่าสุด ผลสำรวจ 2016 Traveller's Choice - Best Destinations in the World ของ TripAdvisor ยกให้ อ.กะทู้ เป็นสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวอันดับ 2 ของไทย รองจากกรุงเทพฯ อีกด้วย
คอนโดมิเนียมรีเซลในโซนนี้มีราคาขายอยู่ประมาณ 50,000-120,000 บาทต่อตารางเมตร หรือหากนำมาเป็นห้องปล่อยเช่า จะมีค่าเช่าอยู่ที่ 18,000-70,000 บาทต่อเดือน แต่หากใครปล่อยเช่าเป็นรายวัน จะได้ค่าเช่ารายวันอยู่ที่ 4,000-7,000 บาทต่อวัน ขึ้นอยู่กับ season ในแต่ละเดือน
โซนถลาง : ศูนย์กลางการเดินทาง สนามบินภูเก็ตและจุดเชื่อมต่อพังงา
มีจุดเด่นอยู่ที่สนามบินภูเก็ตและสะพานท้าวเทพกษตรี อันเป็นจุดเชื่อมต่อกับพังงา ที่เรียกได้ว่าหากใครจะมาที่ภูเก็ตก็ต้องผ่านถลางก่อนเป็นอันดับแรก ทำให้โซนนี้เป็นจุดศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญ นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่เงียบสงบ เหมาะแก่คนที่ชื่นชอบแหล่งท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ สงบ ไม่วุ่นวาย ไม่ว่าจะเป็นหาดในยาง, หาดในทอน, หาดไม้ขาว, น้ำตกบางแป, น้ำตกโตนไทร, วัดพระทอง, วัดพระนางสร้าง ฯลฯ
คอนโดมิเนียมรีเซลในโซนนี้มีราคาขายอยู่ประมาณ 80,000-110,000 บาทต่อตารางเมตร หรือหากนำมาเป็นห้องปล่อยเช่า จะมีค่าเช่าอยู่ที่ 12,000-120,000 บาทต่อเดือน แต่หากใครปล่อยเช่าเป็นรายวัน จะได้ค่าเช่ารายวันอยู่ที่ 5,000-9,000 บาทต่อวัน ขึ้นอยู่กับ season ในแต่ละเดือน
โซนเมืองภูเก็ต : ศูนย์รวมห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าชั้นนำ
แม้จะไม่มีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยวเหมือนอย่างโซนอื่นๆ แต่เรียกได้ว่าเป็นโซนที่ศูนย์การค้าชั้นนำรายใหญ่ต่างก็มารุมเปิดในโซนนี้ ไม่ว่าจะเป็น "เซ็นทรัล ภูเก็ต" ศูนย์การค้าที่ทันสมัยและมีขนาดใหญ่ที่สุดบนเกาะภูเก็ต, King Power แหล่งช้อปปิ้งแบรนด์เนมหรู ชั้นนำระดับโลกกว่า 100 แบรนด์ และที่ขาดไม่ได้เลยกับเดอะมอลล์กรุ๊ป ที่เตรียมเปิด "บลูเพิร์ล" Luxury Shopping Center ที่เพื่อให้ภูเก็ตเป็น Destination ของโลก ทำให้โครงการนี้กำลังเป็นที่จับตามองของคนทั่วประเทศกับการลงทุนระดับ World Class ของเดอะมอลล์ครั้งนี้
คอนโดมิเนียมรีเซลในโซนนี้มีราคาขายอยู่ประมาณ 55,000-120,000 บาทต่อตารางเมตร หรือหากนำมาเป็นห้องปล่อยเช่า จะมีค่าเช่าอยู่ที่ 10,000-70,000 บาทต่อเดือน แต่หากใครปล่อยเช่าเป็นรายวัน จะได้ค่าเช่ารายวันอยู่ที่ 3,000-5,500 บาทต่อวัน
แต่หากเทียบอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าแล้ว TerraBKK Research จะแยกเป็น 2 กรณี เนื่องจากภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว ทำให้บางกรณีจะมีสัญญาการเช่าที่แตกต่างจากปกติ
Option A: ปล่อยเช่าได้เฉพาะช่วง High Season คือสามารถปล่อยเช่าได้ 6-8 เดือนต่อปี เฉพาะช่วงที่เป็นฤดูท่องเที่ยวเท่านั้น
Option B: ปล่อยเช่าได้เต็ม 12 เดือน คือทำสัญญาเช่าได้ 1 ปีเต็ม
จะทำให้แต่ละโซนได้อัตราผลตอบแทนที่แตกต่างกันดังนี้
จะเห็นได้ว่าโซนกะทู้ถือเป็นโซนที่ได้ผลตอบแทนสูงที่สุด อันเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวหลักในภูเก็ต ซึ่งหากจะพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวในภูเก็ตแล้ว “กะทู้” คือ destination อันดับต้นๆที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติเลือกเป็นอันดับแรกๆเมื่อเข้ามาในภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นป่าตองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยามราตรี, สถานที่เที่ยวแบบ Adventure ที่เรียกได้ว่าเป็นจุดดึงดูดชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ด้วยความเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทำให้ภูเก็ตมีลักษณะการเช่าค่อนข้างพิเศษนั่นคือสามารถเลือกปล่อยเช่าเป็นประเภทรายวันได้ และได้อัตราค่าเช่าสูงเทียบเท่าโรงแรมระดับ 3-5 ดาวในกรุงเทพฯเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละโซน แต่ละ season ก็แตกต่างกันออกไป ดังนี้
จะพบว่าสำหรับการปล่อยห้องเช่าแบบรายวัน ไม่ว่าจะเป็น season ใด โซนถลางคือโซนที่สามารถปล่อยเช่ารายวันได้อัตราค่าเช่าสูงที่สุด โดยเฉพาะบริเวณหาดในทอน, อ่าวบางเทา, หาดสุรินทร์ ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังอยู่ติดกับสนามบินภูเก็ต เรียกได้ว่าสถานที่ท่องเที่ยวก็สวยและยังเดินทางสะดวกอีกด้วย ซึ่งหากมองในภาพรวม ช่วง Peak Season คือช่วงปีใหม่ประมาณเดือนธันวาคม-มกราคม จะสามารถปล่อยเช่าได้ประมาณ 4,000-15,000 ต่อวันเลยทีเดียว ถัดมาในช่วง High Season หรือช่วงฤดูหนาวของต่างประเทศ คือช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนและช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน จะสามารถปล่อยเช่ารายวันได้ประมาณ 3,000-12,000 บาท และในช่วงที่เงียบเหงาที่สุดอย่างช่วง Low Season คือเดือนพฤษภาคม-กันยายน ก็ยังสามารถปล่อยเช่าได้วันละ 2,000-9,000 บาท
จากภาพรวมทั้งหมด กล่าวได้ว่าช่วง Peak Season และ High Season สามารถปล่อยเช่าได้สูงกว่าช่วง Low Season ถึง 30% เลยทีเดียว
2. การเติบโตของราคาคอนโดมิเนียม ย้อนหลัง 4 ปี
ทีมงาน TerraBKK Research ได้สำรวจราคาคอนโดมิเนียมรีเซล (ราคาคอนโดมิเนียมมือสอง) บนเกาะภูเก็ต ย้อนหลัง 4ปี พบข้อมูลที่น่าสนใจว่าภูเก็ตเป็นเมืองที่ราคาขายของคอนโดมิเนียมสูงขึ้นอย่างหวือหวา ซึ่งภาพรวมของภูเก็ตมีการเติบโตของราคาคอนโดมิเนียมรีเซลประมาณปีละ 10% โดยโซนกะทู้เติบโตสูงที่สุด 3-15% ต่อปี รองลงมาคือโซนถลางเติบโต 5-9% ต่อปี และโซนเมืองภูเก็ตเติบโต 3-7%ต่อปี จะเห็นว่า ด้วยความที่ภูเก็ตเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว โซนที่ได้เปรียบมักจะเป็นโซนแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างกะทู้และถลาง ที่มีราคาคอนโดมิเนียมเติบโตสูงที่สุด
3. อัตราการเติบโต, ค่าเช่าและผลตอบแทนที่ใกล้เคียงสีลม-สาทร
จากการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่ทีมงาน TerraBKK Research ได้สำรวจมา จึงกล่าวได้ว่าภูเก็ตเป็นทำเลที่สามารถ "เทียบเคียงสีลม-สาทรได้เป็นอย่างดี" ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าที่ปล่อยเช่ารายเดือน, อัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า และการเติบโตของราคาคอนโดรีเซล ที่เรียกได้ว่าเป็นคู่แข่งสีลม-สาทรได้สบายๆ TerraBKK Research จึงขอเทียบเป็นกราฟให้เป็นภาพได้ชัดเจนดังนี้
3.1 อัตราการเติบโตของราคาคอนโดรีเซล
จากกราฟด้านล่างจะเห็นได้ว่า การเติบโตของราคาคอนโดรีเซลในภูเก็ตแม้จะมีขึ้นลงตามสภาวะเศรษฐกิจ แต่โดยรวมแล้วถือว่าเติบโตปีละ 7% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับสีลม-สาทรซึ่งโตปีละ 5%
แต่สิ่งที่พึงระวังเมื่อซื้อคอนโดมิเนียมในภูเก็ตเพื่อเก็งกำไรระยะยาว ก็คือ แม้โดยรวมจะมีการเติบโตที่สูงถึง 7% แต่ควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆควบคู่ไปด้วย เช่น สภาวะเศรษฐกิจ, สถานการณ์การท่องเที่ยวของไทย เพราะภูเก็ตเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว ราคาของอสังหาริมทรัพย์ย่อมขึ้นและลงตามปัจจัยอื่นๆ ต่างจากสีลม-สาทรที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจอันสำคัญของไทย ที่แม้ราคาจะเติบโตไม่ได้หวือหวาเทียบเท่าภูเก็ต แต่ก็มีการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้นหากใครที่คิดจะซื้อคอนโดมาเพื่อเก็งกำไร คงจะต้องรอจังหวะที่ดีเสียหน่อยว่าถึงเวลาอันเหมาะสมหรือยังที่จะขายเพื่อเอากำไร
3.2 ค่าเช่าและผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า
เมื่อเทียบอัตราค่าเช่าของภูเก็ตและสีลม-สาทร พบว่าค่าเช่าของภูเก็ตต่างจากสีลม-สาทรเพียงเล็กน้อย โดยภูเก็ตมีอัตราค่าเช่าประมาณ 20,000-70,000 บาทต่อเดือน (หรือประมาณ 350-550 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน) แต่สำหรับสีลม-สาทร มีอัตราค่าเช่าประมาณ 25,000-65,000 บาทต่อเดือน (หรือประมาณ 550-750บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน) ซึ่งหากมองในค่าเช่ารวม แม้จะดูใกล้เคียงกัน แต่หากหารออกมาเป็นต่อตารางเมตร ภูเก็ตอาจจะดูเสียเปรียบ เนื่องจากขนาดห้องที่ใหญ่กว่า เน้นการอยู่อาศัยเพื่อพักผ่อน ต่างจากสีสม-สาทรที่เป็นห้องขนาดเล็ก เน้นการอยู่อาศัยในเมืองใกล้รถไฟฟ้า
แต่หากมองที่ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่านั้น ภูเก็ตยังเป็นคู่แข่งที่สูสีกับสีลม ด้วยความเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็น Destination อันดับ 1 ของไทย โดยเฉพาะในช่วง High Season เรียกได้ว่าแทบทั้งเกาะเต็มไปด้วยชาวต่างชาติ ทำให้การปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมในภูเก็ตนี้ไม่ใช่เรื่องยากนัก ทั้งนี้อย่างที่ได้กล่าวไปในตอนแรกว่า ภูเก็ตมีทั้งช่วง High Season และ Low Season ทำให้ต้องแยกพิจารณาเป็น 2 กรณีคือ
Base Case: ปล่อยเช่าได้เฉพาะช่วง High Season คือ 8 เดือน ในกรณีนี้จะทำให้ภูเก็ตได้ผลตอบแทนสูงกว่าสีลม-สาทรเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับตำแหน่งห้องและที่ตั้งของคอนโดมิเนียมว่าอยู่ในทำเลนิยมหรือไม่ ทั้งนี้ Rental Yield ที่ได้อาจจะสูงกว่านี้ เนื่องจากตามที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่า หากเป็นช่วง High Season หรือ Peak Season จะสามารถได้ค่าเช่าสูงกว่าปกติ 30% จึงไม่น่ากังวลหากห้องไม่สามารถปล่อยได้เต็ม 12 เดือน Best Case: ปล่อยเช่าได้เต็มตลอดทั้งปี คือ 12 เดือน ในกรณีนี้จะทำให้ภูเก็ตได้ผลตอบแทนมากกว่าสีลม-สาทรอย่างเห็นได้ชัด แต่การทำสัญญาตลอดทั้งปีจะทำให้หาผู้เช่าได้ยากขึ้น
นอกจากตัวเลขข้างต้นที่กล่าวมาแล้วนั้น อีกปัจจัยหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือโครงการ Mega Project ต่างๆที่เสริมให้ภูเก็ตเป็นเมืองแห่งศักยภาพมากยิ่งขึ้น โดยศักยภาพทำเลภูเก็ตในช่วงที่ผ่านมาถือว่าเปลี่ยนแปลงไปมาก จากเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา TerraBKK Research ได้จัดทำบทความ “ภูเก็ต” เมืองท่องเที่ยวที่เติบโตสูงที่สุด ถ้าให้นับเวลาก็ถือว่าได้ผ่านมาแล้วปีกว่า ก็ได้มีนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งภาครัฐและการสนับสนุนของภาคเอกชนคลอด Mega Project ใหม่ๆ มูลค่าหลายพันล้านบาท รวมถึงทยอยเปิดตัวโครงการที่ TerraBKK ได้เขียนไว้ในบทความก่อนหน้านี้ ภูเก็ตจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง โครงการไหนใกล้แล้วเสร็จมีข้อมูลล่าสุดให้ติดตามกันดังต่อไปนี้
1. ท่าอากาศยานภูเก็ต เฟส 2 และแผนขยายเฟส 3 ต่อเนื่อง
ที่มาภาพ : AOT Official facebook fanpage
เรามาเริ่มอันแรกด้วย ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต สำหรับท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตนั้นได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ ขณะนี้อยู่ในช่วงทดสอบสมรรถนะของสนามบินว่ามีความปลอดภัย และ มีความพร้อมมากน้อยขนาดไหน โดยทาง ทอท. กำหนดเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารระหว่างเฟสที่ 2 อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มิถุนายน 2559 โดยท่าอากาศยานภูเก็ต มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้ภูเก็ตเป็น “Gateway to the Andaman” ท่าอากาศยานภูเก็ต เฟสที่สองนี้จะทำให้เพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจาก 6.5 ล้านคน เป็น 12.5 ล้านคนต่อปี (ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 5 ล้านคนต่อปี และผู้โดยสารภายในประเทศ 7.5 ล้านคนต่อปี), ความสามารถของทางวิ่งรองรับได้ 20 เที่ยวบินต่อชั่วโมง, เพิ่มปริมาณหลุมจอดจาก 15 หลุมจอด เป็น 25 หลุมจอด, สะพานเทียบเครื่องบินเพิ่มจาก 7 ชุด เป็น 11 ชุด และที่จอดรถยนต์เพิ่มจาก 500 คัน เป็น 1,500 คัน ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากสนามบินเปิดใช้ปริมาณนักท่องเที่ยวที่เข้ามายังจังหวัดภูเก็ตก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกันทำให้ภูเก็ตมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นตามมา
ที่มาภาพ : AOT Official facebook fanpage
นอกจากนั้นเมื่อสนามบินภูเก็ตเฟส 2 แล้วเสร็จ สนามบินนานาชาติภูเก็ต เฟส 3 ก็จะเริ่มดำเนินการต่อทันที โดยมีแผนจะเริ่มก่อสร้างในปี 2563-2566 ในส่วนข้อสรุปเรื่องพื้นที่ว่าจะสร้างบริเวณไหน อย่างไร ต้องได้ข้อสรุปในปี 2560 ในส่วนของเฟส 3 นี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการการรองรับผู้โดยสารเป็น 18 ล้านคนต่อปี ทำให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึงปี 2568 และสามารถรองรับเที่ยวบินเพิ่มเป็น 30 เที่ยวต่อชั่วโมงบิน
แค่มองตัวเลขคาดการณ์ปริมาณนักท่องเที่ยวผ่านการขยายสนามบินเราจะเห็นแล้วว่าขีดความสามารถของภูเก็ตในอนาคตยังมีอีกมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เฟื่องฟูสุดๆ เห็นได้จากดารา Hollywood ต่างทยอยกันมาเที่ยวไม่ขาดสายทุกปี
2. การเคลื่อนไหวโครงการ Mega Project ของภาคเอกชน
ในบทความนี้ TerraBKK Research ขออัพเดทเฉพาะสถานการณ์ล่าสุดว่ามี Mega Project ไหนแล้วเสร็จบ้าง โครงการไหนกำลังจะเกิดใหม่บ้าง โดยมีรายละเอียดดังนี้
ที่มาภาพ : www.ikea.com
ศูนย์บริการสั่งซื้อและรับสินค้าอิเกีย (IKEA Pickup & Ordering Point Phuket) : ศูนย์บริการสั่งซื้อและรับสินค้าอิเกีย ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้ลูกค้าของอีเกียสามารถซื้อสินค้าได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องเดินทางมาที่สโตร์อิเกีย บางนา ลูกค้าสามารถสั่งซื้อและนัดหมายวันรับสินค้า หรือใช้บริการจัดส่งสินค้าได้ และรอรับสินค้าภายใน 5 วัน ร่วมถึงมีทีมช่างคอยให้บริการติดตั้งถึงที่อีกด้วย
ที่มาภาพ : aasarchitecture.com
Central Phuket เฟสที่ 2 : หลังจากได้ก่อสร้าง Central Festival เฟสที่ 1 เสร็จไปแล้ว ต่อมาก็ตามด้วย Central Phuket เฟสที่ 2 สำหรับเฟสที่ 2ใช้เงินลงทุน 6,650 ล้านบาท โดยมีขนาดพี้นที่ให้เช่าประมาณ 63,000 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 57 ไร่ และสามารถจอดรถได้ทั้งหมด 3,000 คัน
ที่มาภาพ : www.kingpower.com
King Power Phuket : ในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2558 King Power Phuket ได้เปิดตัวโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บนพื้นที่ใช้สอยกว่า 26,312 ตารางเมตร ด้วยสถาปัตยกรรมล้ำสมัยด้วยการตกแต่งสไตล์ชิโนโปรตุกีส อาคารถูกออกแบบให้เป็น Green Building ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน ลูกค้าของ King Power สามารถเลือกช้อปก่อนบินได้ถึง 60 วัน สำหรับสินค้า Duty Free หรือไม่บินก็ช้อปได้โดยไม่ต้องมีไฟลท์เดินทาง
Phuket Eye : ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ เป็นโครงการที่ถูกสร้างอยู่ในโครงการ Ramada Chaofa Phuket โดย กลุ่ม C.A.S. Asset Phuket โดยของการของ Ramada Chaofa Phuket มีพื้นที่รวมประมาณ 33 ไร่ ภายในประกอบไปด้วยหลายโครงการด้วยกันได้แก่ Phuket Eye, โรงแรมเครือ Wyndham Group และ shopping district สไตล์ชิโนโปรตุกีส ที่ประกอบไปด้วยร้านอาหารทำเล Street Food ตลาดสินค้า OTOP และสุดท้ายพิพิธภัณธ์เพอรานากัน สำหรับโครงการ Ramada Chaofa Phuket นี้จะเปิดให้บริการในปี 2560
กลุ่มทุนไทย จีน จับมือลงทุนเกาะภูเก็ต : บริษัท สุขุมวิท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เตรียมลงทุนในนามส่วนตัว โดยร่วมกับนักพัฒนาที่ดินจากจีน โดยถือหุ้น 70% นักลงทุนจีน 30% เพื่อพัฒนาโครงการในรูปแบบ Mix-used บนที่ดินประมาณ 30 ไร่ อยู่ติดทะเล ประกอบด้วย โรงแรมแบบบูทีคโฮเทล, ช็อปปิ้งมอลล์, พิพิธภัณฑ์เชิงสังวาส (อีโรติก) และโรงละครแบบอีโรติก ปัจจุบันได้เริ่มทำการปรับหน้าดิน เพื่อความเตรียมพร้อมที่จะพัฒนาโครงการดังกล่าวแล้ว คาดการก่อสร้างจะแล้วเสร็จประมาณ ปลายปี 2560 หรืออย่างช้ากลางปี 2561 คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท
The Giant Ferris Wheel : กระเช้าโมบายสวรรค์สูงที่สุดในโลก ชมวิว 360 องศา และต้องการเป็นแลนด์มาร์คสิ่งปลูกสร้างสมัยใหม่ของภูเก็ต โดยคาดว่าใช้เวลาก่อสร้าง 1 ปี กับ 6 เดือน
3. โมเดลเกาหลีสร้างภูเก็ตเป็นสมาร์ทซิตี้
ภูเก็ตได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐโดยสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (ซิป้า) ในการเตรียมนำโมเดลสมาร์ทซิตี้ เมืองอินชอน เกาหลีใต้ มาเป็นแบบอย่างนำร่องพัฒนาให้ ภูเก็ต เป็นสมาร์ทซิตี้แห่งแรกของไทย ในเบื้องต้นใช้เงินประมาณ 430 ล้านบาทในการวางระบบโครงสร้างพื้นฐานในเมืองภูเก็ต ในระยะต่อไปเมืองภูเก็ตจะ เป็นเมือง Internet of Thing (IOT) ใช้ระบบเครือข่ายปิดไฟตามแหล่งสาธารณะ การเชื่อมโยงข้อมูล การแจกซิมมือถือนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อติดตามการเดินทาง การพัฒนาตรงนี้จะทำให้ภูเก็ตมีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เกิดการลงทุนและพัฒนาเมืองให้เป็นไปในแนวทางที่ดีได้ในอนาคต
4. โครงการรถรางเบา LRT บริษัทภูเก็ตพัฒนาเมือง
โครงการรถไฟฟ้ารางเบา LRT ดำเนินการภายใต้ความร่วมมือจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ซึ่งล่าสุดได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมของโครงการแล้วเสร็จ และได้เปิดประชุมรับฟังความคิดเ้ห็นครั้งที่ 3 แล้ว โดยแนวทางการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนแบบรางของภูเก็ต จะใช้รถไฟฟ้ารางเบา (LRT) ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เส้นแรกแรกคือท่าอากาศยานภูเก็ต อ.ถลอง-ห้าแยกฉลอง ระยะทาง 60 กิโลเมตร มีจำนวนสถานีให้บริการ 20 สถานี ได้แก่ สถานีท่านุ่น, สถานีท่าอากาศยานภูเก็ต, สถานีถลอง, สถานีอนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรีท้าวศรีสุนทร, สถานีทุ่งคา, สถานีเมืองเก่า, สถานีวงเวียนหอนาฬิกา, สถานีบางเหนียว, สถานีห้องสมุดประชาชน, สถานีสะพานหิน, สถานีศักดิเดช, สถานีดาวรุ่ง, สถานีวิชิต สถานีเจ้าฟ้าตะวันออก, สถานีป่าหล่าย, สถานีบ้านโคกโตนด และสถานีฉลอง มูลค่าการลงทุนประมาณ 24,000 ล้านบาท คาดการณ์จำนวนผู้โดยสาร 68,000 คน หากสามารถดำเนินการได้ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการดำเนินงานในการร่วมทุนหรือ PPP (Public Private Partnership) ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี และเปิดให้บริการในปี 2564
โครงการ Mega Project ทั้งหมดนี้ก็เป็นโครงการที่แล้วเสร็จและเตรียมจะเกิดขึ้นใหม่ที่ทาง TerraBKK Research ได้รวบรวมรวมข้อมูลและอัพเดทให้ผู้อ่านได้ทันข้อมูลข้าวสารและใช้เป็นข้อมูลเสริมในการตัดสินใจลงทุน นอกจากนี้ยังมีโครงการเล็กๆ น้อยๆ ที่กำลังค่อยๆ เกิดขึ้นรอบเกาะภูเก็ตอีกเป็นจำนวนมาก สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภูเก็ตถือว่าเติบโตต่อเนื่องก็เป็นเครื่องชี้ชัดว่าภูเก็ตถือเป็น Destination ที่สำคัญและน่าจับตามองที่สุดแห่งหนึ่งโลกเลยก็ว่าได้
สถิตินักท่องเที่ยวภูเก็ตล่าสุด ปี 2557 นักท่องเที่ยวจีนครองแชมป์
จากตัวเลขนักท่องเที่ยวเกาะภูเก็ต TerraBKK Research พบว่า นักท่องเที่ยวค่อนข้างคงที่นับจากปี 2013 จนถึง 2014 อยู่ที่ระดับ 10,793,303 คน โดยถ้าหากมองลึกลงไปเรา พบว่า นักท่องเที่ยวที่ลดลงนั้นเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย ลดลง -3.66% แต่ถ้าเราดูนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็เป็นที่น่ายินดีว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาเยือนภูเก็ตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เท่ากับ 7,818,271 คน เพิ่มขึ้น +1.32% แสดงให้เห็นถึงศักภาพการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ในสายตาชาวต่างชาติยังเป็นที่น่าสนใจอยู่ โดยชาติที่มาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตมากที่สุด คือ คนจีน สูงถึง 1.27 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2556 ถึง +12.09% เพิ่มขึ้นสูงที่สุดเมื่อเทียบกับทุกชนชาติ ส่วนชาติที่มาเที่ยวภูเก็ตเป็นอันดับสอง คือรัสเซีย เพิ่มขึ้นจากปี 2556 เพิ่มขึ้น +4.29%
ที่มาข้อมูล : Department of Tourism, Ministry of Tourism and Sports
เมื่อเราดูภาพรวมของการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตแยกตามชาวไทยและชาวต่างประเทศ พบว่า มีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี นับตั้งแต่ปี 2552-2558 โดยเป็นสัดส่วนของชาวต่างประเทศมากกว่าชาวไทย เมื่อเจาะดูตัวเลขของรายได้จากการท่องเที่ยวนั้น พบว่าค่อนข้างต่างกันมากระหว่างคนไทยและชาวต่างระเทศ โดยภูเก็ตมีรายได้จากการท่องเที่ยวจากชาวต่างประเทศถึง 272,532 ล้านบาท และมีรายได้จากชาวไทย 40,474 ล้านบาท เนื่องจากทั้งระยะเวลาการท่องเที่ยว การเข้าพักแรม ค่าใช้จ่ายต่อคน และการทัศนาจรของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศล้วนมากกว่านักท่องเที่ยวชาวไทยทั้งสิ้น จึงจะกล่าวได้ว่าภูเก็ตเป็นเมืองที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวของชาวต่างประเทศอย่างแท้จริง
ที่มาข้อมูล : Department of Tourism, Ministry of Tourism and Sports
สุดท้ายแล้ว "ภูเก็ต" ถือเป็นทำเลที่น่าลงทุนเป็นอันดับต้นๆของไทย เป็นคู่แข่งตัวฉกาจของสีลม-สาทร ไม่ว่าจะเป็นศักยภาพด้านการลงทุนและศักยภาพด้านทำเลของภูเก็ต ทำให้ "ภูเก็ต" เป็นเมืองของนักลงทุนที่ทุกคนจะต้องจับตามองให้ดีๆ อีกทั้งการเกิดขึ้นของ Mega Project ที่ผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ยิ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้โครงการอสังหาริมทรัพย์ในทำเลแห่งนี้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
บทความโดย : TerraBKK คลังความรู้
TerraBkk ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก