คอนโดมิเนียม ECO LIVING พร้อมอยู่ใกล้ BTS เอราวัณ ติดทางด่วนเชื่อมต่อ บางนา พระราม 2 สาทร ในราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท

พื้นที่ย่านเอราวัณเป็นหนึ่งในทำเลที่อยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ และเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ฐานการผลิตของ Toyota, Honda รวมไปถึง Isuzu ต่างรวมกันอยู่ที่นี่ ซึ่งไม่เพียงแต่โรงงานรถยนต์เท่านั้นแต่ยังแวดล้อมไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรมอีกหลายแห่ง มีพนักงานรวมกันหลายหมื่นคน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจหลายหมื่นล้านบ้านต่อปี แสดงให้เห็นว่าพื้นที่เอราวัณเป็นอีกหนึ่งทำเลศักยภาพ ที่เป็นศูนย์รวมของพนักงานที่มีรายได้เฉลี่ยอยู่ในระดับสูง มีสวัสดิการที่ดี และมีรายได้ที่มั่นคง

อย่างไรก็ตาม เมื่อเอ่ยถึงสมุทรปราการ หลายคนอาจคิดว่าไกลจากกรุงเทพฯ และการคมนาคมไม่สะดวก แต่พื้นที่ของเอราวัณเป็นส่วนที่ติดกับกรุงเทพฯ มีการคมนาคมที่เชื่อมต่อหลายเส้นทาง ทั้งจากรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อนที่สถานีเอราวัณที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง ทั้งยังใกล้กับทางด่วนและวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ฝั่งใต้ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังเขตอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้

นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางไปยังสีลม-สาทร ได้ง่ายๆ ในเวลาเพียง 10 นาที ด้วยระบบโครงข่ายคมนาคมทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ เชื่อมสะพานวงแหวนอุตสาหกรรม นอกจากการเดินทางที่ไร้อุปสรรคแล้ว สิ่งอำนวยความสะดวกในบริเวณนี้ก็ถือว่าครบสมบูรณ์เช่นกัน ในระยะทาง 3-5 กิโลเมตร มีสถานที่อำนวยความสะดวกประกอบไปด้วยศูนย์การค้า Mega บางนา, ฺBangkok Mall, Bitec บางนา, Central บางนา, ห้างสรรพสินค้า Robinson, BigC สำโรง ทั้งยังมีสถานศึกษาชั้นนำที่ใกล้เคียงอย่าง โรงเรียนอัสสัมชัญสำโรง โรงเรียนเซนต์โยเซฟทิพวัล ใกล้แหล่งท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ เมืองโบราณ สถานตากอากาศบางปู ฟาร์มจระเข้ เป็นต้น

จากความสะดวกสบายทั้งระบบการคมนาคม แหล่งงานขนาดใหญ่ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบสนอง Lifestyle การใช้ชีวิตได้ครบถ้วน จึงทำให้โครงการ Tropicana Erawan (ทรอปิคานา เอราวัณ) คอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 363 ยูนิตบนเนื้อที่ 2 ไร่ 96 ตร.วา โดย Origin Property เป็นที่อยู่อาศัยแนวใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนย่านนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งมีรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างจากหนุ่มสาวออฟฟิศทั่วไป ให้เข้ากับ Target Customer พวกโรงงานอุตสาหกรรม โรงงานผลิตรถญี่ปุ่น ภายในโครงการออกแบบแนว Tropical Zen เน้นพื้นที่เปิดโล่งและใช้สีเขียวบนดิน ให้ความสดชื่นสบายตา เพิ่มเติมแนวคิดและวัสดุแบบ ECO living เข้ามาในโครงการ เพื่อลดการใช้พลังงานในอาคาร ตั้งแต่ชั้นดาดฟ้าที่มีการใช้ Solar Cell เพื่อนำพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในที่พื้นที่ส่วนกลาง, มีระบบ Recycle น้ำ, ติดตั้งหลอดไฟ LED ของ Phillips ทั้งโครงการ, ใช้เครื่องปรับอากาศ รุ่น Inverter ในทุกห้อง, ใช้เครื่องทำน้ำอุ่นรุ่น Air Jet ซึ่งจะประหยัดทั้งน้ำและพลังงานไฟฟ้าโดยจากการประเมินคาดว่าจะประหยัดได้ราว 30-40% และสีทาภายนอกอาคารใช้ TOA 4 Seasons รุ่น Sun Block ที่สามารถสะท้อนความร้อน ช่วยลดอุณหภูมิได้ราว 2-3 องศาเซลเซียส

ในเนื้อที่กว่า 2 ไร่ โครงการ Tropicana Erawan ทั้งอาคาร A และ B ให้ความสำคัญกับมุมพักผ่อนของลูกบ้าน โดยเน้นมอบความสดชื่นผ่านต้นไม้และสีเขียว เริ่มจากพื้นที่ของส่วนกลาง ชั้น G จะไม่มีห้องพักอาศัย นอกจากจะเป็นพื้นที่สำหรับจอดรถแล้ว ยังมีสวนด้านข้างโครงการ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับส่วนกลางอื่นๆ เช่น ล๊อบบี้ ห้องสมุด สนามเด็กเล่น ขณะที่ชั้น 8 ของตึก A แบ่งเป็นพื้นที่ของห้องพักอาศัยส่วนหนึ่ง และเป็นพื้นที่ใช้สอยของส่วนกลาง ประกอบไปด้วย สวนหยอ่มบนดาดฟ้าและสระว่ายน้ำระบบเกลือ ห้องออกกำลังกาย ส่วนพื้นที่ดาดฟ้าของตึก B มีสวนหย่อมและพื้นที่นั่งเล่น

นอกจากนี้ Tropicana Erawan ยังมีการจัดรูปแบบห้องที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ Layout ห้องเหมาะกับการพักอาศัยในวันทำงาน เน้นการใช้งานในห้องพัก มีความเรียบง่ายแต่แปลกตาแฝงด้วยฟังก์ชั่นการใช้งาน คุมโทนการตกแต่งด้วยสีอ่อน ขายแบบ Partly Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ Built-in ห้องที่พักอาศัยมีทั้งหมด 3 แบบ ประกอบด้วย ห้องType A ขนาด 24 ตร.ม. ห้องType B ขนาด 29 ตร.ม. และห้องType B Plus ขนาด 36 ตร.ม. ทุกห้องจะได้ Digital Door Lock ของ Yale เป็นระบบใช้การ์ดหรือจะกดรหัสปลดล็อกก็ได้

เริ่มชมห้องตัวอย่างจากห้องสตูดิโอ 1 ห้องนอน Type A ขนาด 24 ตร.ม. เป็นห้องขนาดเล็กที่สุด แต่ถือว่าครบครันสำหรับผู้อยู่อาศัย เมื่อปลดล็อกประตูผ่านเข้ามาด้านซ้ายจะพบชุดครัวที่ Built-in มาให้เหมาะสมกับขนาดห้อง เคาน์เตอร์ครัวเป็นลามิเนต ชุด Pantry ขนาดเล็กแต่มีครบทั้งอ่างล้างจาน, เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันของ Teka มีพื้นที่สำหรับวางเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เช่น ไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้าได้ ซึ่งการ Built-in จะเริ่มจากหน้าประตูไปสิ้นสุดที่ชั้นวางทีวีในห้องนอน และนอกจากพื้นที่ยืนทำครัวและเตรียมอาหาร ส่วนด้านขวาของห้องเป็นพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อน ซึ่งทางโครงการวางตัวอย่างโซฟายาวมาเป็นตัวอย่างให้เปรียบเทียบว่าห้องมีพื้นที่มากพอที่จะวางโซฟาขนาดใหญ่และโต๊ะสำหรับรับประทานอาหารได้

สังเกตพื้นในห้องจะพบว่าเป็นพื้นไวนิล ซึ่งจะทนทานไม่กลัวน้ำ ดีกว่าพื้นลามิเนตสำหรับการใช้งานและการดูแลรักษา เพิ่มความกว้างให้ห้องด้วยการติดกระจกทั้งในห้องนอนและด้านหลังโซฟาห้องนั่งเล่น โครงการจะกั้นห้องนอนและพื้นที่นั่งพักผ่อนให้เป็นสัดส่วนด้วยบานประตูสไลด์ป้องกันแสงยูวีที่ Built-in ตั้งแต่พื้นจรดเพดานขนาด 2.4 เมตร ซึ่งพื้นที่ด้านในห้องนอนก็พอดีกับเตียงขนาด 5 ฟุต มี Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดกลางความสูงพื้นจรดเพดาน

นอกจากนี้ยังมีชั้นสำหรับวางทีวีหรือทำเป็นชั้นวางหนังสือและเก็บของจิปาถะอื่นๆ สำหรับห้องน้ำจะขนาดกะทัดรัด เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ามีลิ้นชักเก็บของได้อีกเล็กน้อย โครงการใช้สุขภัณฑ์ของ Cotto รุ่นประหยัดน้ำ ชุดฝักบัวและเครื่องทำน้ำอุ่นของ สตีเบล รุ่น Air Jet เป็นรุ่นที่ประหยัดน้ำและไฟ กินไฟต่ำกว่าเครื่องทำน้ำอุ่นทั่วไปราว 40%

สำหรับห้องต่อมา คือ ห้อง Type B ขนาด 29 ตร.ม. มี 1 ห้องนอน ซึ่งส่วนใหญ่ห้อง Type นี้จะอยู่ในอาคาร B เป็นส่วนมาก การวาง Lay Out ของห้องนี้จะค่อนข้างแปลกแต่ลงตัวในพื้นที่ใช้สอย เพราะได้ครัวปิดเป็นสัดส่วน และมีพื้นที่ใช้งานที่ระเบียงแบบอเนกประสงค์สามาระวางโซฟาด้านนอกได้ แต่สำหรับการใช้งานจริงสามารถปลูกต้นไม้ดอกไม้ หรือชุดโต๊ะญี่ปุ่นสำหรับอ่านหนังสือหรือจิบกาแฟก็ได้เช่นกัน เริ่มต้นจากหน้าห้อง เปิดประตูมาจะเจอพื้นที่นั่งพักผ่อน วางโซฟายาวได้ โดยโต๊ะรับประทานอาหารวางไว้ด้านข้าง ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นทีวีแขวนผนัง และโครงการ Build-in ตู้แขวนสำหรับวางของไว้ให้โดยเว้นพื้นที่ด้านล่างสำหรับการใช้สอยอื่นๆ

พื้นที่ห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมที่โครงการให้มาด้วย คอนเซ็ปต์ของห้องนี้คือทำผนังและประตูกระจกเพื่อดึงแสงธรรมชาติเข้ามาในพื้นที่นั่งเล่น หากต้องการความเป็นส่วนตัวมากๆ แนะนำให้ติดม่านเพิ่มเติม ภายในห้องนอน มีเตียงห้าฟุต ใต้เตียงมีลิ้นชักเก็บของให้ด้วย และส่วนที่ห้องนี้แตกต่างออกไปจากห้องอื่นๆ คือส่วนของห้องครัวที่เป็นแบบปิด โดยโครงการจะติดประตูกระจกบานเลื่อนกั้นระหว่างโซนนั่งเล่นและห้องนอนให้อีกชุด เมื่อเข้ามาในโซนครัวแล้วขวามือคือห้องน้ำที่ภาพรวมใช้สุขภัณฑ์ของ Cotto ทั้งห้อง ด้านซ้ายเป็นครัวและระเบียง Pantry ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับพื้นที่ห้อง แม้จะกะทัดรัดแต่ให้มาครบทั้งอ่างล้างจาน เตา และเครื่องดูดควันเช่นเดียวกันกับห้องแรกในชุด ของ Teka

ส่วนห้องสุดท้ายที่จะไปพาไปชม เป็นห้อง Type B Plus ขนาด 36 ตร.ม. มี 1 ห้องนอน และ 1 ห้องอเนกประสงค์ ซึ่งสามารถจัดเป็นห้องนอนได้ เมื่อเปิดประตูมาจะเจอพื้นที่ส่วนที่เป็นห้องนั่งเล่นก่อน ห้องนี้จะคล้ายกับห้องแรกคือเราสามารถมองทะลุออกไปถึงระเบียงและนอกห้องได้ เพราะห้องนอนทั้งสองห้องกั้นด้วยผนังและประตูกระจก เพื่อดึงแสงธรรมชาติเข้ามาให้ถึงส่วนที่เป็นห้องนั่งเล่นด้านใน โซฟากับโต๊ะรับประทานอาหารวางในแนวเดียวกัน ชั้นวางของและทีวียกขึ้นมาสูงเผื่อพื้นที่ด้านล่าง สำหรับวางสิ่งของชิ้นใหญ่อื่นๆ ส่วนครัวจะอยู่ด้านในหน้าห้องน้ำ เคาน์เตอร์ครัวเป็นลามิเนต ชุด Pantry ขนาดเล็กแต่มีครบทั้งอ่างล้างจาน, เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันของ Teka แต่มีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารวางเสริมอยู่ด้านตรงข้ามกัน ซึ่งกันไว้สำหรับเป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ซึ่งลูกเล่นของพื้นที่ตรงนี้คือสามารถกางเป็นโต๊ะอีกตัวหนึ่งได้ใช้สำหรับขยายพื้นที่วางของได้มากขึ้น สามารถพับเก็บและกางง่าย ครัวห้องนี้เป็นครัวเปิดเหมาะสำหรับอาหารที่ไม่ต้องยุ่งยากมากนัก ห้องน้ำขนาดกะทัดรัด และฟังก์ชั่นการใช้งานเช่นเดียวกับสองห้องที่ผ่านมาคือ มีเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ามีลิ้นชักเก็บของได้อีกเล็กน้อย โครงการใช้สุขภัณฑ์ของ Cotto รุ่นประหยัดน้ำ ชุดฝักบัวและเครื่องทำน้ำอุ่นของ สตีเบล รุ่น Air Jet เป็นรุ่นที่ประหยัดน้ำและไฟ กินไฟต่ำกว่าเครื่องทำน้ำอุ่นทั่วไปราว 40%

ส่วนห้องนอน 2 ห้อง โครงการจัดให้ห้อง Master Bedroom อยู่ด้านขวา ส่วนห้องอเนกประสงค์ซึ่งจัดเป็นห้องนอนเล็กอยู่ด้านซ้าย ซึ่งไม่จำเป็นว่าเราจะทำให้เป็นห้องนอนทั้งคู่ อาจจะจัดเป็นห้องทำงาน หรือห้องแต่งตัวก็ได้เช่นกัน ซึ่งห้องนอนจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนที่โครงการติดตั้งมาให้ หากต้องการความเป็นสัดส่วนสามารถติดผ่าม่านเพิ่มเติมได้ สำหรับภาพรวมพื้นที่ในห้องนอนใหญ่จะคล้ายกับห้องอื่นๆ คือมีเตียงขนาด 5 ฟุต ตู้เสื้อผ้า Build-in และชั้นแขวนทีวี แต่ลูกเล่นของห้องนี้จะอยู่ที่ห้องเล็กซึ่งโครงการจัดเป็นห้องนอนเล็ก ที่การตกแต่งเป็นญี่ปุ่นชัดเจนคือวางฟูกบนพื้นเพราะโครงการยกพื้นห้องให้เป็นต่างระดับขึ้นมา ส่วนตู้เก็บของต่างๆ ยกแขวนผนัง เพิ่มพื้นที่ใช้สอย มีโต๊ะอเนกประสงค์ แบบโต๊ะญี่ปุ่นอยู่ด้านหัวเตียงสามารถพับขึ้นและเดินออกไปสูดอากาศหรือชมวิวช้างสามเศียรได้ ซึ่งห้องนี้มีระเบียงยาวตลอดแนวห้อง สามารถเดินออกมาจากห้องนอนเล็กหรือห้องนอนใหญ่ก็ได้

สำหรับโครงการ Tropicana Erawan เป็นโครงการที่มอบความคุ้มค่าในราคาเริ่มต้นที่ 1.59 ล้านบาท ท่ามกลางบรรยากาศสีเขียวในสวนแบบ Tropical Zen เหมาะอย่างยิ่งกับคนที่อยู่อาศัยย่านบางนาที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัว หรือกลุ่มคนทำงานและต้องการที่พักที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในย่านนิคมอุตสาหกรรมได้อย่างไม่จำกัด