ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด บอกว่า “ความเครียดระดับปานกลางช่วยให้คุณฟื้นตัวจากการเจ็บป่วยได้เร็วขึ้น” จะว่าไปแล้วเจ้าความเครียดนี่ก็มีข้อดีเหมือนกันนะครับ แต่เดี๋ยวก่อน… !! ใครที่ตัดสินใจเครียดต้องระวังเพราะมากไปยังไงก็ไม่ดี (แหม่ มหาวิทยาลัยชื่อดังก็บอกอยู่ว่าต้องใน ‘ระดับปานกลาง’ ) ความยากของโจทย์ก็คือ แล้วทำอย่างไรให้ความเครียดอยู่ในความพอดีได้? เรามีคำตอบจากชีวจิตมาฝากกันครับ ไปลองเช็คกันดูว่าต้องทำอย่างไรบ้าง

ตื่นเต้นบ้างก็ดี การกระตุ้นประสาทให้ตื่นตัวจากความรู้สึกตื่นเต้นจะทำให้คุณ พูดต่อหน้าสาธารณะชนได้ดีขึ้น

สุนัขเพื่อนยาก ขอบอกว่าน้องหมาทำได้ดีกว่ามนุษย์ในฐานะเพื่อนที่ช่วยให้คุณสบายใจหายหงุดหงิด ซึ่งช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจลงได้ถึง 10 bpm ถ้ามันไม่แทะข้าวของในบ้านพังหมดนะ

นอยด์เพื่อความไว ลองคิดเสียใหม่ว่าอาการกระวนกระวายใจของคุณเป็นปฏิกิริยาของร่างกายเพื่อให้คุณพร้อมทำสถิติใหม่ เพราะมันจะทำให้คุณวิ่งมาราธอนเร็วขึ้นอีกตั้ง 15 นาทีแน่ะ

เฟซบุ๊คพาเฉา รูปถ่ายงานปาร์ตี้ของเพื่อนบนเฟซบุ๊คทำให้คุณห่อเหี่ยว เพราะคุณจะคิดว่าชีวิตเพื่อนสนุกกว่าชีวิตตัวเอง โพสต์เรื่องดีๆ บนหน้าโปรไฟล์ตัวเองบ้าง ถ้าอยากอารมณ์ดีขึ้น

อย่าหอบงานกลับบ้าน เพราะจะทำให้คุณเครียดกว่าทำงานที่ออฟฟิศ 20% แค่เขียนรายการสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันไว้ตามลำดับความสำคัญก็พอ แบบนี้จะทำให้คุณมีสติกับงานโดยไม่สติแตก

ลองเช็คแล้วทำตามกันดูนะครับ!

Source : www.cheewajit.com หมายเหตุ : ภาพประกอบบทความ บางภาพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาแต่อย่างใด

ขอบคุณข้อมูลจาก : เครียด อย่างไรให้… ชีวิตเก๋!