ความเป็นมาและความสำคัญ ของการ "สวดมนต์ข้ามปี"
ในช่วง เทศกาลวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หน่วยงานต่าง ๆ และประชาชนเคยให้ความสำคัญกับการจัดงานบันเทิงงานรื่นเริงและมหรสพหลากหลายรูปแบบซึ่งจะเน้นไปในเรื่องนันทนาการ บันเทิง รื่นเริง เลี้ยงสังสรรค์ เน้นความสนุกสนานเป็นเรื่องสำคัญ บางแห่งมีอบายมุข เกิดการมั่วสุมดื่มสุรา ทำให้ขาดสติ เกิดอุบัติเหตุ ทะเลาะวิวาท สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ทำให้ภาพลักษณ์ของประเพณีวัฒนธรรมไทยที่งดงามสูญเสียไปด้วย
นับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๘ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ได้ริเริ่มจัดกิจกรรมเคาท์ดาวน์ “สวดมนต์ข้ามปี” ในวัดเป็นครั้งแรก ภายใต้โครงการส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่ วิถีพุทธ เพื่อกระตุ้นให้คนเข้าวัดใกล้ชิดพระศาสนามากยิ่งขึ้น จัดทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ส่วนกลางจัด ณ วัดชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งจากภาคคณะสงฆ์ เจ้าคณะจังหวัด พระสังฆาธิการทุกระดับ วัดทุกวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด สภาวัฒนธรรมจังหวัด อำเภอ ตำบล ทั่วประเทศ เป็นการเริ่มต้นของการนำมิติทางศาสนาเข้ามาสู่กิจกรรมส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ นับถอยหลังหรือเคาท์ดาวน์ด้วยเสียงเจริญพระพุทธมนต์และสวดมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เจริญรุ่งเรือง พร้อมกับการต้อนรับปีใหม่ ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา
นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ “สวดมนต์ข้ามปี” ได้กลายเป็นกิจกรรมยอดนิยม ที่แพร่หลายไปทั่วประเทศนำ “ความสุขที่แท้จริงมาสู่คนไทย” โดยมีพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นการรักษาประเพณีวัฒนธรรมในมิติทางศาสนา สืบสานวิถีถิ่น วิถีไทย อย่างมั่นคง และยั่งยืน ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : www.dra.go.th