เมื่อรัฐบาลประกาศมอบนโยบายที่จะนำพาประเทศ ก้าวสู่โมเดล “ประเทศไทย 4.0” หรือ “ไทยแลนด์ 4.0” เพื่อผลักดันประเทศไทยให้เข้าสู่ยุคดิจิตอล เพราะในสังคม ปัจจุบันเราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า เทคโนโลยีได้เข้า มามีบทบาทในธุรกิจต่างๆ รวมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ความเปลี่ยนแปลงใหม่ที่ทำให้ผู้ประกอบการ เริ่มปรับตัวนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาต่อยอดธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น การใช้ใน กระบวนการบริหาร การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การขายและ การตลาด การบริการหลังการขาย ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความ น่าเชื่อถือและขยายกลุ่มฐานลูกค้า โดยสิ่งเหล่านี้เราเรียก รวมๆว่า PROP TECH หรือ Property Technology และ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในส่วนของ Service Sector ขนาด ใหญ่ที่สำคัญที่จะสามารถช่วยผลักดัน GDP ประเทศได้ ดังนั้นในนามสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย จึงอยากรวม พลังแบ่งปัน และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆให้กับคนในแวดวง อสังหาฯ และคนรุ่นใหม่ที่เป็นพลังสำคัญที่จะต้องขับเคลื่อน ประเทศต่อไป 

“เราอยากทำอะไรใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ไม่ให้เป็นเรื่องน่าเบื่อ”

     “ซึ่งเมื่อมีคนพูดถึง PROP TECH เราก็เริ่มศึกษาว่ามัน คืออะไร และบังเอิญก็มาเข้ากับ ไทยแลนด์ 4.0 พอดี รวม ทั้งระบบอินเตอร์เน็ตบ้านเราก็ดีขึ้นเป็น 4G แล้ว โครงการ อสังหาริมทรัพย์หลายรายก็ปรับเปลี่ยนสู่ Smart Home หรือ Home Automation แต่ก็ยังไม่ได้แพร่หลายมากนัก แต่ก็ยังมีหลายกลุ่มที่ไม่รู้ด้วยว่า Internet of Things คือ อะไร? ส่วนตัวชอบเรื่องเทคโนโลยีอยู่แล้ว เลยทำให้สนใจ อยากจะอัพเกรดความรู้ของคนทั่วไป ทั้งเก่าและใหม่ เติม พลังให้เค้า บอกกล่าวคำศัพท์ใหม่ๆในชีวิตที่เขาไม่เคย ได้ยิน เข้าใจ ทั้ง เหล่า Millennials คือใคร?, Disruptive คืออะไร?, Sustainable มีผลอย่างไร? จึงเป็นที่มาของการ จัดงานเพื่อที่จะบอกคน New Gen ว่าของใหม่ๆ มันมีอยู่ เพียงพวกคุณต้องเปิดหู เปิดตา เพื่อจะรับการเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีครั้งยิ่งใหญ่ของโลก” คุณพรนริศ กล่าว 

“ Creative Talk / Inspiration Talk ในหัวข้อ “Future Thailand : ประเทศไทย 4.0 

ก้าวไปข้างหน้าอย่างไร... ไม่ต้องทิ้งใครไว้ข้างหลัง ” 

PEOPLE / PROPERTY / PROSPERITY 

     

ปัจจุบันเทคโนโลยีได้แทรกซึมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งใน ชีวิตประจำวันของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และมีความ เชื่อว่าเด็กไทยเก่งๆมีเยอะ ที่จะสามารถพัฒนาธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ให้ก้าวไปสู่ Value-Based Economy โดยมีฐานคิดหลักคือ การเปลี่ยนจากการทำงานเดิมๆ ไป สู่สินค้าเชิงนวัตกรรมได้ และสิ่งแรกที่ต้องเปลี่ยนให้ได้คือ “คน” โดยต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับวิธีคิด (Mind Set) ทำให้เข้าใจคำว่า “คุณค่า” เป็นสิ่งที่แต่ละ ภาคส่วนต้องช่วยกัน 

มุมมอง Future Real Estate Thailand 2017 จะเป็นไปอย่างไร ? 

     อสังหาริมทรัพย์ (Property) ในอนาคตมองว่า สำนักงานขายไม่จำเป็นต้องอยู่ที่โครงการ (On Site) อีก ต่อไป เพราะทุกอย่างคือเสมือนจริงได้ (Virtual) ทุกอย่าง มันจะง่ายขึ้น โดยเฉพาะงานขาย บางทีเราอาจจะไม่ต้อง พึ่งพาพนักงานขายในการกระตุ้นยอดขายอีกต่อไป หรือ หากจะอธิบายเชื่อมโยงกับสิ่งที่ใกล้เคียงกับ Prop Tech มากที่สุด นั่นคือ Fin Tech (Financial Technology) คือ การใช้ซอฟต์แวร์มาเชื่อมโยงเก็บข้อมูลการเงินส่วนบุคคล สู่การขออนุมัติสินเชื่อ โดยไม่จำเป็นต้องมีพนักงานเป็น ตัวกลางในการคัดกรองข้อมูล จากนั้นเมื่อนำข้อมูลหลายๆ ส่วนมาเชื่อมต่อกัน จะกลายเป็น Block Chain (เครือข่าย การเก็บข้อมูล) ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและได้รับข้อมูลเดียวกัน 

     โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บอยู่ในแต่ละบล๊อก (Block) ที่เชื่อมโยงกันบนเครือข่ายเหมือนกับห่วงโซ่ข้อมูล (Chain) และหากสามารถเชื่อมต่อกันได้สมบูรณ์แบบ คิดว่าจะเปลี่ยนการทำงานระหว่างกันของภาคอสังหาริมทรัพย์และธนาคารไปจากนี้อย่างแน่นอน 

     “อยากให้คนรุ่นใหม่มาอัพเดทความรู้ เพราะมัน ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยีอย่างเดียว แต่จะมีทั้งเรื่องของ เมือง ทฤษฏีในการทำเมือง การพัฒนาต่างๆ ทุกอย่าง ที่จัดขึ้นมันมีแต่ของใหม่ๆ ให้ทุกคนตื่นรู้ในทุกระดับที่จะ ใช้สร้างประเทศ เนื่องจากประเทศไทยยังมีที่ดินอยู่มาก ที่กำลังพัฒนา วัตถุประสงค์ในการจัดงานนี้เพื่อที่อ จะแชร์ความรู้ให้ทั้งผู้ประกอบการ ภาครัฐ นักพัฒนา เทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมไปถึงประชาชนทั่วไปได้ มองเห็นภาพใหญ่ร่วมกัน มาแบ่งปันแลกเปลี่ยนมุม มองต่อกัน โดยตั้งเป้าหมายว่ามาพบปะกันอัพเดทข้อมูลกัน ปีละ 1 ครั้ง” 

     การก้าวไปสู่สังคมแบบ 4.0 ของประเทศไทยนั้น ยัง มีความท้าทายมากมายที่ต้องเผชิญ อย่างไรก็ตามบทบาท ของสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยนั้น นอกเหนือจากนโยบายที่จะสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้ว เรายังต้องการมีส่วนในการส่งเสริมให้เกิดการรวมตัวของคน (Community) ที่จะมาร่วมกันพัฒนาสังคมไทยอย่างยั่งยืน 

    โดยภายในงานมีการเรียนเชิญผู้ทรงคุณวุฒิที่มาก ด้วยประสบการณ์ และเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง จำนวน 14 ท่าน มาร่วมเสวนาบนเวที ในประเด็นที่หลาก หลาย อาทิ แนวคิดการพัฒนาเมือง โดยไม่พึ่งพาส่วน กลาง, แนวคิดการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แบบเกื้อกูล กับชุมชน การออกแบบที่ยั่งยืน ไปจนถึงการมองภาพ ประเทศไทยจากอดีตไปสู่อนาคตอีกด้วย 

“เติมพลังให้คนรุ่นใหม่ เพื่อเปิดรับการเปลี่ยนแปลง ครั้งยิ่งใหญ่ของโลก”

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : HINT MAGAZINE