บอกลา 10 นิสัยยอดแย่
เบื่อใช่ไหมกับชีวิตช้ำๆ เดิม พอกันทีกับชีวิตพังๆ ลองบอกลา 10 นิสัยยอดแย่ที่เรามักทำซ้ำๆ ดูเสียใหม่ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ชีวิตก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เคยสงสัยไหมว่า ทำไมเพื่อนบางคนถึงประสบความสำเร็จทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ขณะที่ชีวิตของเรายังลุ่มๆ ดอนๆ
หนทางสู่อนาคตถึงแม้ว่าจะไม่มืดมน แต่ก็ริบหรี่เลือนรางเหลือทน แทนที่จะนั่งตัดพ้อในความไม่ยุติธรรมของโชคชะตา ปล่อยให้อาการชีวิตเฉาๆ เรื้อรังจนเกินเยียวยา สู้ใจกล้าๆ ลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง เพื่อแก้นิสัยยอดแย่ที่เป็นเหมือนยาพิษมาถอนพิษด่วนดีกว่า ด้วยเคล็ดลับจากคนดังเหล่านี้
1.หยุดมองว่าโอกาสผ่านไปไม่กลับมา
ริชาร์ด แบรนสัน เจ้าของธุรกิจเครือเวอร์จิ้น กล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า โอกาสในการทำธุรกิจก็เหมือนการรอรถเมล์ ไม่นานก็จะมีคันใหม่ผ่านเข้ามา หน้าที่ของเราคือ ประเมินทุกโอกาสที่ผ่านเข้ามาในชีวิตอย่างระมัดระวัง และแทนที่จะมัวนั่งเศร้าหรือเสียใจที่พลาดบางโอกาสไป เราต้องใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และบอกกับตัวเองเสมอว่า ยังมีโอกาสอื่นๆ พร้อมจะผ่านเข้ามาใหม่เสมอ
2.เลิกยึดติดกับความสมบูรณ์แบบที่ไม่มีอยู่จริง
ไม่มีใครบนโลกนี้ที่จะเพอร์เฟกต์ 100% เชอรีล แซนด์เบิร์ก หญิงเก่งและแกร่งจากทีมผู้บริหารเฟซบุ๊ก เคยบอกว่า หากคุณไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองลื่นล้มหรือไถลออกนอกเส้นทางบ้าง คุณจะไม่มีวันได้พาตัวเองออกจากคอมฟอร์ตโซน หรือพาตัวเองไปสู่ความสำเร็จในวิถีทางใหม่ คนที่ประสบความสำเร็จมากๆ ส่วนใหญ่ไม่กลัวความผิดพลาด แต่เลือกเก็บความล้มเหลวไว้เป็นบทเรียนหนึ่งของการเรียนรู้
3.อย่ารอคำชื่นชมจากปากคนอื่น
เพราะคุณก็สร้างมันเองได้ ด้วยการสละเวลาเล็กน้อยในแต่ละวันบันทึกสิ่งดีๆ เก็บไว้เป็นไดอารี่ และเมื่อใดที่รู้สึกท้อใจหรือต้องการเรียกความเชื่อมั่น ก็หยิบขึ้นมาอ่านทบทวนเพื่อจุดพลังแห่งความสุขให้กลับมาอีกครั้ง
4.เลิกทำร้ายตัวเองด้วยคำพูดแย่ๆ
มีการศึกษาพบว่า คนเราพูดกับตัวเองมาถึง 300-1000 คำต่อนาที เพราะฉะนั้นหากใน 1 วัน คุณมี 1,440 นาที คุณต้องคิดให้ดีว่าจะเลือกพูดกับตัวเองด้วยถ้อยคำแบบไหน ที่ทำให้ชีวิตคุณมีแต่ความก้าวหน้าและพบแต่ความสุข
5.เลิกเป็นคนขี้แพ้
ในเมื่อไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ดีเลิศไปซะทุกอย่าง ปฏิกิริยาด้านลบต่อการกระทำหรือผลงานของเราจึงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา สิ่งสำคัญคือ ตั้งรับอย่างไรเวลาถูกวิพากษ์วิจารณ์ บอกเลยขอให้คิดใหม่ ทำใหม่ เลิกวิ่งหนีและหันมาเผชิญกับความเป็นจริง ตะโกนบอกตัวเองดังๆ ว่า บาดแผลจากการถูกวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้จะเป็นหนทางพาคุณไปสู่ความสำเร็จ
6.เลิกติดกรอบกับดักความคิด
สตีเว่น โควี่ ผู้เขียนหนังสือ 7 Habits of Highly Effective People บอกว่าเขาเลือกมองทุกอย่างรอบตัวเป็นโอกาสเสมอ เพราะเขาเชื่อว่าคนเราไม่ควรจำกัดกรอบตัวเองด้วยกรอบความคิดบางอย่างจนตัดโอกาสที่จะลงมือทำสิ่งต่างๆ
7.หยุดสงสัยในความสามารถของตนเอง
อย่าปล่อยให้ความคิดของคุณกลายเป็นฆาตกรที่ทำลายความฝัน เมื่อใดที่รู้สึกว่าตัวเองต้องการเรียกคืนความมั่นใจที่เคยมี แต่ทำหล่นหายไปตอนไหนไม่รู้ แค่ลองนั่งลิสต์ความสามารถ ความสำเร็จที่คุณภูมิใจแล้วหยิบมาทบทวนบ่อยๆ อย่างน้อยในวันที่คุณรู้สึกแย่ๆ คุณก็มีเหตุผลมากมายที่จะบอกตัวเองว่าคุณก็ดีพอ8.อย่าปล่อยให้อารมณ์เป็นใหญ่
เชื่อหรือไม่ว่าเวลาที่คนประสบความสําเร็จในชีวิตต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่เปราะบางทางอารมณ์ พวกเขามักเลือกใช้ความนิ่งสยบความเคลื่อนไหว ไม่ปล่อยให้อารมณ์พาไปจนเสียงานใหญ่ พวกเขามักทำใจร่มๆ รอให้สติที่กระเจิดกระเจิงกลับคืนมาเต็มร้อย จึงค่อยคิดค่อยทำการใหญ่ต่อไป นี่เองคือไม่ไปทำให้พวกเขาพบความสำเร็จและความสุข
9.เลิกอยู่ในสังคมที่มีแต่คนคิดลบ
ถ้าเปรียบเทียบคนที่มีทัศนคติลบเป็นเชื้อโรคชนิดหนึ่ง บอกเลยว่าใครที่อยู่ใกล้เชื้อโรคตัวนี้ให้รีบหนีด่วนก่อนจะเป็นโรคติดต่อ เพราะการปล่อยให้ตัวเองรับความคิดลบๆ มาเรื่อยๆ ไม่เพียงทำให้คุณรู้สึกแย่ไม่มีความสุข แต่ยังบันทอนแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้มอดไหม้ไปด้วย
10.หยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
ชีวิตคนเราก็เหมือนเกมกีฬา เราไม่ได้เป็นที่1 ในทุกสนามเสมอไป บางครั้งก็ยังต้องวิ่งตามหลังคนอื่น แต่นั้นไม่ใช่ปัญหา เพราะชีวิตของคนเราไม่ใช่การวิ่งผลัด แต้ป็นการวิ่งมาราธอน วันนี้ผลงานของคุณอาจจะยังไม่ดี แต่จากนี้อีก 10 ปี เมื่อคุณได้พัฒนาตัวเองคุณก็จะแซงหน้าคนที่เคยอยู่ข้างหน้าคุณมาก่อนก็ได้ เพราะฉะนั้นแทนที่จะจมอยู่กับความรู้สึกแย่ๆ เมื่อเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น สู้หันมาให้กำลังใจตัวเอง และลุกขึ้นสู้เพื่อพัฒนาตัวเองดีกว่า
ขอบคุณข้อมูลจาก www.thaihealth.or.th