สุขหรือทุกข์ ขึ้นอยู่กับมุมมอง
ผมฟังธรรมะของ หลวงพ่อ ไพศาล วิสาโล ท่านเล่าว่า มีหมอฟันคนนึง ที่เป็นเซียนหุ้น เล่าว่า มีคุณป้าคนนึงที่ห้องค้า ได้กำไรหุ้น 10 ล้าน หมอคนนี้ก็แสดงความยินดีกับป้าคนนี้ว่า ยินดีด้วยนะป้า
ป้าตอบว่ายินดีอะไรล่ะ ถ้าป้าขายหุ้นช้ากว่านี้ สองอาทิตย์ป้าจะกำไร 20 ล้าน แล้วอีกไม่กี่วันต่อมา หมอฟันก็ไม่เจอป้าคนนี้ เลยถามคนในห้องค้าก็ได้ยินว่าป้าคนนี้เครียดจัดจนเข้าโรงพยาบาล
คนทั่วไปอ่านแล้วคงบอกว่า ป้าโง่หรือเปล่า กำไร 10 ล้านยังเครียดจนเข้าโรงพยาบาล มุมมองของคนทั่วไปคือป้ากำไร 10 ล้าน แต่มุมมองของป้าคือ ป้าทำเงินหายไป 10 ล้าน
โอ้ว คนที่ได้เงิน 10 ล้านกลับเครียดเพราะคิดว่าตัวเองทำเงินหายไป 10 ล้าน จริงๆแล้วถ้าเป็นคนทั่วไปคงดีใจจนช็อคตาย
ช่วงปีใหม่ผมให้เงินคนรถผมใช้พิเศษ 3000 เขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ยิ้มจนปากจะฉีกถึงรูหู คนทั่วไปถูกหวย 3000 ก็ดีใจโม้ไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ แต่นี่กำไร 10 ล้านเครียดจนเข้ารพ ผมว่าความสุขในชีวิตมันขึ้นอยู่กับเราจะมองว่า เราได้หรือเราเสีย
ช่วงปี 2013 ผมเคยมีหุ้น intuch 4 ล้านหุ้นทุน 70 กว่าบาท หุ้นขึ้นไป 100 บาท ผมไม่ได้ขาย ไม่กี่เดือนหุ้นลงมาเหลือ 75 สรุปผมขายหุ้นเท่าทุน ถ้าผมคิดแบบป้า ผมคงต้องไปนอนในโลงศพแล้ว ไม่ใช่แค่เข้ารพ เพราะกำไรผมหายมากกว่าป้าเป็น 10 เท่า แต่ผมเลือกมองในแง่ดีว่า เมื่อ 10 ปีก่อนผมคือคนที่มีเงินแค่ 1 แสนบาท ถึงกำไรจะหายเป็น 100 ล้าน แต่ก็ถือว่าเรามาได้ไกลมากแล้ว เล่นหุ้นก็ต้องมีกำไรมีขาดทุน กำไรตลอดเวลาคงรวยกว่าบัฟเฟตไปแล้วช่วงปี 2553 ที่มีเผาเมืองมีร้านสุกี้แห่งนึงโดนเผาไป 4 สาขา ผจก สาขาเครียดมากไปบอกเจ้าของว่า เสียหายหลายสิบล้าน เจ้าของสุกี้กับ ชิวๆ บอกว่าไม่เป็นไรเรามี 300 กว่าสาขา โดนไฟใหม่ไปแค่ 4 สาขาโชคดีแล้ว ถ้าเป็นคนทั่วไปคงมองว่า 4 สาขานี้ทำไมต้องโดนไฟไหม้ด้วย(ว่ะ) แล้วก็ด่าๆๆ อันนี้คือเขาเลือกจะมอง 300 สาขาที่ยังดีอยู่ และมองข้าม 4 สาขาที่โดนเผา
หลวงพ่อ ไพศาลยังเทศน์ว่า จริงๆแล้วเราไม่ค่อยคิดว่าเรามีอะไรดีๆอยู่กับตัว เราจะคิดแต่ว่าเรายังขาดอะไรไป เช่น เราคิดว่าทำไมเราไม่สวยเท่าเพื่อน เราไม่รวยเท่าเพื่อน แต่เราไม่เคยเห็นคุณค่าของการที่เรามีอวัยวะครบ 32
ลองจินตนาการดูว่าถ้าวันนึงเราเกิดอุบัติเหตุใหญ่แล้ว เดินไม่ได้อีกเลย ต้องนั่งแต่รถเข็นตลอดชีวิต เราจะอยากสวย อยากรวยไหม
เราคงไม่ต้องการอะไรมาก ขอแค่มีขาเดินได้เหมือนคนทั่วไปก็พอแล้ว แต่ทุกวันนี้เรามีขาเดินได้เราเคยนึกขอบคุณขาไหม อะไรแบบนี้
เมื่อก่อนตอนเข้าตลาดหุ้น ไอดอลหุ้นของผมคือที่รวยที่สุด แต่เดี่ยวนี้ผมไม่ได้คิดแบบนั้นแล้ว ไอดอลของผมเป็นคนที่เก่งเรื่องหุ้นระดับนึงและมีความสุขกับการลงทุน ผมไม่ได้นับถือคนมีเงินเป็นพันล้านถ้าเขาเอาแต่หาเงินจนไม่มีความสุขอะไรในชีวิตสมมุติวันหยุดแทนที่จะได้ไปเที่ยวแต่ต้องไปวิสิทตลอด ไม่ค่อยมีเวลาครอบครัวเพราะเอาแต่อ่านข่าว ทำข้อมูลทั้งๆที่รวยจนเกินพอ ผมไม่อยากมีชีวิตแบบนั้น
เพราะจริงๆแล้วคนมีเงิน 1000 ล้าน กับ 50 ล้าน คงไม่ได้ใช้ชีวิตต่างกันมาก..
ขอบคุณข้อมูลจาก longtunman.com