หลายคนคงคุ้นๆ กับชื่อประกันรถยนต์ที่เรียกกันเป็นชั้นๆ เช่น ชั้น 1,2,2+ แต่น้อยคนที่จะใส่ใจว่าประกันแต่ละชั้นให้ความคุ้มครองอะไรยังไงบ้าง จะมาใส่ใจจริงๆ ก็คือตอนที่ต้องเลือกซื้อประกันรถยนต์รายปีกันเท่านั้นเอง ดังนั้นเพื่อให้การตัดสินใจไม่ผิดพลาด เรามาดูกันว่าประกันแต่ละชั้นตอบโจทย์อะไร และคุ้มครองอะไรบ้าง


ประกันรถยนต์ชั้น 1
เป็นประกันที่คุ้มครองครบถ้วนที่สุด ทั้ง อุบัติเหตุจากการชนสามารถเกิดได้จากทั้งรถยนต์ชนกันเองหรือจากการเฉี่ยวชนสิ่งอื่นๆ นอกจากนี้ประกันรถยนต์ชั้น 1 ยังคุ้มครองค่าเสียหายจากภัยธรรมชาติ น้ำท่วม พายุลูกเห็บ ไฟไหม้ แผ่นดินไหว การขโมย รวมถึงการก่อการร้ายด้วย ประกันชั้น 1 เหมาะกับรถใหม่และมือใหม่หัดขับ ที่ยังไม่มีความชำนาญมากนัก เวลาซื้อรถใหม่ก็มักแถมประกันชั้น 1 มาด้วย และแน่นอนว่าราคาของการคุ้มครองที่มากที่สุด ก็ต้องสูงที่สุดไปด้วย

 

  
ประกันรถยนต์ชั้น 2+
เป็นรองประกันชั้น 1 ตรงที่ เคลมได้เฉพาะเมื่อเรามีคู่กรณีหรือรู้เลขทะเบียนคู่กรณีเท่านั้น คือคุ้มครองเฉพาะรถชนรถนั่นเอง แต่ถ้าโดนชนแล้วหนี แต่ไม่รู้ทะบียนคู่กรณีก็เคลมไม่ได้เหมือนกัน และประกันรถยนต์ชั้น 2+ ยังให้ความคุ้มครองอื่นๆ เช่น รถหาย รถไฟไหม้ ภัยธรรมชาติ เว้นแต่การก่อการร้ายที่ในไทยมีเพียงกรุงเทพประกันภัยกับอีกบริษัทที่ให้ความคุ้มครองส่วนนี้ และปม้ความคุ้มครองจะลดลงไปบ้าง แต่เบี้ยประกันกลับหายไปเยอะทีเดียว เซลล์ขายประกันจึงมักนิยมเสนอประกันประเภทนี้ให้กับรถที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไป ผู้ขับมีความชำนาญแล้ว และขับไม่ไกลไปทางเดิมเป็นประจำ


ประกันรถยนต์ชั้น 3+
ประกันรถยนต์ที่เพิ่มความคุ้มครองจากชั้น 3 ขึ้นมาให้ เคลมได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนแบบมีคู่กรณี (รถชนรถ) บริษัทประกันจะดูแลทั้งรถของเราและคู่กรณี และเช่นเดียวกับประกันชั้น 2+ ต้องพิสูจน์ได้ว่าคู่กรณีเป็นใคร ส่วน รถหาย ไฟไหม้ ภัยธรรมชาติ ประกันไม่ครอบคลุมในส่วนนี้ แต่ข้อดีของประกันชั้น 3 คือราคาไม่แพง ส่วนมากอยู่ที่ระหว่าง 4,000 – 5,000 บาท เหมาะกับรถที่ใช้งานน้อย เสี่ยงต่ออุบัติเหตุน้อย ส่วนมากเป็นรถที่มีอายุเยอะ คนขับขับเก่งแล้ว


ประกันรถยนต์ชั้น 3
ส่วนประกันชั้น 3 เป็นประกันรถยนต์ที่ คุ้มครองรถของคู่กรณีเท่านั้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุจาการชน คือถ้าเราขับรถไปชนคนอื่นเราต้องซ่อมรถตัวเอง แต่ต้องสามารถบอกเลขทะเบียนของคู่กรณีได้ด้วย ประกันรถยนต์ชั้น 3 ก็เป็นประกันที่ไม่มีอะไรให้อีกเลย ดังนั้นราคาเบี้ยประกันก็น้อยสมความคุ้มครอง ซึ่งประกันชั้น 3 นี้ เหมาะกับรถที่แทบไม่ออกไปวิ่งบนถนน จอดทิ้งไว้ในบ้านเป็นส่วนใหญ่

ขอบคุณข้อมูล จาก :frank.co.th ประกันภัยรถยนต์ที่รวดเร็ว เรียบง่าย และจริงใจกับคุณ