กินอะไรดีที่...โตเกียว

            โตเกียว หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า มหานครโตเกียว เมืองหลวงของ ประเทศญี่ปุ่น เมืองในฝันอันดับต้นๆของใครหลายคนที่หากจะเก็บกระเป๋าและเดินทางไปต่างประเทศสักครั้งต้องเลือกไป ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีทั้งแนวโบราณสถาน วัดและศาลเจ้า สวนสาธารณะสวยๆที่สามารถชมดอกซากุระบานได้อย่างเต็มอิ่มแต่ที่พลาดไม่ได้เลย คือ เป็นแหล่งช้อปปิ้งและแหล่งบันเทิงหลากหลาย รวมถึงร้านอาหารมากมายที่มีอยู่ทุกตรอกซอกซอยให้เลือกกินกันอย่างละลานตา

            ซึ่งร้านอาหารยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่พลาดเมื่อไปเยือนโตเกียว นั่นก็คือ ซูชิ อาหารญี่ปุ่นที่ทานง่ายถูกปากและหาได้ง่ายมีอยู่แทบจะทุกที่ใน โตเกียว มีหน้าให้เลือกหลากหลาย มีราคาตั้งแต่ถูกจนไปถึงแพง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของกระเป๋าสตางค์แต่ละท่าน ไม่ได้มีแต่ซูชิเท่านั้นที่เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งหลาย แต่ยังมีอาหารอีกมากมายเช่น เทมปุระ ราเมน ปิ้งย่าง ข้าวต่างๆ ที่ให้เลือกสรรกันอย่างจุใจ

            ร้านแรกที่อยากแนะนำหากจะทานซูชิคือร้าน Midori Sushi สาขา Shibuya อยู่ในตึก Maขrk city ชั้น 4 หากจะทานซูชิร้านนี้อาจจะต้องรอคิวนานสักหน่อย เพราะแถวจะยาวมากๆ รออย่างน้อยประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ก็คุ้มค่ากับการรอคอย เพราะวัตถุดิบสดใหม่และคุณภาพดีมากๆ ไปดูหน้าตาของเซ็ตอาหารกันดีกว่า

อยากทานอะไรก็สามารถสั่งเชฟได้เลย

ชุดนี้เป็นเซ็ตที่สั่งมา ชอบที่สุดก็เห็นจะเป็นกุ้งเพราะสดและรสชาติหวานมาก

สลัดมันปู มาคู่กับผักสด จะมีให้กับทุกเซ็ตอาหาร แต่จะเล็กกว่านี้ ส่วนจานนี้สั่งเพิ่มมาอีก โดยส่วนตัวคิดว่ามันปูร้านนี้อร่อยที่สุดตั้งแต่ทานมา

สเปิร์มปลาคอต หรือ Shirako รสชาติมันๆเหมือนไข่ตุ๋น มากับซอสพอนสึ ตัดเลี่ยนได้ดี โดยส่วนตัวชอบมาก

ซูชิหน้าไข่ปลาแซลม่อนที่ใส่ไข่ปลามาทั้งพวง หรือเรียกว่า Nama Sujiko ทานคู่กับสาหร่ายที่วางมาให้ รสชาติเค็มแต่ทานยากรู้สึกว่าเยื่อที่ติดมากับไข่ปลาค่อนข้างเหนียว

          ซูชิร้านต่อไปเป็นร้านขวัญใจคนไทยหลายๆคนนั่นก็คือ ซูชิหน้าล้น หรือร้าน Miuramisaki Kou อยู่ในตลาดอเมโยโกะ ย่านอุเอโนะ ร้านนี้เป็นร้านซูชิสายพาน จุดเด่นของซูชิร้านนี้คือ หน้าของซูชิแต่ละจานจะล้นออกมาอย่างเห็นได้ชัด ราคาก็ขึ้นอยู่กับสีของจานแต่ละจาน ตรงด้านหน้าจะมีราคาบอกไว้ชัดเจน หากให้อธิบายก็คงอธิบายไม่ถูกถ้าอย่างนั้นให้ภาพเล่าเรื่องเองก็แล้วกัน

ซูชิหน้าล้นจริงๆ ล้นออกจนหาข้าวไม่เจอ

          ร้านต่อไปเปลี่ยนมาเป็นแนวปิ้งย่างกันบ้าง อยู่ในตลาดอเมโยโกะเช่นกันชื่อร้าน Isomaru Suisan ร้านนี้เป็นร้านอาหารทะเล พร้อมกับมีเตาเล็กๆให้เราปิ้งได้เอง บรรยากาศร้านดีถูกตกแต่งให้เหมือนกับเรือ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศที่มาดื่มกินหลังเลิกงาน อาหารที่จะสั่งแทบทุกโต๊ะก็คือ หอยต่างๆ ที่นำมาย่างบนเตา และที่ขาดไม่ได้คือมันปูที่ถูกนำมาใส่ในกระดองย่างบนเตาไฟ ไปชมภาพประกอบกัน

บรรดาหอยชนิดต่างๆเช่น หอยซาซาเอะ,หอยโฮตาเตะ ซึ่งตัวใหญ่มากๆ , หอยฮกกิไก หรือหอยปีกนก และหอยตลับ ทางร้านจะจัดใส่พาชนะมาให้แล้วแต่เราจะสั่ง

 มันปูอันนี้อร่อยมาก แต่รสชาติจะออกหวานไปนิดๆ 

แนะนำว่าเวลาย่างหอย ใส่เพียงซอสพอนสึอย่างเดียวพอ เพราะโชยุร้านนี้เค็มมากทำให้เสียรสชาติ

กุ้งเสียบไม้หากย่างจนได้ที่สามารถกินได้ทั้งเปลือกเลยไม่ต้องแกะ ทางร้านจะมีมะนาวมาให้ด้วย ย่างกุ้งเสร็จก็นำมานาวมาถูๆ อร่อยมาก

กุ้งตัวเล็กๆนำมาทอดเหมือนเท็มปุระ เคี้ยวเพลินมากๆ

           เปลี่ยนจากย่านอุเอโนะมาแถบฮาราจูกุกันบ้างย่านนี้หากเปรียบกับประเทศไทยคงเหมือนสยามสแควร์ เป็นเหมือนแหล่งรวมวัยรุ่นของญี่ปุ่นเลยทีเดียว มีร้านอาหาร และร้านขนมมีเรียงรายอยู่ตามซอกซอยอย่างหนาตา มีคาเฟ่เล็กๆ อยู่เต็มสองข้างทาง

           ร้านที่อยากแนะนำหากมาแถวฮาราจูกุคือร้าน Luke’s Lobster ร้านนี้อยู่ย่าน Omotesando ต้องเดินเข้ามาใน Cat Street เป็นร้านเล็กๆที่คิวคนรอซื้อเยอะมาก ขายขนมปังที่ใช้ไส้เป็นกุ้งล๊อบสเตอร์ และมีไส้กุ้งกับไส้ปูแบบเนื้อเน้นๆ ราคาสูงพอสมควร แต่น่ากินมาก แนะนำให้มาตอนเช้าเพราะช่วงกลางวันคนจะเยอะมาก 

ขนมปังที่ใช้จะอุ่นๆและค่อนข้างกรอบส่วนไส้เป็นกุ้งล๊อบสเตอร์และปูเย็นๆ ดูไม่ค่อยเข้ากันแต่อร่อยมาก

             อีกร้านที่ห้ามพลาดมีสาขาอยู่หลายที่ทั่วโตเกียว คือร้าน Ichiran Ramen หรือ ราเมนข้อสอบ ร้านที่ไม่ว่าจะไปสาขาไหนก็คิวยาวตลอด โดยส่วนตัวชื่นชอบที่อร่อยมากๆโดยที่ไม่ต้องปรุง แทบจะกินทุกวัน แต่ติดที่คิวยาวมากทุกสาขา น้ำซุปของทางร้านทำออกมาได้ดีมากๆ บวกกับเส้นราเมน และหมูชาชูที่นุ่มมาก รสชาติไม่เลี่ยน

ใช้เวลายืนรอประมาณ 40 นาที ก็ได้ที่นั่งแล้ว

ชอบอะไรก็วงกลมไปได้เลย

          มาต่อกันที่ย่านสุดท้ายที่ไม่ควรพลาดหากมาเที่ยวโตเกียวคือ ตลาดปลาซึคิจิ Tsukiji Market สถานที่ยอดนิยมที่เหล่านักท่องเที่ยวต่างชื่นชอบ เพราะเต็มไปด้วยร้านอาหารเรียงรายสองข้างทาง ส่วนใหญ่จะเป็นร้านซูชิ ร้านเทมปุระ และอาหารที่พร้อมทาน สามารถยืนกินที่หน้าร้านได้เลย

ซูชิหน้าล้นประจำตลาดปลาซึคิจิ พันด้วยฟองเต้าหู้ วัตถุดิบสดมาก เอาไป 10 คะแนน ราคาอยู่ที่ 800 เยน ต่อคำ

ส่วนทะเลย่างอันนี้ 1,000 เยน อร่อยมากโดยเฉพาะน้ำซุปในฝาหอย แนะนำว่าให้ลองกิน

หมูผัดผงหมาล่า ชามนี้รวมนำ้หนัก 1.5 กิโลกรัม อร่อยแต่กินไม่หมด

หอยซาซาเอะย่าง

ไข่หอยเม่นมีอยู่หลายร้านเลือกเอาตามความเหมาะสม

ตู้กดน้ำมีอยู่ทุกที่ ชอบที่สุดตรงมี ไวไฟให้ใช้ ยืนกินที่ตู้แล้วก็ทิ้งขยะที่ตู้นั้นเลย ไม่ต้องถือเดินกินเพราะคุณจะหาถังขยะไม่เจอ ส่วนตัวชอบมากเพราะทำให้ทุกๆที่สะอาดและเป็นระเบียบ

          ทั้งหมดนี้เป็นเพียงร้านอาหารส่วนหนึ่งในโตเกียว หวังว่าคงเป็นแนวทางให้กับผู้อ่านหลายๆคนที่จะเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น ยังมีอีกหลายๆร้านที่รอให้ผู้อ่านไปสัมผัสด้วยตัวเอง การทานอาหารที่ญี่ปุ่นหากเป็นเป็นร้านที่ไม่มีที่ให้นั่ง แนะนำว่าให้ยืนกินที่ข้างๆร้านนั้นเลย ไปควรเดินไปกินไปเพราะอาจจะดูไม่งามและบวกกับไม่มีถังขยะให้ทิ้ง เวลากินเสร็จก็ฝากร้านที่เราซื้อมาทิ้งได้เลย เพราะคนญี่ปุ่นใจดีมากบางครั้งเค้าอาสาขอทิ้งให้เราเอง อาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กๆแต่จุดเล็กๆนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้บ้านเมืองเค้าสะอาด อย่างไรก็ตามหากไปเที่ยวที่ไหนก็ควรทำตามกฎระเบียบของประเทศนั้นๆ ดังคำพูดที่ว่า เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม จะช่วยให้เราเป็นนักท่องเที่ยวที่ดีและมีความสุขในการเที่ยวมากขึ้น