เปลี่ยน Gen Y ให้กลายเป็น “ลูกค้าประจำ”
ปัญหาปวดหัวอย่างหนึ่งของหลายๆธุรกิจคือ ลูกค้าเปลี่ยนแปลงเร็วจนปรับตัวไม่ทัน นักการตลาดทั้งแงะ ทั้งงัดกลยุทธ์กันครบทุกเม็ดออกมา ก็อาจจะสร้างยอดขายได้ชั่วขณะหนึ่ง แต่ที่น่าหนักใจคือลูกค้าไม่มี “Brand Loyalty” หมายถึงยังไม่สามารถมัดใจให้กลายเป็นลูกค้าขาประจำได้นั่นเอง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าลูกค้ากลุ่มหลักของแทบทุกธุรกิจทุกวันนี้คือ Gen Y ที่กำลังจะกลายเป็นกลุ่มประชากรที่ใหญ่ที่สุดของไทย หากจะบอกว่าเข้าใจ Gen Y ยากจัง ไม่อยากสนใจก็คงทำไม่ได้ เอาล่ะ วันนี้ TerraBKK สรุปหนทางที่อยากมัดใจเปลี่ยน Gen Y ให้กลายเป็น “ลูกค้าประจำ” ว่า Key หลักๆแล้วต้องทำอย่างไร แต่บอกไว้ก่อนเลยว่าแทบจะต้องล้มความคิดการตลาดแบบเดิมๆไปเลย ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จัก Gen Y กันก่อน
Gen Y คือใคร? ทำไมต้อง Gen Y
Gen Y คือกลุ่มคนที่เกิดอยู่ในช่วง พ.ศ.2523 – 2537 หรือคนที่อยู่ในช่วงอายุ 23-37 ปี (เช็คอายุด่วนว่าเรายังอยู่ใน Gen Y ไหม?) ซึ่งหากพูดๆกันแล้วก็คือกลุ่มคนที่อยู่ในช่วงที่เพิ่งเริ่มทำงาน (First Jobber) ไปจนถึงวัยกลางๆที่เริ่มอยู่ในตำแหน่งบริหารแล้ว และนี่คือเหตุผลว่าทำไมต้อง Gen Y เพราะหากดูจากช่วงวัยทำงาน กลุ่มนี้ก็เริ่มมีกำลังซื้อแล้ว และสามารถตัดสินใจได้เอง ไม่ต้องรอผู้ปกครองเหมือนเด็กๆแล้ว
ความสามารถอีกอย่างหนึ่งที่เราๆ รู้กันดีคือ การปรับตัวอย่างรวดเร็วของ Gen Y เพราะพวกเขาโตมาในยุคที่เปลี่ยนจาก Analog มาเป็น Digital ทำให้เราเห็นแล้วว่าคน Gen Y ปรับตัวได้เก่งขนาดไหน ที่ในช่วงยุคต้น พวกเขาเกิดมาในยุค Analog แต่โตขึ้นมาท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของ Digital เสมือนภาพตัด เพราะทุกอย่างถูกเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ผลพลอยได้ของวิวัฒนาการนี้คือ Gen Y ผู้ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง และ Gen Y เป็นผู้ที่เสพติดอินเตอร์เนต เพราะพวกเขารู้แล้วว่ามันทำให้สะดวกสบายเพียงใดเมื่อเทียบกับสมัยก่อน
มัดใจ Gen Y ให้กลายเป็น “ลูกค้าประจำ”
แต่เห็นแบบนี้ก็ต้องบอกเลยว่าการเอาใจ Gen Y ยากพอๆกับการเข้าใจผู้หญิงซะอีก (แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรยากกว่ากันแน่) นิสัยขี้เบื่อ พร้อมเปลี่ยนแบรนด์ได้ทุกเมื่อที่เจอแบรนด์ใหม่ นักการตลาดต้องปวดหัวครั้งแล้วครั้งเล่ากับการดึงลูกค้ากลับมา ทำได้อย่างมากคือการออกโปรโมชันแบบฉาบฉวย ดึงลูกค้ามาแล้วสุดท้ายก็หายไปอีก แล้วทำยังไงล่ะให้ลูกค้า Gen Y รักเราไปนานๆ
- จริงใจและตรงไปตรงมา
ถ้าพูดถึงในแง่การโฆษณาแล้ว Gen Y ไม่ชอบการ tie in ที่ไม่เนียน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากในยุคนี้ เพราะอย่างที่รู้กันว่า Gen Y จับโป๊ะเก่งแค่ไหน เรียกได้ว่า “ยิ่งพยายามเนียน ยิ่งไม่เนียน” แถมทำให้พวกเขา anti ด้วยซ้ำ ด้วยการ tie in ที่มันขัดตา หลายแบรนด์ปรับใหม่แบบพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือคือ บอกตรงๆเลยว่า “ขายของนะจ๊ะ” จบ. ง่ายๆ จริงใจ ไม่ต้องพยายามเนียน แบบนี้นอกจากลูกค้าไม่ anti แล้วกลับขำกับความตรงของแบรนด์เสียด้วยซ้ำ
- ยูนีค แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร
“ความแปลก” เป็นอีกสิ่งที่ Gen Y ให้ความสนใจมากกก อย่าลืมว่าคนกลุ่มนี้ “ไม่เคยกลัวการเปลี่ยนแปลง” อะไรที่ยิ่งแปลกยิ่งอยากลอง ไม่ว่าจะเป็นตัว Product หรือ Packaging ก็ตาม เพราะอะไรน่ะหรอ... เพราะพวกเขาไม่ได้เสพแต่ตัว benefit ของ product เท่านั้นนะ แต่ยังมี activity อื่นอีก... ไปดูข้อต่อไปเลย
- เหนือกว่า Functional คือต้องถ่ายรูปลง Social ไม่อายใคร
อย่าลืมว่าจุดเด่นอย่างหนึ่งของ Gen Y คือเป็นคนที่เชื่อมต่อ social network ตลอดเวลา การมี product ในมือที่มีดีไซน์แปลกตา แน่นอนว่าพวกเขาถ่ายรูปลง Social Network ทันที (แม้ว่าแบรนด์จะไม่ได้จัดแคมเปญแข่งถ่ายรูปก็ตาม) เรียกว่าได้ 2 ต่อเลย คือได้ใจ Gen Y แถมยังได้โปรโมทไปฟรีๆแบบไม่เสียพื้นที่สื่ออีกต่างหาก
นอกจากนี้ คำว่า “เหนือกว่า Functional” นี้ ไม่เพียงแต่ถ่ายรูปโชว์แล้ว แบรนด์คุณเองต้องมี Personality ที่สามารถสร้างความภาคภูมิใจให้กับ Gen Y ที่ได้ครอบครองด้วย เรียกว่าโชว์ไปก็ไม่อายใครที่ฉันซื้อสินค้าชิ้นนี้มา
- รวดเร็วทันใจ ไม่ต้องรอ
สุดท้ายที่ดูเหมือนง่าย แต่เป็นเรื่องที่ยากที่สุดสำหรับการมัดใจ Gen Y ให้อยู่หมัด นั่นก็คือ “ความรวดเร็วทันใจในการให้บริการ” นั่นเอง เพราะ Gen Y ไม่ชอบรอคอย เช่น เมื่อมีการโต้ตอบใน inbox ต้องมีคน standby ที่สามารถโต้ตอบได้แบบ real time หรือแม้กระทั่งการ stock สินค้า ที่หากเพียงหายจากเชลฟ์วางของไปไม่กี่วัน พวกเขาสามารถเปลี่ยนเป็นแบรนด์อื่นแทนทันที ไม่มีการรอ เพราะพวกเขาไม่ได้มี Loyalty ที่มากพอนั่นเอง
ดังนั้น สมัยนี้การสร้างแบรนด์ให้มี value อาจจะไม่เพียงพอแล้ว เพราะต้องดูด้วยว่ากลุ่ม Gen Y รู้สึก valuable ไปกับคุณหรือเปล่า? อยากให้นักการตลาดกลับมาทำการบ้านกันใหม่อีกครั้ง เพราะการตลาดแบบดั้งเดิมที่ทำกันอยู่นี้มันอาจจะไม่เวิร์คเสมอไป มาเข้าใจและรู้จัก Gen Y ให้มากขึ้น เพื่อทำการตลาดให้ตรงจุดและไม่เสียเวลา - TERRABKK
บทความโดย : TerraBKK เคล็ดลับการลงทุน
TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก