Amazon Go | “Just walk out” ช้อปปิ้งง่ายๆ แค่หยิบของแล้วเดินกลับบ้าน
วันนี้ TERRABKK จะพาทุกท่านไปท่องอนาคต ด้วยการเดินเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ตโดยไม่ต้องพกเงินสดซักบาท อยากได้ชิ้นไหนแค่หยิบใส่ถุงแล้วเดินออกจากร้านได้เลย สบายใจได้ว่าคุณจะไม่ถูกยามรวบตัวโทษฐานลักขโมยของแน่นอน เพราะเงินค่าสินค้าก็จะถูกตัดจากบัญชีอัตโนมัติ ทั้งหมดเหมือนซูเปอร์มาร์เก็ตที่ถอดแบบมาจากโลกอนาคต แต่ผิดแล้ว เพราะซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ได้เปิดให้บริการแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 22 มกราคมที่ผ่านมานี้เอง ในชื่อ “Amazon Go”
Jeff Bezos เล่นใหญ่อีกครั้งเมื่อเขาเคยประกาศเอาไว้ว่าจะสร้างซูเปอร์มาร์เก็ตที่ทำให้คนซื้อไม่ต้องเข้าคิวต่อแถวด้วยคอนเซ็ปต์ “Just walk out” ไม่มีแคชเชียร์ ไม่ต้องควักกระเป๋าตังค์ออกมาจ่ายเงิน ทุกคนแค่มี Application Amazon เดินเข้าร้าน หยิบของ แล้วเดินกลับบ้านได้เลย ไอเดียของเขาถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมากเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ด้วยการปล่อยออกมาเป็นคลิปเรียกน้ำย่อยให้พวกเราได้ชมกัน และในวันนี้ก็ได้เปิดใช้บริการจริงๆแล้วภายใต้ชื่อ “Amazon Go” ซึ่งเปิดให้บริการที่ Seattle ใต้สำนักงานใหญ่ Amazon นั่นเอง
1. แค่ดาวน์โหลดและสแกน ก็ผ่านประตูเข้าไปช้อปได้ง่ายๆ
ด่านแรกก่อนจะเข้ามาใน Amazon Go ได้นั่นก็คือ คุณจะต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน Amazon แล้วใช้สมาร์ทโฟนสแกนตรงประตูก่อนเข้ามาพร้อมกับสัญญาณไฟ Go! เสมือนกับการหยิบตะกร้าเตรียมช้อปปิ้งในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป เพราะเมื่อคุณหยิบของแต่ละชิ้น ทุกอย่างจะถูกแอดเข้าระบบอัตโนมัติ โดยเช็คได้ที่แอพ Amazon ที่สแกนเข้ามาในตอนแรก2. ลูกค้าจะถูกจับตาด้วยกล้องและเซนเซอร์บนเพดานนับร้อยตัว
ที่มาภาพ: www.seattletimes.com
ถามว่าแล้วใน Amazon Go รู้ได้ยังไงว่าเราหยิบของอะไรบ้าง เมื่อเงยหน้าขึ้นไปข้างบนก็ได้พบคำตอบ เพราะภายในซูเปอร์มาร์เก็ตถูกติดตั้งกล้องตัวเล็กๆนับร้อยตัวที่เอาไว้จับภาพลูกค้าและจับเซนเซอร์ว่าพวกเขาหยิบอะไรใส่ถุงไปบ้าง โดยกล้องเหล่านี้ถูกติดเอาไว้ในระยะที่ถี่มาก ต่างกันแค่มุมมองเพียงนิดเดียว เพื่อไม่ให้พลาดทุกการจับเซนเซอร์ว่าใครช้อปอะไรกลับมาบ้าง แต่บอกก่อนว่าเซอเซอร์ตัวนี้ไม่ได้จับใบหน้านะแต่จับจากลักษณะของแต่ละคนที่เข้ามาช้อปปิ้ง
3. ไม่มีแคชเชียร์ ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีพนักงาน
แม้ใน Amazon Go จะล้ำขนาดไหนแต่ก็ยังต้องมีพนักงานอยู่ตามจุดต่างๆอยู่ดี เพราะการจัดสินค้า การเตรียมอาหาร หรือคอยให้ความช่วยเหลือลูกค้าก็ยังเป็นหน้าที่ของพนักงานอยู่ดี
4. แผนกเดียวที่ไม่ใช้ AI คือแผนกแอลกอฮอลล์
อีกจุดที่ต้องใช้พนักงานแทน AI นั่นก็คือแผนกขายแอลกอฮอลล์ โดยแผนกนี้จะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ตรงข้างหน้าเพื่อคอยตรวจบัตรประชาชนว่าอายุถึงหรือยังที่จะผ่านเข้ามาซื้อแอลกอฮอลล์ เพราะ AI ยังไม่ได้ล้ำถึงขนาดตรวจจับใบหน้าแล้วสามารถรู้อายุได้ (แต่ในอนาคตก็คงไม่แน่เช่นกัน)
5. เงื่อนไขข้อเดียวคือ “ถ้าไม่ต้องการให้คืนเชลฟ์ อย่าส่งต่อ”
แม้ว่าสินค้าทุกอย่างจะถูกคิดเงินแบบอัตโนมัติ แต่หากเราไม่ต้องการก็แค่วางคืนเชลฟ์ไปเหมือนเราเลือกซื้อสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปธรรมดาๆ แล้วสินค้าจะถูกตัดออกจากระบบอัตโนมัติทันที แต่มีข้อแม้เพียงอย่างเดียวคือ ถ้าไม่เอาให้ไปวางคืนที่เชลฟ์เท่านั้น ไม่ส่งต่อสินค้าให้ผู้อื่น เพราะสินค้าจะถูกนำเข้าระบบเพื่อรอชำระเงินทันทีที่คุณเป็นคนหยิบมันขึ้นมา ดังนั้นการส่งต่อให้ผู้อื่นจึงไม่นับว่าเป็นการวางสินค้ากลับเข้าไปในเชลฟ์
โมเดลของ Amazon Go ถือว่าน่าสนใจมาก ที่นอกจากจะเข้ามาปฏิวัติวงการ Retail แล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาทั้งลูกค้ายืนรอต่อคิวนานๆได้ด้วย แต่ทั้งนี้คงต้องดูในระยะยาวหรือในช่วง Peak Time ว่าหากเป็นจังหวะที่มีคนเข้ามาเยอะๆ เจ้าระบบ AI ที่ว่ายังจะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากพอหรือไม่ แต่ที่แน่ๆหากโมเดลนี้เวิร์ค เราคงได้เห็น Amazon Go นี้เพิ่มขึ้นอีกหลายสาขาเหมือนเซเว่นอย่างแน่นอน - TERRABKK