ทำเลย่าน "เตาปูน" ตอนนี้กลายเป็นอีกหนึ่งศูนย์รวมด้านการคมนาคมด้วยเส้นทาง รถไฟฟ้าสายสีม่วง จากฝั่งนนทบุรี เข้ามาเชื่อมต่อกับ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่มุ่งเข้าสู่ใจกลางเมืองกรุงเทพ ทำให้การเดินทางของประชาชนทั้ง 2 ฝั่งสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

            แน่นอนว่าราคาคอนโดฯในเมืองตามแนวรถไฟฟ้าตอนนี้ราคาก็สูงอย่างน่าตกใจ หลายคนจึงต้องเสาะแสวงหา คอนโดฯ บนทำเลดีๆ ให้เหมาะกับการอยู่อาศัย แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้า และที่สำคัญราคาต้องไม่แพงจนเกินไป เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี โดยไม่ต้องไปอดทนกับสภาพการจราจรในกรุงเทพฯที่แออัด โดยลักษณะของสถานีเตาปูนที่เชื่อมรถไฟฟ้าทั้งสองสายที่มีลักษณะเส้นทางแตกต่างกัน คือเชื่อมระหว่างรถไฟฟ้าชานเมืองและรถไฟฟ้าใจกลางเมือง ทำให้ สถานีเตาปูน มีความคล้ายคลึงกับ สถานีอูเอโนะ เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ และอูเนโนะ สเตชั่น

         สถานีอูเอโนะ เป็นสถานีรถไฟแห่งหนึ่งในเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยมีรถไฟที่ผ่านสถานีอูเอโนะด้วยกันทั้งหมดถึง 14 สาย ถึงแม้จำนวนของรถไฟที่ผ่านสถานีอูเอโนะจะมีจำนวนมากกว่า สถานีเตาปูน ซึ่งมีรถไฟฟ้าผ่าน 2 สาย แต่ความคล้ายคลึงของสถานีทั้งสองนี้คือ การเป็นหนึ่งในสถานี Interchange ของสายรถไฟที่วิ่งวนลูปเป็นวงกลม โดยเป็นเส้นที่วิ่งผ่านใจกลางเมืองนั่นเอง

            แผนที่เส้นทางรถไฟของเมืองโตเกียวทั้งหมด ทำให้เห็นภาพของ รถไฟสายสีเขียว หรือ สายยามาโนเตะ (Yamanote Line) ได้ชัดเจน ซึ่งรถไฟสายยามาโนเตะจะมีลักษณะเส้นทางเป็นวงกลมครบลูป วิ่งผ่านสถานี Interchange ในเมืองโตเกียวที่สามารถเปลี่ยนไปเดินทางด้วยรถไฟสายอื่นได้ถึง 20 สถานี โดยผ่านสถานีที่สำคัญของเมืองโตเกียวอย่าง สถานีชินจูกุ แหล่งช็อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของเมืองโตเกียว หรือ CBD ของโตเกียว อีกทั้งยังเชื่อมกับ สถานีโตเกีย ซึ่งเป็นสถานี Interchange ของรถไฟที่ใหญ่ที่สุดและเป็น hub การเดินทางของเมืองโตเกียวอีกด้วย

สำหรับกรุงเทพฯ ก็มีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่เป็นสายรถไฟฟ้าที่วิ่งวนลูปรอบเมือง สามารถเชื่อมกับสถานี Interchange ได้ถึง 14 สถานี (หากรถไฟฟ้าสร้างเสร็จครบทุกสาย) โดยวิ่งผ่านสถานที่สำคัญอย่าง สถานีสีลม ซึ่งเป็น CBD ของกรุงเทพฯ และเชื่อมกับสถานี Interchange และ hub การเดินทางที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯอย่าง สถานีกลางบางซื่อ

            นอกจากการเป็นสถานีของเส้นทางรถไฟที่วิ่งพาดผ่านใจกลางเมืองและสถานที่สำคัญแล้ว ทั้งสถานีอูเอโนะและสถานีเตาปูน ยังเชื่อมกับรถไฟสายชานเมืองอีกด้วย โดยเชื่อมกับจังหวัดไซตามะ จังหวัดข้างเคียงกับจังหวัดโตเกียวด้วยรถไฟสาย Keihin-Toohoku Line Negishi Line (สีฟ้าอ่อน) เช่นเดียวกับการเชื่อมระหว่างกรุงเทพฯ และนนทบุรีด้วย รถไฟฟ้าสายสีม่วง นั่นเอง

             นอกจากเรื่องของการเดินทางด้วยขนส่งมวลชนแล้ว ทำเลเตาปูนสามารถเข้าถึงแหล่งงานข้างเคียง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่และมีบุคลากรคุณภาพ อาทิเช่น บริเวณถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งมีอาคารสำนักงานหลายแห่ง โดยเฉพาะบริษัท ปตท. (สำนักงานใหญ่) ตลอดไปจนถึงทิศใต้อย่างบริเวณอารีย์ ซึ่งเต็มไปด้วยอาคารสำนักงานและสถาบันการเงินมากมายเช่นกัน

           

สำหรับโครงการเมกะโปรเจคที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างอย่าง สถานีกลางบางซื่อ ซึ่งจะเข้ามาพลิกละแวกทำเลตั้งแต่เตาปูน, บางซื่อ และจตุจักร ให้เป็นเหมือน New Town ด้วยมูลค่าการพัฒนาโครงการกว่า 63,000 ล้านบาท ก็จะยิ่งช่วยส่งเสริมการเดินทางและการใช้ชีวิตให้กับทำเลเตาปูนมากขึ้นอีกด้วย

            สิ่งที่จะยืนยันถึงการเติบโตของที่ดินแถวนี้ได้เป็นอย่างดี คือราคาประเมินที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 20-50% ต่อปี เรียกได้ว่าการเติบโตเทียบเท่าในตัวเมืองได้สบายๆ แต่ทั้งนี้ความพิเศษของ “เตาปูน” คือเป็น 3 แยกระหว่างถนนประชาราษฎร์สาย 2 และถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ที่มุ่งหน้าออกไปยังจังหวัดเพื่อนบ้านอย่างนนทบุรี รวมถึงการก่อสร้างของรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย สายสีม่วง (เปิดใช้บริการแล้ว) และสายสีน้ำเงิน (กำลังก่อสร้าง) ที่เข้ามาเป็นปัจจัยบวก ส่งให้ราคาประเมินที่ดินเพิ่มขึ้นสูงไปอีก ครั้งนี้ TerraBKK Research จึงไม่ได้หยิบราคาประเมินของถนนประชาราษฎร์ สาย 2 มาเพียงเส้นเดียว แต่รวมถึงราคาประเมินของถนนเส้นอื่นๆที่อยู่โดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นถนนกรุงเทพ-นนทบุรี และ ถนนประชาชื่น ที่อยู่บริเวณข้างเคียง

            ซึ่งก็พบว่าราคาประเมินที่สูงที่สุดคือถนนกรุงเทพ-นนทบุรี รองลงมาก็คือถนนประชาราษฎร์ สาย 2 นั่นเอง ทำให้เราพบว่าการก่อสร้างรถไฟฟ้ามีผลมากกับราคาประเมินที่ดินของแต่ละปี เห็นได้จากการที่ราคาประเมินที่ดินของถนนประชาราษฎร์สาย 2 เริ่มแซงหน้าถนนประชาชื่นในปีนี้

            นอกจากราคาประเมินที่ดินแล้ว “ค่าเช่าคอนโด” ในย่านนั้นก็เป็นอีกจุดที่น่าสนใจสำหรับใครที่สนใจจะลงทุนในทำเลนี้ ค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 10,000-15,000 บาทต่อเดือน ซึ่งจะได้เรทค่าเช่าที่ดีกว่าโครงการที่ไม่ได้อยู่ใกล้บางซื่อ กล่าวคือยิ่งห่างจากบางซื่อค่าเช่าจะยิ่งน้อยลง โดยไม่ถึง 10,000 บาทต่อเดือน

ตอนนี้ย่านเตาปูน ได้เป็นอีกหนึ่งทำเลที่ฮอตฮิต ที่หลายคนกำลังมองหา และตั้งใจซื้อที่อยู่อาศัยในย่านนี้ โดยเฉพาะคอนโดฯ ดังนั้น TerraBKK จึงไม่พลาดที่จะพาคุณไปดูโครงการใหม่ที่เตรียมจะเปิดในทำเลเตาปูนเร็วๆนี้ กับ โครงการ Niche Pride Taopoon – Interchange จาก “เสนาฮันคิว” ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์  (SENA) และ บริษัท ฮันคิว เรียลตี้ จำกัด พันธมิตรจากญี่ปุ่น

สำหรับจุดเด่นของโครงการนี้ อยู่ที่ทำเลที่ตั้งบนถนนประชาราษฏร์ สาย 2 เขตเตาปูน ซึ่งพื้นที่แปลงนี้อยู่ติดกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีเตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ ที่ “เสนาฮันคิว” ออกมาบอกว่าโครงการนี้ “แค่ 1 ก้าวถึงรถไฟฟ้า 2 สาย และเป็นคอนโดฯแห่งแรกในประเทศไทยกับส่วนกลาง 30 ชั้น”

สำหรับ Niche Pride Taopoon – Interchange” เป็นคอนโดมิเนียม High Rise 1 อาคาร สูง 38 ชั้น จำนวน 742 ยูนิต พื้นที่ 3-1-64.1 ไร่ ราคาเริ่มต้น 3.2 ล้านบาท 

มี 4 ขนาด

  • 1 ห้องนอน 28 ตร.ม.  
  • 1 ห้องนอน 32 ตร.ม.   
  • 1 ห้องนอน 34.5 ตร.ม (One Bed Plus).
  • 2 ห้องนอน 49 ตร.ม.  

ส่วนการออกแบบของโครงการนี้ เกิดขึ้นในแนวคิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่เรียกว่า “Geo Fit” ซึ่งเป็นแนวคิดในการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ใส่ใจรายละเอียด และเข้าใจความต้องการของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง

พัฒนามาเป็น Geo fit+ 4 เรื่อง           

             – Geo Day (จีโอเดย์) เน้นว่าจะพัฒนาโปรดักส์อย่างไรให้เข้ากับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน เช่น แม่บ้านเมื่อทอดอาหาร น้ำมันกระเด็น ดังนั้นเคาน์เตอร์ครัวควรใช้วัสดุอะไรเพื่อแก้ปัญหานี้

            – Geo Eco (จีโออีโค่) การแสวงหาแนวทางประหยัดพลังงานไม่ว่าจะเป็น ไฟฟ้า, เชื้อเพลิง หรือน้ำ

            – Geo Age (จีโอเอจ) เมื่อสังคมญี่ปุ่นกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ดังนั้นการออกแบบต่างๆ จึงรองรับเทรนด์นี้ก่อนหน้าประเทศไทย เสนาฯ หวังว่าจะนำเอาประสบการณ์ด้านนี้มาใช้ในโครงการ

            – Geo Sonae (จีโอ โซนาเอะ) เน้นเรื่องความปลอดภัย ตั้งแต่เรื่องใหญ่ เช่น แผ่นดินไหว ไปจนถึงเรื่องที่ใกล้ตัวมากขึ้น มี Care Unit หรือห้องพยาบาลภายในโครงการ พร้อมสรรพด้วยเครื่องปั๊มหัวใจและบุคลากรที่ฝึกฝนมาแล้ว อีกทั้งยังมีการออกแบบพื้นที่บางส่วนให้รองรับเปล, เตียงพยาบาล ในกรณีฉุกเฉิน

ทำให้ความพิเศษโครงการนี้ ได้พัฒนามาสู่ My Select ที่ผู้อยู่อาศัยสามารถเลือกฟังก์ชั่นการใช้สอยภายในห้อง เช่น My Select Relaxing Zone หรือ My Select Working Zone

โดยการตกแต่งตามแนวนี้จะทำให้คุณ ดีไซต์ห้องให้เข้ากับรสนิยม ได้ สนุกกับชีวิตอิสระมากขึ้น ซึ่ง“เสนาฮันคิว” มองว่าจะเป็นเทรนด์ในการอยู่อาศัยของคน เจน Y ที่รักการใช้ชีวิตแบบทันสมัยได้ดี

เช่นเดียวกับการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการที่ เสนาดีเวลลอปเม้นท์ เน้นเรื่อง ECO ทำให้ทุกพื้นที่ของโครงการต้องคิดเพื่ออนาคตและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแผงโซล่าร์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และการเลือกอุปกรณ์จัดการขยะและน้ำ

ครอบคลุมไปถึง ส่วน Facilities อีกหนึ่งจุดขายของโครงการ เพราะเป็นคอนโดฯโครงการแรกก็ว่าได้ที่มีการจัด พื้นที่ส่วนกลางไว้ถึง 30 ชั้น โดยทุกๆ 7 ชั้นบนคอนโดฯ จะแบ่งเป็น 1 Villages Facility ภายในประกอบไปด้วย

  • Executive Meeting Room
  • Co-Working Space
  • Sky Lounge
  • Party Room
  • Recreation Games Room
  • Mini Theater
  • Yoga Room
  • Kids Club
  • และ พื้นที่ส่วนกลางลอยฟ้า
  • Sky Infinity Edge Pool ระบบเกลือ Olympic Size ยาว 50 เมตร
  • Sky Garden
  • Sky Fitness

สำหรับ Villages Facility จะมีตั้งแต่ชั้น8 ถึงชั้น 37 ซึ่งแต่ละชั้นพื้นที่ส่วนกลางจะถูกจัดให้มีความแตกต่างกัน ซึ่งคุณผู้อ่านสามารถดูรายละเอียดของพื้นที่ส่วนกลางได้จากภาพประกอบด้านบน

จะเห็นว่าการจัด Facilities ของที่นี่ จะมีพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางมาก ซึ่งเป็นความโดดเด่นที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน คือที่นี่จะมีส่วนกลางทุกชั้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่สำหรับคนวัยทำงานรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลาย และยังสามารถตอบโจทย์คนในหลายช่วงอายุได้เช่นกัน เพื่อเปลี่ยนจากวิถีชีวิตอันแสนวุ่นวาย และความเหนื่อยล้า ให้กลายเป็น “ความฟิน” ได้อย่างง่ายดาย

นอกจากนี้บริเวณจุดเชื่อมต่อระหว่างอาคารกับสถานีบางซื่อยังมีการจัดร้านค้า อาทิ ร้านกาแฟ ร้านซักรีด ร้านสะดวกซื้อไว้ให้บริการกับลูกบ้านได้สะดวกขึ้น

ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ

  • Gateway บางซื่อ
  • รถไฟฟ้าสถานี เตาปูน
  • บางซื่อ คอมเพล็กซ์
  • โลตัสประชาชื่น
  • ตลาดยิปซี
  • ตลาดเตาปูน
  • เซ็นทรัลลาดพร้าว
  • เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์
  • เซ็นทรัล พลาซ่า เวสต์เกต
  • รพ. เกษมราษฎร์ ประชาชื่น

            ด้านการรักษาความปลอดภัยที่โครงการใช้ระบบรักษาความปลอดภัย 3 ชั้น ตั้งแต่หน้าโครงการไปจนถึงห้องของคุณ พร้อมให้บริการหลังการขายผ่านแอปพลิเคชั่น SENA 360” ซึ่งลูกค้าสามารถแจ้งซ่อม เช่า ขายต่อ จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าส่วนกลาง ได้ในแอปเดียว

เมื่อดูจากขนาดห้อง ราคา สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ รวมถึงการเดินทางแล้ว ถือว่าราคานี้อยู่ในระดับที่เหมาะสมที่จะเป็นเจ้าของเพื่ออยู่อาศัย และยังคุ้มค่าหากต้องการลงทุนในอนาคต

เอาเป็นว่า ใครที่ต้องทำงานหรือเดินทางตลอดทั้งวัน การมีคอนโดฯติดรถไฟฟ้า 2 สายเพียงระยะแค่ 1 ก้าว นับเป็นไอเดียที่แสนบรรเจิด

สำหรับผู้อ่านที่สนใจ โครงการ Niche Pride Taopoon – Interchange สามารถติดตามรายละเอียดโครงการพร้อมลงทะเบียน ได้ที่ https://goo.gl/DMdNPG หรือโทร 1775 ต่อ 39

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.sena.co.th