ข้อดีและข้อควรคำนึงหากว่าจ้างบริษัทรับสร้างบ้าน
การเลือกก่อสร้างโดยว่าจ้างบริษัทรับสร้างบ้านซึ่งเป็นบริการแบบครบวงจรนั้น เราควรพิจารณาถึงข้อดี ข้อควรคำนึง และเงื่อนไขของแต่ละบริษัทมาเปรียบเทียบกันก่อนการตัดสินใจ
การจ้างบริษัทรับสร้างบ้าน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการสร้างบ้านสักหนึ่งหลัง ซึ่งได้รับความนิยมเนื่องจากสะดวกต่อเจ้าของบ้าน เพราะเป็นบริการแบบครบวงจรในที่เดียวจบ ตั้งแต่การคัดเลือกแบบบ้านที่เราต้องการ ดำเนินเรื่องขออนุญาตก่อสร้าง ไปจนถึงการก่อสร้างบ้านให้เราจนเสร็จสมบูรณ์หนึ่งหลัง
ข้อดีโดยรวมของการเลือกจ้างบริษัทรับสร้างบ้านคือ เจ้าของบ้านจะได้รับความสะดวก เห็นว่าการก่อสร้างบ้านสักหนึ่งหลังเป็นเรื่องง่าย เพียงติดต่อกับบริษัทรับสร้างบ้านที่เดียวจบ เพราะบริษัทรับสร้างบ้านจะบริการให้ครบจบทุกขั้นตอน (แบบครบวงจร) ตั้งแต่การให้คำแนะนำปรึกษาเรื่องบ้าน มีแบบบ้านให้เราเลือกหลากหลาย (หากไม่มีแบบบ้านที่ชอบ บางบริษัทสามารถปรับแบบหรือออกแบบใหม่ให้ได้ หากมีทีมงานออกแบบภายในบริษัท) และมีภาพบ้านที่ก่อสร้างจริงให้ดูหรือสามารถไปดูบ้านที่ก่อสร้างจริงตามแบบมาตรฐานของบริษัทที่มีได้ พร้อมงบประมาณการก่อสร้าง ราคาค่าก่อสร้าง และรายการวัสดุก่อสร้าง จึงสามารถควบคุมงบประมาณได้ค่อนข้างแน่นนอน บริษัทจะช่วยติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ (เช่น ติดต่อหน่วยงานราชการ ยื่นขออนุญาตก่อสร้าง ขอไฟฟ้า-ประปา ขอบ้านเลขที่ ติดต่อกับธนาคารที่ให้สินเชื่อ เป็นต้น) ลงมือก่อสร้างบ้านโดยมีมาตรฐานการทำงานที่เป็นระบบและมีทีมที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน (ตั้งแต่ วิศวกร ทีมบริการลูกค้า ทีมจัดซื้อสินค้า ทีมช่างก่อสร้างแต่ละส่วน เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างประปา ช่างมุงหลังคา ช่างปูกระเบื้อง ช่างอื่นๆ ไปจนถึงทีมบริการหลังการขาย ลูกค้าสัมพันธ์) โดยขณะก่อสร้างจะมีการติดต่อประสานงานกับลูกค้าตลอด รวมถึงบางบริษัทอาจมีบริการรายงานผลการก่อสร้างในระบบออนไลน์ซึ่งช่วยให้ง่ายต่อการตรวจเช็คความคืบหน้างานก่อสร้าง และบริหารให้เสร็จตามเวลาที่กำหนด (เว้นแต่ติดปัญหาเฉพาะหน้างานบางประการ) มีการรับประกันการก่อสร้างบ้าน จึงลดความเสี่ยงที่จะทิ้งงาน และสามารถเรียกมาซ่อมแซมบ้านได้ตามเงื่อนไขของการรับประกัน
* เงื่อนไขต่างๆ เป็นไปตามที่แต่ละบริษัทกำหนด
แม้ว่าการจ้างบริษัทรับสร้างบ้านจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อควรคำนึงคือ แบบบ้านที่บริษัทรับสร้างบ้านจะสามารถทำให้ได้ ถึงแม้จะมีทั้งแบบมาตรฐานให้เลือกโดยอาจปรับเปลี่ยนได้บ้างตามความต้องการของลูกค้า หรือออกแบบให้ใหม่หากไม่ชอบแบบที่มีก็จริง แต่รูปแบบอาจจะไม่หวือหวาหรือตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการของสมาชิกในบ้านเหมือนกับการว่าจ้างสถาปนิก เพราะต้องอิงกับวิธีการก่อสร้างที่บริษัทมีความถนัดและความชำนาญเฉพาะเป็นหลัก และต้องคุมงบประมาณไม่ให้ราคาต่อตารางเมตรสูงเกินไป เรื่องค่าใช้จ่ายที่จะสูงกว่าการว่าจ้างผู้รับเหมา (สูงกว่าประมาณ 10-20%) และในขั้นตอนการทำสัญญาจะมีการเก็บเงินมัดจำก่อน ประมาณ 10-15% ของราคาบ้านจึงจะได้รับแบบก่อสร้าง รวมถึงช่วงต้นของการก่อสร้างเจ้าของบ้านอาจรู้สึกว่ามีค่าใช้จ่ายที่มากกว่างานก่อสร้างที่ได้รับ นอกจากนี้ เรื่องอำนาจในการต่อรองของเจ้าของบ้านอาจมีน้อยกว่าการจ้างผู้รับเหมา จึงควรหาที่ปรึกษาคนกลางระหว่างเรากับบริษัทเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้งานก่อสร้างเป็นไปอย่างราบรื่น
ทั้งนี้ การตัดสินใจเลือกบริษัทรับสร้างบ้านมาก่อสร้างบ้านให้เรานั้น มีสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาคือ ความน่าเชื่อถือของบริษัท ชื่อเสียง ประวัติและผลงานที่ผ่านมา การควบคุมคุณภาพ การติดต่อประสานงาน การรับประกันผลงาน การบริการหลังการขาย เงื่อนไขต่างๆ ราคาค่าก่อสร้างและสิ่งที่เราจะได้รับจากบริษัท รวมถึงวิธีการก่อสร้าง (แต่ละบริษัทอาจมีวิธีการก่อสร้างที่แตกต่างกันหรือมีความชำนาญอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น ก่อสร้างด้วยระบบโครงสร้างสำเร็จรูป ก่อสร้างบ้านโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ก่อสร้างบ้านโครงสร้างเหล็ก เน้นการสร้างบ้านประหยัดพลังงานที่ใช้วัสดุช่วยลดความร้อน บ้านระบบโมดูลาร์ เป็นต้น) และคุณภาพวัสดุที่เลือกใช้ ซึ่งต้องนำมาพิจารณาประกอบกันหลายแง่มุมเปรียบเทียบกันก่อนการตัดสินใจเลือกบริษัทมารับสร้างบ้านให้เรา เพื่อให้เหมาะสม ตรงความชอบ และตอบโจทย์เราสูงสุด รวมถึงมั่นใจว่าได้บ้านคุณภาพมาอยู่อาศัย