หากพูดถึงโทรศัพท์มือถือ ยุคนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะแทบจะเรียกได้ว่าเป็นเหมือนปัจจัยที่ 5 หรือ 6 ของคนทั่วไปแล้วก็ได้ ด้วยความที่เทคโนโลยีต่างๆ ก้าวหน้าไปอย่างมากจึงทำให้โทรศัพท์มือถือ มีส่วนเข้ามาช่วยในการเรียนและทำงานมากขึ้น ช่วยให้สามารถติดต่อหากันได้สะดวกมากขึ้นด้วย App ต่างๆ ทำให้ยุคนี้ไม่จำเป็นต้องโทรหากันก็สามารถสื่อสารกันได้ แถมส่งภาพ ส่งวิดีโอหากันได้อีก เรียกว่าสะดวกขึ้นมากๆ
ในเมื่อโทรศัพท์มือถือช่วยอำนวยความสะดวกในการสื่อสารได้มากขนาดนี้ เราก็ไม่ควรที่จะลืมดูแลให้ดีใช่ไหมล่ะครับ เพื่อที่โทรศัพท์แสนรักของเราจะได้อยู่กับเราไปนานๆ และไม่ต้องซื้อใหม่บ่อยๆ ให้เราต้องเปลืองเงิน โดยเริ่มดูแลที่หนึ่งในส่วนสำคัญของโทรศัพท์มือถือนั่นก็คือ แบตเตอรี่ นั่นเอง
วันนี้ MoneyGuru.co.th  จึงมีเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ในการ ดูแลแบตเตอรี่มือถือ ให้อยู่กับเราไปนานๆ มาฝากกันครับ

เคล็ดลับ ดูแลแบตเตอรี่มือถือ ให้อยู่กับเราไปนานๆ

1.เลี่ยงการเล่นมือถือในขณะชาร์จ

– การที่จะให้โทรศัพท์มือถือสุดรักอยู่กับเราไปนานๆ นั้น การดูแลแบตเตอรี่ให้ดีก็เป็นส่วนสำคัญ เพราะเรียกได้ว่าแบตเตอรี่ก็เป็นหนึ่งในหัวใจหลักของเครื่องเลยทีเดียว ต่อให้มือถือสเปคแรงแค่ไหนแต่ถ้าไม่มีแบตเตอรี่ก็ทำงานไม่ได้  ดังนั้นเราก็ควรจะดูแลแบตเตอรี่ให้ดี เริ่มด้วยการที่ไม่ใช้มือถือในขณะที่ทำการชาร์จแบตเตอรี่อยู่ เพราะจะทำให้แบตเตอรี่ต้องทำงานมากกว่าปกติ และส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วนั่นเอง

2.ไม่ชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งไว้

– ไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่ค้างทิ้งไว้เป็นเวลานานๆ ควรจะหมั่นดูแลหากว่าชาร์จเต็มแล้วก็ให้ถอดออก และหากใครที่ชอบชาร์จแบตเตอรี่ค้างทิ้งไว้ตลอด 24 ชม. ก็ยิ่งไม่ควร เพราะจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว

3.แบตเตอรี่เกือบเต็มก็ไม่ควรชาร์จ

– หากว่าแบตเตอรี่ยังมีพลังงานเหลืออยู่มากๆ เราก็ไม่ควรที่จะรีบชาร์จ  เพราะแบตเตอรี่นั้นมีรอบอายุการชาร์จกำหนดไว้ ว่าแบตเตอรี่ตัวหนึ่งจะสามารถชาร์จได้กี่ครั้ง ดังนั้นเราจึงควรชาร์จเมื่อแบตเตอรี่ใกล้จะหมดดีกว่าครับ เพื่อให้ใช้รอบชาร์จอย่างคุ้มค่า

4.แบตเตอรี่ใกล้หมดก็ชาร์จได้เลย

– ตามที่ว่ามาในข้อก่อนหน้านี้ คือให้รอแบตเตอรี่ใกล้หมดแล้วจึงค่อยชาร์จ โดยให้แบตเตอรี่เหลืออยู่ที่ประมาณ 35 – 40% จึงค่อยเริ่มชาร์จก็ได้ แต่ไม่ควรรอให้แบตเตอรี่หมดจนเหลือ 0% แล้วค่อยชาร์จ เพราะแบตเตอรี่ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อเรียกคืนประจุ นอกจากนี้ยังทำให้เครื่องร้อนอีกด้วย

5.มือถือไม่ถูกกับความร้อน

– ไม่ควรวางมือถือไว้ในที่มีอากาศร้อน เพราะจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วนั่นเอง ยิ่งหากลืมทิ้งไว้ในรถที่จอดไว้กลางแดดด้วยแล้ว ให้รีบวิ่งไปหยิบมาเลย เพราะทุกๆ คนคงจะรู้กันดีใช่ไหมครับว่าแดดบ้านเรานั้นร้อนขนาดไหน

6.เลี่ยงอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน

– เป็นข่าวอยู่เสมอๆ กับการชาร์จโทรศัพท์มือถือแล้วเกิดการระเบิด ต้องยอมรับว่าสาเหตุหนึ่งก็มาจากการใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานในการชาร์จแบตเตอรี่ ดังนั้นหากเราทำที่ชาร์จมือถือของเราหาย หรือ ต้องการที่จะซื้อมาเก็บไว้สำรอง เราก็ควรที่จะใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานจากศูนย์บริการหรือร้านตัวแทนจำหน่ายจะดีกว่าครับ
รวมถึงการนำที่ชาร์จของอุปกรณ์อื่นๆ มาชาร์จให้กับโทรศัพท์มือถือเช่น นำที่ชาร์จของแท็บเล็ตมาใช้ชาร์จมือถือ โดยที่ไม่ได้ดูก่อนว่า มีการจ่ายกำลังไฟแตกต่างกันหรือไม่ หากการจ่ายกำลังไฟต่างกันอาจจะส่งผลให้โทรศัพท์มือถือเกิดลัดวงจร หรือไหม้ขึ้นมาได้ ดังนั้นให้ใช้อุปกรณ์ที่ทำมาสำหรับโทรศัพท์มือถือรุ่นที่เราใช้จะดีที่สุดครับ แต่หากเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องซื้ออุปกรณ์จากที่อื่น ก็ให้เราเลือกดูอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน มอก. และมีการจ่ายกำลังไฟเท่ากับที่ชาร์จอันเดิมของเราครับ
จะเห็นได้ว่าการ ดูแลแบตเตอรี่มือถือ นั้นทำได้ไม่ยาก เพียงแค่เราใส่ใจสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ของโทรศัพท์มือถือเรา เพียงแค่นี้เราก็จะประหยัดเงินจากการที่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่หรือ ซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ไปได้แล้ว แต่ข้อสำคัญอย่าประหยัดจนไม่ได้ดูถึงความปลอดภัยของตัวเราด้วยนะครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก www.moneyguru.co.th