จะบอกว่าเป็นแบรนด์น้องใหม่ไม่ได้อีกแล้ว สำหรับ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ถึงวันนี้ค่ายผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตมาจากสายงานบริหารก่อสร้างและธุรกิจเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ ข้ามมาประสบความสำเร็จบนเส้นทางผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายในเวลาอันสั้น จนกล้าประกาศตัวเองว่าเป็นท็อป 5 ด้วยฝีไม้ลายมือในการบริหาร แบบที่เรียกว่า “ทำดี แตกต่าง คิดใหม่ทำใหม่ในทุกโครงการ” ที่เน้นปรัชญาให้ลูกบ้านเกิดความคุ้มค่ามากที่สุดในทุกๆ ตารางเมตร 

  

ก้าวสู่ท็อป 5 ด้วยไดเรคชั่นใหม่ 

คีย์ซัคเซสสำคัญที่พาให้ออริจิ้นก้าวข้ามตลาดการแข่งขันอันแสนดุเดือดจนมาเป็นท็อป 5 ของวงการอสังหาฯ ส่วนหนึ่งยกเครดิตให้วิสัยทัศน์ผู้บริหารภายใต้การนำของ พีระพงศ์ จรูญเอก กรรมการบริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่มีความชัดเจนเพื่อสร้างความต่างให้กับแบรนด์ จนมาถึงทิศทางใหม่ล่าสุดที่จะพิสูจน์ฝีมือความเป็นแบรนด์รุ่นใหม่ บนกลยุทธ์ 3 ประการ ได้แก่

  • จับทำเลไพร์มโลเคชั่น ตอบโจทย์คนเมืองรุ่นใหม่
  • ขยายเซกเมนต์ไปยังตลาดกลุ่มบน โดยการสร้างสรรค์ลักชัวรี่ โปรดักต์ในสไตล์ออริจิ้น ตอบความต้องการลูกค้าทุกกลุ่มในตลาด
  • ฉีกกฎดีไซน์การออกแบบที่มีความแตกต่าง อย่างโดเด่น มากกว่าแค่หรูหรา คือการใช้งานได้จริงอย่างคุ้มค่า ตอบไลฟ์สไตล์คนอยู่คอนโดอยย่างแท้จริง

ล่าสุดเปิดมาต้นปี 2018 ออริจิ้นไม่รอช้า ปักธงรบชูกลยุทธ์ใหม่ โดยมีแบรนด์คอนโดลักชัวรี่อย่าง Knightsbridge ที่ออริจิ้นยกให้เป็นแบรนด์แฟล็กชิพสโตร์ ซึ่งเปิดตัวไปอย่างงดงามและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเมื่อปลายปีที่แล้ว ตามมาด้วยภาคต่อของคอนโดคอลเลคชั่นลักชัวรี่ กับการผุด Knightsbridge อีก 3 โครงการใหม่ ในคอนเซปต์ DUO SPACE ที่ไม่เพียงแค่หรูหรา แต่ยังล้ำไอเดียด้วยดีไซน์ใหม่และตั้งอยู่บนทำเลไพร์มโลเคชั่นใจกลางเมือง

มากกว่าดีไซน์ คือ Space ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง

คอลเลคชั่น Knightsbridge ทั้ง 3 ปฏิวัติรูปแบบการอยู่อาศัยแบบเดิมๆ (The Revolution of living) ด้วยการเพิ่มฟังค์ชั่น Space สร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตที่แตกต่างตอบสนองกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการสเปช เพื่อการอยู่อาศัยจริง ซึ่งเป็นจุดเด่นที่เข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้บริหารไฟแรงวัยมินิ ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย มีไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตแบบ Smart ไปจนถึงเจาะกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (Entrepreneur) ที่มีความเป็นตัวของตัวเอง พร้อมจะเอ็นเตอร์เทนและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิต

จากการฉีกดีไซน์ในรูปแบบ Space จะปรากฏขึ้นใน 3 โครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ Knightsbridge ได้แก่ Knightsbridge Space Rama9, Knightsbridge Space Ratchayothin, ส่วน Knightsbridge Collage Sukhumvit107 จะมาพร้อมคอนเซปต์ SPACE พื้นที่ส่วนกลางสุดว้าว ที่เชื่อมต่อเนื่องกัน ถึง 4 ชั้น บน Roof Top อาคาร

ดีเอ็นเอความเป็น Space ในแบบฉบับของออริจิ้นอยู่ที่การออกแบบพื้นที่ให้สูงโปร่ง วางเลย์เอ้าต์เป็นดับเบิ้ลฟลอร์ เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มากขึ้น เอาใจคนอยู่คอนโดกลางเมือง โดยมีไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การออกแบบให้มีพื้นที่ใช้งานในห้องพักแบบ Duo Space ดีไซน์พื้นที่ต่างระดับ โดยในระดับล่างมีสเปชส่วนโถงทางเข้า ครัว ห้องน้ำ และในระดับบนสร้างสเปชส่วนห้องนอนและ Walk in Closet ผ่านการเชื่อมต่อพื้นที่ด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาเก๋ไก๋แปลกตา ไม่เหมือนใคร พร้อมกับฟังค์ชั่นที่ทำหน้าที่เป็นทั้งบันไดและพื้นที่เก็บของไปพร้อมๆ กัน

นอกจากนั้นริมหน้าต่างยังออกแบบเป็น Double Volume เพิ่มพื้นที่ใช้สอย ขณะที่ส่วน Living Area มาพร้อมหน้าต่างกระจกสูง สร้างความโปร่งโล่งและเพิ่มมุมมองที่กว้างกว่าภายในห้องพัก

ล้ำกว่าไอเดีย คือ ประสบการณ์อยู่อาศัยรูปแบบใหม่

            สิ่งที่ออริจิ้นคิดค้นมาแล้วมาผ่านรูปแบบการดีไซน์ Space คือความต้องการในการสร้างประสบการณ์อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ ที่แตกต่างด้วยการออกแบบพื้นที่ใช้สอย เชื่อมโยงทุกจังหวะไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตให้ต่อเนื่องกัน ทุกมิติ ระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอกอาคาร แบ่งเป็น 4 Space ได้แก่

1.Vertical Space : การออกแบบพื้นที่ใช้งานแนวตั้ง ให้มีประโยชน์ ใช้สอยได้ประโยชน์สูงสุด เช่น พื้นที่เหนือครัว และส่วนอาบน้ำ สามารถใช้เป็น SPACE พื้นที่เก็บของได้

2.Value Space : การออกแบบให้ทุกๆ SPACE พื้นที่ใช้สอยในห้องใช้งานจริงได้อย่างคุ้มค่าทุกตารางนิ้ว

3.More Space : การออกแบบให้ผู้อยู่อาศัย สามารถใช้ชีวิต ใน SPACE ที่มีพื้นที่ใช้งานขนาดใหญ่ การครีเอตพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการ ให้มีพื้นที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบ Work Life Balance โดยมีทั้งพื้นที่สำหรับทำงาน CO-WORKING SPACE พื้นที่สันทนาการและมุมพักผ่อนสังสรรค์

4.Flow Space :การเชื่อมต่อพื้นที่ภายในและภายนอกอาคาร ด้ยการออกแบบ SPACE ให้มีการเล่นระดับโถงที่มีฝ้าเพดานสง เป็น Double Space & Triple Space

องค์ประกอบเหล่านี้ ล้วนถ่ายทอดออกมาผ่านทุกรายละเอียดในโครงการ Knightsbridge ยกตัวอย่างแลนด์สเคปของ Knightsbridge Space Ratchayothin มีการออกแบบพื้นที่ภายนอกอาคารให้มีพื้นที่สีเขียวเชื่อมต่อกับทุกสเปช เพื่อให้ลูกบ้านสัมผัสได้ถึงความสดชื่นผ่อนคลายของการอยู่อาศัยท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ เริ่มตั้งแต่ทางเดินเข้ามาโครงการจะผ่าน Landscape Corridor ที่มีการเว้นจังหวะให้เกิดพื้นที่ เพื่อสร้างความโปร่งโล่ง เพิ่มความผ่อนคลายมากขึ้น เมื่อเข้ามาในล็อบบี้มองออกไปภายนอกมี Garden Lobby View ที่มี Water Feature ซึ่งออกแบบมาเฉพาะตัว โชว์เส้นสายความเป็นธรรมชาติเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ไปสู่สวนด้านหลัง

ในส่วนสวนด้านหลัง จะเป็นโซน COLIVING GARDEN ที่จะสร้างบรรยากาศให้ผู้อยู่อาศัยได้ทั้งพักผ่อนหรือนั่งทํางานเพลินๆ ท่ามกลางสวนที่ร่มรื่นตลอดทั้งวัน เพราะได้อาศัยร่มเงาจากอาคารและต้นไม้ใหญ่ในสวน สัมพันธ์กับมุมมองและการเชื่อมต่อของ CO-WORKING SPACE ภายในอาคารอีกด้วย

 

ไม่ทิ้งความเป็น Best Location

ไม่เพียงความโดดเด่นด้านดีไซน์ที่คิดมาแล้ว เพื่อเข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ออริจิ้นยังคงยึดมั่นเรื่องการเลือกทำเลศักยภาพ สิ่งนี้สะท้อนเห็นได้จากชัดจากโครงการ Knightsbridge ทั้ง 3 ซึ่งตั้งอยู่บนทำเลพระราม 9, รัชโยธิน และสุขุมวิท 107

อย่างที่ทราบกันดีว่า ‘พระราม 9’ ได้ชื่อว่าเป็นทำเลที่ไม่เคยหลับ เพราะในเวลากลางวันโลเคชั่นนี้คือ NEW CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพ ที่เต็มไปด้วยอาคารสำนักงานชั้นนำจึงเป็นศูนย์รวมของคนทำงานและนักธุรกิจ แวดล้อมด้วยแหล่งช็อปปิ้งและศูนย์การค้าชั้นนำ อีกทั้งยังเดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จึงเป็นทำเลที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ในเวลากลางคืนพระราม 9 ยังเป็นย่าน Night Light City ชื่อดังของเมืองไทยที่ใครๆ ก็รู้จัก จึงกล่าวได้ว่าพระราม 9 เป็นย่านที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

โครงการคอนโดฯ KnightsBridge Space พระราม 9 ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ พัฒนาเป็นคอนโดสูง 27 ชั้น จำนวน 325 ยูนิต ร้านค้า 1 ยูนิต ที่จอดรถที่จอดรถอัตโนมัติ 52% โครงการนี้ยังโดดเด่นด้วยทำเลที่ตั้งเพียง 350 เมตร จาก MRT พระราม 9 และเพียง 1 สถานี ถึง MRT เพชรบุรี เชื่อมต่อ Airport Link ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ และยังอยู่ใกล้ทางด่วนพระราม 9 อีกด้วย การเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก

ขณะที่ ‘รัชโยธิน’ เป็นอีกทำเลที่น่าจับตามองมากที่สุด เพราะมีอัตราการเติบโตและอัตราที่ดินสูงเป็นอันดับ 5 ของกรุงเทพ ด้วยปัจจัยเสริมหลายประการ หนึ่งในนั้นคือ การเป็นจุดที่ใกล้กับศูนย์รวมคมนาคมทางรางที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย (สถานีกลางบางซื่อ) อีกทั้งอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ที่จะเชื่อมต่อเข้าหมอชิตและเข้าเมืองได้โดยตรง โดยไม่ต้องสลับราง สลับขบวนให้ยุ่งยาก ประกอบกับใกล้กับ Mega Project ของภาครัฐและเอกชนในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นโครง Mix Use Project ที่จะรวมเอาอาคารสำนักงาน, ศูนย์การค้า สาธารณูปโภคและสถานศึกษาเข้าไว้ด้วยกัน นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทำเลนี้กลายเป็นทำเลก้าวกระโดดภายในเวลาอันรวดเร็ว

ทำเลนี้ได้ชื่อว่า Business Hub หลังจากที่ประสบความสำเร็จด้านการขายโครงการ KnightsBridge Prime รัชโยธิน ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา ORIGIN ได้ส่งโครงการ KnightsBridge Space ลงตลาดรองรับความต้องการของผู้บริโภคต่อทันที โดย KnightsBridge Space รัชโยธิน ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ครึ่ง พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมสูง 33 ชั้น จํานวนยูนิต 488 ยูนิต พร้อมที่จอดรถ automatic parking ถึง 70%

          

            การออกแบบ Vertical Accent Design ที่ให้ได้ SPACE ที่สูง และมากกว่าใคร กับห้องรูปแบบใหม่ “Duo Space” สูง 4.2 เมตร และส่วนกลางลอยฟ้า (Sky Facilities) ขนาดใหญ่กว่า 1,600 ตร.ม. เพียง 20 ม. จากสถานีรถไฟฟ้าพหลโยธิน 24

และที่ขาดไม่ได้ ทำเลสุดท้าย บนถนนสุขุมวิท 107

ส่วนสุขุมวิท 107 หรือ แบริ่ง อีกหนึ่งทำเลที่ออริจิ้นปักหมุดกับโครงการ Knightsbridge Collage Sukumvit107 โดยมองว่านี่คือทำเล New Workplace & Community with Convenient Transportation บอกเลยว่าถ้าใครเคยมาเหยียบย่างในย่านนี้ ไม่ต้องเป็นคออสังหาฯ ก็รู้ได้ทันทีว่า “แบริ่ง” เป็นอีกหนึ่งโลเคชั่นที่มีศักยภาพและพร้อมจะเติบโตเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ของย่านสุขุมวิทตอนปลาย เนื่องจากการเติบโตย่านสุขุมวิทตอนต้นจนถึงสุขุมวิทตอนกลางเริ่มอิ่มตัว ทำให้การขยายพื้นที่ทางธุรกิจเริ่มมีการขยับออกมาย่านสุขุมวิทตอนปลายมากขึ้น ประกอบกับบริเวณนี้ มีองค์ประกอบที่รองรับการเติบโตอย่างสมบูรณ์ เพราะแวดล้อมด้วยอาคารสำนักงานขนาดกลาง, โรงเรียนนานาชาติชั้นนำ และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะเกิดเมกะโปรเจ็กต์อีกมากมาย ทั้งศูนย์การแสดงสินค้าขนาดยักษ์, ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ “แบริ่ง” จึงกลายเป็นทำเลศักยภาพที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองแบบ 360 องศา ชนิดที่ว่าคนเมืองโดยเฉพาะวัยทำงาน ไม่ควรมองข้าม

สำหรับ ไนท์บริดจ์ คอลลาจ สุขุมวิท 107 เป็นอีกความสำเร็จที่ต่อยอดจาก ไนท์บริดจ์ คอลลาจ รามคำแหง โดยจุดเด่นโครงการแห่งนี้อยู่ห่างจาก BTS แบริ่ง เพียง 300 เมตรเท่านั้น สามารถเดินทางเข้าใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว โครงการสร้างขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Collage เป็นการผสมผสาน ดีไซน์ที่เรียบง่าย ในโทน Monochrome ขาว Clean และ Bright ให้ความรู้สึกเรียบง่าย สะท้อนความเป็น Space ที่แตกต่าง ไฮไลท์คือการให้พื้นที่ส่วนกลางที่มากกว่า เชื่อมต่อกันถึง 4 ชั้น

พร้อมกับ ไฮไลท์ คอนเซปต์ ‘‘SPACE CONNECT’’ ที่

เชื่อมต่อการเดินทางอย่างสะดวกสู่ใจกลางเมือง ด้วย BTS

เชื่อมต่อ พื้นที่ส่วนกลางให้มากกว่า ด้วย Facility บน Roof Top อาคาร ที่เชื่อมต่อกัน ถึง 4 ชั้น

เชื่อมต่อ ความสะดวกสบายของชีวิต กับ เทคโนโลยี ได้อย่างลงตัว กับ Home Automation และ Automatic Parking

โดย โครงการ Knightsbridge ทั้ง 3 ทำเลนี้ ได้ติดตั้ง Home automation เพื่อรองรับเทคโนโลยีกับการอยู่อาศัย ให้ตอบโจทย์ไลฟืสไตล์คนคอนโดมากที่สุด

นับได้ว่าเป็นการปฎิวัติรูปแบบการอยู่อาศัย ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง ภายใต้ คอนเซปต์ ‘‘SPACE MAKE POSSIBLE’’  

24 มี.ค.นี้ พบกับงาน Pre-Sale The 3 Best Knightsbridge 3 โครงการ 3 ทำเลที่ดีที่สุด
Knightsbridge Space Rama 9
Knightsbridge Space Ratchayothin
Knightsbridge Collage Sukhumvit 107
พบกันที่สำนักงานขายทุกโครงการ
ลงทะเบียน https://goo.gl/U8BrJP
รับสิทธิ์ส่วนลด 200,000.-*
โอกาสสุดท้าย ที่คุณพลาดไม่ได้

ขอบคุณข้อมูลจาก origin.co.th