เศรษฐีเหรอ? ไม่ยากหรอก...คุณก็ทำได้
ใครที่มักทำลายความหวังตัวเองบ่อยๆ ด้วยการพร่ำบอกตัวเองว่า แค่ฝันจะเป็น “มหาเศรษฐีเงินล้าน” ยังยากเย็น แล้วในโลกแห่งความเป็นจริงจะเป็นไปได้อย่างไร ถึงเวลาต้องปรับเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ เพราะเส้นทางสู่การเป็นมหาเศรษฐีไม่ได้ยากอย่างที่คิด ใครๆ ก็ทำได้ ดูอย่าง เหล่าเศรษฐีที่สร้างตัวจากศูนย์ อย่าง แจ็ค หม่า แห่งอาลีบาบา, มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก แห่งเฟซบุ๊ก หรือ เจฟฟ์ เบซอส แห่งอเมซอน พวกเขาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ถึงต้นทุนชีวิตจะไม่ได้เกิดบนกองเงินกองทอง แต่ก็เป็นมหาเศรษฐีที่เอ่ยชื่อมาใครๆ ต้องรู้จักได้ ถ้ารู้วิธีที่จะไปถึง
แล้วคุณหล่ะ? พร้อมหรือยังที่จะไขความลับสู่เส้นทางเศรษฐี
1.เริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง ก้าวแรกของบรรดามหาเศรษฐีทั่วโลกล้วนเริ่มต้นจากความกล้าที่จะเสี่ยงเพื่อสร้างอาณาจักรธุรกิจของตัวเอง พวกเขาไม่กลัวที่จะเริ่มต้น แม้ทางข้างหน้าอาจจะล้มเหลว ครั้งหนึ่งมาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก แห่งเฟซบุ๊ค ได้กล่าวสุนทรพจน์ในงานรับปริญญาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เมื่อปี 2017 ไว้อย่างจับใจ ถึงการเริ่มต้นธุรกิจว่า “ไอเดียมันไม่ได้เป็นรูปเป็นร่างที่สมบูรณ์ตั้งแต่ตอนเริ่มหรอก จนกว่าคุณจะเริ่มทำนั่นแหละ มันถึงจะชัดขึ้น คุณแค่ต้องเริ่มเท่านั้น ถ้าผมต้องมองเห็นภาพทุกอย่างของการเชื่อมต่อผู้คนเข้าด้วยกัน ป่านนี้ผมคงยังไม่ได้เริ่มสร้างเฟซบุ๊ค”
2.ลงทุนอย่างชาญฉลาด หนึ่งในมหาเศรษฐีของโลกที่ใครๆ ก็นึกถึง เมื่อพูดถึงการลงทุน คือ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ถึงแม้รายได้หลายพันล้านเหรียญของเขาจะมาจากการบริษัทเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ แต่มูลค่าทรัพย์สินอีกจำนวนไม่น้อยของวอร์เรนล้วนเป็นดอกผลจากการลงทุน ซึ่งหนึ่งในกฎเหล็กที่เจ้าพ่อนักลงทุนฝากไว้เตือนใจมือใหม่หัดลงทุนทั้งหลาย คือ จงอดทน “ถ้าคุณไม่สามารถอดทนที่จะถือครองหุ้นได้เป็นระยะเวลา 10 ปี อย่าคิดแม้แต่จะถือครองหุ้นตัวนั้นเพียง 10 นาที”
ที่สำคัญก่อนที่คิดจะลงทุนในสินทรัพย์ไหน วอร์เรนแนะนำว่าอย่าลืมลงทุนในตัวเอง “จงลงทุนในความรู้ จงลงทุนในสุขภาพของคุณ เพราะจะไม่มีใครมาแย่งมันไปจากคุณได้ การลงทุนแบบนี้ยิ่งลงทุน ยิ่งเติบโต ยิ่งดีขึ้น เป็นการลงทุนที่ดีกว่าการลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ ทั้งปวง อย่าลืมว่าตัวคุณเองคือสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุด”
3.คิดค้นหาทางออกใหม่ๆ บรรดาเศรษฐีที่สร้างตัวด้วยสองมือส่วนใหญ่ เริ่มต้นจากการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการบางอย่าง ยกตัวอย่าง มิเคเล่ เฟอร์เรโร่ ผู้สร้างปรากฏการณ์นูเทลลาฟีเวอร์ไปทั่วโลก เขาต่อยอดไอเดียของพ่อซึ่งคิดค้นช็อกโกแลตผสมกับถั่วเพื่อทดแทนน้ำตาลที่ขาดแคลนอย่างหนักในช่วงสงครามโลก โดยการตั้งชื่อใหม่ว่า “นูเทลลา” มาพร้อมสโลแกน “A delight to spread on bread” หรือความรื่นรมย์ที่สามารถป้ายลงไปบนขนมปังได้ สร้างมิติใหม่ในการกินอาหารเช้าให้คนทั่วโลก
4.ตามหาแพชชั่นให้เจอ ไม่มีอะไรดีกว่าการเริ่มต้นเส้นทางสู่อนาคตด้วยแพชชั่น เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณยังไม่รู้สึกรักและศรัทธาในสิ่งที่ทำ หรือ สินค้าที่ผลิตออกมา แล้วจะหวังให้ผู้อื่นเห็นคุณค่าในผลงานที่คุณทำได้อย่างไร
5.ลงมือทำ คุณไม่จำเป็นต้องรอลงมือทำเมื่อพร้อม มีเงินถุงเงินถังมากมาย แต่จงเริ่มต้นเมื่อคุณรัก และเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ ดูอย่างซาร่า เบลคลีย์ เจ้าของ Spanx บริษัทจำหน่ายชุดชั้นในกระชับสัดส่วน ที่มีรายได้หลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐต่อปี เธอเคยให้สัมภาษณ์ถึงเบื้องหลังของความสำเร็จว่า “อย่าหวาดกลัวกับสิ่งที่คุณไม่รู้ เพราะนั่นอาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุด และมั่นใจได้เลยว่า มันจะเป็นจุดแข็งที่ทำให้คุณเเตกต่างจากคนอื่น”
6.อาศัยความร่วมมือ สมัยนี้เจ้าของธุรกิจไม่จำเป็นต้องเดียวดายมาเป็นศิลปินเดี่ยวเสมอไปยกตัวอย่าง บ็อบบี้ เมอร์ฟี่ และ อีวาน สปีเกล สองคู่หูผู้ก่อตั้ง Snapchat หรือ ไบรอัน เชสกี,โจ เกบเบีย และนาธาน เบลชาร์ซีกสามผู้ก่อตั้ง Airbnb พวกเขาคือตัวแทนของคนรุ่นใหม่ ที่เชื่อว่าคิดหลายหัวย่อมคิดได้รอบด้าน และ สร้างสรรค์กว่าคิดหัวเดียว เพียงแต่คุณต้องมั่นใจว่า ค้นเจอคู่หูทางธุรกิจที่ใช่จริงๆ
ขอบคุณที่มา https://finance.yahoo.com