ท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่นดีอย่างไร และช่วยประหยัดเงินได้จริงหรือไม่?
การท่องเที่ยวนั้นสามารถไปได้ตลอดทั้งปีจริงๆ ขอแค่เพียงเรามีเงินและมีเวลาเท่านั้นเอง ซึ่งพอพูดมาถึงตรงนี้แล้วหลายๆ คนก็บอกว่าทั้งเงินและเวลานี่แหล่ะที่สำคัญมากๆ เพราะบางครั้งไม่มีเงินแต่อาจจะมีเวลา หรือ มีเวลา แต่ไม่มีเงิน แต่ในเรื่องของเวลานั้น เราคนทำงานยังพอจะสามารถลาพักร้อนเพื่อไปท่องเที่ยวได้ แต่หากไม่มีเงินนี่สิ การไปท่องเที่ยวของเราคงลำบากหรืออาจจะไม่ได้ไปท่องเที่ยวเลยก็ได้ แต่หากจะให้ลงตัวทั้งสองอย่างก็คงจะต้องเป็น ท่องเที่ยวแบบประหยัด ใช่ไหมล่ะครับ ซึ่งทางเลือกหนึ่งที่นิยมกันในการท่องเที่ยวแบบประหยัดก็คือ การท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่น นั่นเอง
ว่าแล้ววันนี้ MoneyGuru.co.th ก็จะพาไปดูกันว่า ท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่นดีอย่างไร และช่วยประหยัดเงินได้จริงหรือไม่? เพื่อเป็นข้อมูลในการช่วยตัดสินใจให้หลายๆ คนที่กำลังหาเลือกช่วงเวลาในการท่องเที่ยวอยู่
ท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่นดีอย่างไร และช่วยประหยัดเงินได้จริงหรือไม่?
ก่อนอื่นต้องขออธิบายก่อนว่าช่วงเวลาในการท่องเที่ยวนั้น แบ่งเป็น 3 ช่วงใหญ่ คือ
- ไฮ ซีซั่น (High season)
- คือ ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว ซึ่งแต่ละประเทศนั้นจะมีช่วงไฮซีซั่นที่แตกต่างกันไป เพราะจะเกี่ยวข้องกับเรื่องฤดูกาลที่เหมาะสมกับสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ ด้วย และสิ่งที่มักจะพบในการท่องเที่ยวช่วงนี้ก็คือ ผู้คนแออัด ราคาที่พักและบริการต่างๆ มีราคาสูงขึ้นรวมถึงห้องพักอาจจะเต็มอีกด้วย ทำให้หากเราไม่จองล่วงหน้าไว้ก็อาจจะไม่มีที่พักก็เป็นได้
- โลว์ ซีซั่น (Low season)
- คือ ช่วงเวลาที่ตรงกันข้ามกับช่วง ไฮ ซีซั่น เพราะสภาพอากาศอาจจะไม่เอื้ออำนวยให้ท่องเที่ยวมากนัก เช่น ฝนอาจตกหนัก คลื่นทะเลรุนแรง น้ำท่วม รถติดเพราะอยู่ในช่วงโรงเรียนเปิดเทอม อากาศร้อนจัด เป็นต้น ซึ่งในแต่ละประเทศนั้นช่วงโลว์ ซีซั่น ก็จะแตกต่างกันไป
- พีค ซีซั่น (Peak season)
- คือ ช่วงที่มีวันหยุดยาวๆ และตรงกับช่วงเทศกาลรื่นเริงต่างๆ เช่น ช่วงเดือนธันวาคม ถึงเดือนมกราคม ที่มีเทศกาลรื่นเริงต่างๆ มากมาย อย่างวัน คริสมาสต์ วันปีใหม่ เป็นต้น ซึ่งปกติแล้วจะเป็นช่วงสั้นๆ หากเราต้องการจะท่องเที่ยวในช่วงนี้ก็ต้องวางแผนกับเตรียมเงินให้พร้อม เพราะถือว่าเป็นช่วงที่ แย่งกันกิน แย่งกันใช้ แย่งกันเที่ยว เป็นอย่างมาก ทำให้ราคาค่าที่พักและบริการต่างๆ อาจจะสูงขึ้นกว่าปกตินั่นเอง รวมถึงอาจจะต้องจองห้องพักล่วงหน้าเป็นเวลานานๆ ไม่อย่างนั้นอาจจะเจอกับปัญหาห้องเต็มได้
ข้อดีของการท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่น
ผู้คนจะไม่แออัด
สิ่งแรกที่เราจะเจอในการท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่นเลยก็คือ ผู้คนจะไม่แออัด เพราะมีคนมาท่องเที่ยวน้อยนั่นเอง ทำให้เราสามารถไปท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ ที่เราอยากไปได้ โดยไม่ต้องเบียดเสียดกับผู้คน ซึ่งต่างจากช่วงไฮซีซั่นที่คนมากมายจะมาท่องเที่ยว ทำให้เราต้องเบียดเสียดกับผู้คนจำนวนมาก
ตั๋วเครื่องบินราคาถูกลง
เพราะเป็นช่วงที่มีคนมาท่องเที่ยวไม่มาก จึงทำให้ค่าตั๋วเครื่องบินถูกลงตามไปด้วย รวมถึงในบางครั้งทางสายการบินก็อาจจะมีการออกโปรโมชั่นมาลดราคาค่าตั๋วเครื่องบินในช่วงนี้ด้วย ทำให้เรานั้นอาจจะได้ตั๋วเครื่องบินที่ราคาถูกลงไปอีก แต่เราก็อย่าลืมเช็คด้วยว่าต้องมีการจ่ายเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะสายการบินแต่ละสายนั้นมีนโยบายที่แตกต่างกัน
ที่พักราคาไม่แพง และไม่ต้องแย่งที่จะเข้าพัก
ก็อย่างที่ว่าไปครับ ก็คือช่วงนี้นั้นคนมาท่องเที่ยวกันน้อย เมื่อคนมาท่องเที่ยวน้อยการใช้ห้องพักก็จะน้อยตามไปด้วย ซึ่งส่งผลให้ราคาค่าห้องพักอาจจะถูก เพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักนั่นเอง รวมถึงการ walk-in เพื่อเข้าไปใช้บริการก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ไม่ยาก ต่างจากช่วงไฮ ซีซั่นที่เราต้องจองล่วงหน้าเพื่อให้มีที่พักสำหรับเรา ทั้งนี้เราสามารถลองเช็คห้องว่างและราคาของโรงแรมที่เราจะเข้าพักก่อนได้ ด้วยการใช้เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาโรงแรมต่างๆ เช่น hotel.com agoda เป็นต้น แต่อย่าลืมที่จะดูสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ด้วยนะครับ ไม่ใช่มองที่ราคาอย่างเดียว เพราะไม่อย่างนั้น เราอาจจะลำบากก็ได้
ข้อที่เราควรเข้าใจในการท่องเที่ยวช่วงโลว์ ซีซั่น
ส่วนใหญ่เทศกาลใหญ่ๆ และเทศกาลสำคัญๆ มักจะไมได้อยู่ในช่วงโลว์ ซีซั่น ดังนั้นเราต้องยอมรับว่าหากเราต้องการท่องเที่ยวแบบประหยัดเราก็ต้องยอมที่จะพลาดช่วงเทศกาลเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น ช่วงเทศกาลดอกซากุระบาน ที่ประเทศญี่ปุ่น ที่จะตรงกับช่วงไฮ ซีซั่น เป็นต้น แต่ช่วงโลว์ซีซั่นก็ยังมีเทศกาลอื่นๆ ให้เราได้ท่องเที่ยวนะครับ หากแต่เราต้องขยันหาข้อมูลสักหน่อยครับ
จะเห็นได้ว่าข้อดีของการท่องเที่ยวช่วงโลว์ ซีซั่น ที่เห็นได้ชัด ก็คือ ช่วยเราประหยัดเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการท่องเที่ยวนั่นเอง หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่กำลังเลือกช่วงเวลาในการท่องเที่ยวอยู่นะครับ ส่วนคราวหน้าเราจะมีเรื่องเกี่ยวกับการประหยัดเงินอะไรมาฝากก็อย่าลืมติดตามกันนะครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก www.moneyguru.co.th