10 วิธี วิ่ง ออกกำลังกาย ยังไงไม่ให้เหนื่อยง่าย
เป็นกันไหม วิ่งออกกำลังกาย ยิ่งวิ่ง ยิ่งเหนื่อย ยิ่งวิ่ง ยิ่งหอบ
วิ่งออกกำลังกาย แล้วเกิดอาการเหล่านี้ เชื่อเถอะว่าคงไม่มีใคร อยากจะวิ่งนักหรอก สู้ไปออกกำลังกายอย่างอื่นดีกว่า แต่ช้าก่อนค่ะ อย่างเพิ่งถอดใจกันเลย เพราะวันนี้ rabbit finance มีเคล็ดลับวิ่งออกกำลังกายอย่างไร ไม่ให้เหนื่อยง่ายมาฝากกัน รับรองว่าหากคุณนำวิธีที่เราบอกไปปรับใช้ คุณจะวิ่งออกกำลังกายได้นานขึ้น ชนิดที่ว่า ไม่เหนื่อย ไม่ทรมานตัวเองเลยค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปเปิดเคล็ดไม่ลับนี้กันเลย
10 วิธี วิ่งออกกำลังกาย ไม่ให้หอบแฮ่กๆ !
วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่งเข้าไปให้มันหลุดโลก ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากมีร่างกายแข็งแรง อยากให้โรคร้ายแรงไม่มาเยี่ยมเยือน เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ฯลฯ การออกกำลังกายด้วยการวิ่งช่วยคุณได้นะคะ และนี่คือ 10 วิธีวิ่งไม่ให้เหนื่อยจนหอบแฮ่กๆ1. เช็กสุขภาพตัวเองให้ฟิตพร้อมวิ่ง
ก่อนที่คุณจะออกวิ่งเพื่อสุขภาพร่างกาย ควรเริ่มตั้งแต่การเตรียมตัว เพื่อให้ร่างกายพร้อมรับ การออกกำลังกาย ก่อนเสมอ เช่น การตรวจเช็กสุขภาพ เช็กความคล่องตัวของกล้ามเนื้อและข้อต่อ เช็กสุขภาพเข่า หลัง เอว สะโพก
เพื่อให้แน่ใจว่า ร่างกายมีความแข็งแรงพอที่จะวิ่งออกกำลังกาย เพราะไม่เช่นนั้น การวิ่งออกกำลังกายของคุณ อาจจะนำมาซึ่งอาการเคล็ดขัดยอกที่ไม่สามารถรักษาให้ได้ อีกทั้งยังจะทำให้คุณไม่อยากวิ่งต่ออีกด้วย
2. วอร์มอัพก่อนวิ่ง
สำหรับนักวิ่งออกกำลังกายมือใหม่ ก่อนที่จะออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง หรือ การออกกำลังกายใดๆ ควรมีการวอร์มอัพก่อน โดยเฉพาะในการวิ่งยิ่งสมควรที่จะต้องวอร์มอัพ เพราะจะเป็นการเพิ่มความฟิตและการวิ่งได้นานมากขึ้น
3. ขยันวิ่งเข้าไว้
การวิ่งออกกำลังกายครั้งแรก ไม่มีใครไม่เหนื่อย ไม่มีใครไม่หอบค่ะ วิ่งได้แค่ไม่กี่นาทีก็ต้องยกธงขาวยอมแพ้แล้ว เนื่องจากร่างกายของเรายังไม่คุ้นชินกับการออกกำลังกายมาก่อน
ถือว่าเป็น ความท้าทายของคนออกกำลังกาย ว่าคุณจะชนะตัวเองได้หรือไม่ ถ้าคุณพร้อมที่จะเอาชนะตัวเอง วิ่งเข้าไปค่ะ วิ่งทุกวัน วิ่งเรื่อยๆ ยิ่งวิ่งความเหนื่อยก็จะยิ่งหายไป
4. ค่อยๆเพิ่มความอึด
วิ่งออกกำลังกาย ถ้าวิ่งบ่อยๆ ก็จะยิ่งหายเหนื่อย ยิ่งอึดขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น เมื่อนานไปคุณก็สามารถค่อยๆ เพิ่ม หรือขยับระยะเวลาความนานในการวิ่งจากครึ่งชั่วโมงขึ้นไปทีละ 5-10นาที ค่อยๆ ขยับขึ้นไปนะคะ ดูสังขารตัวเองเป็นหลักเนอะ ว่าไหวหรือเปล่า
5. วิ่งให้เร็วขึ้น
อย่างที่บอกว่า คุณสามารถค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาในการวิ่งออกกำลังกายได้ที่ละนิดละหน่อย ไม่ควรเพิ่มแบบก้าวกระโดด เพราะเดี๋ยวร่างกายจะไม่ไหวเอา อีกทั้งยังเป็นการป้องกัน อาการบาดเจ็บหลังออกกำลังกาย ที่อาจจะเกิดขึ้นกับคุณด้วย
คุณสามารถเพิ่มความเร็วในการวิ่งได้แทนการเพิ่มระยะเวลาการวิ่ง เพื่อเป็นการช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และเพิ่มขีดความสามารถของปอด ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถวิ่งได้นาน หรืออึดมากยิ่งขึ้น
6. วิ่งไต่ระดับความชัน
การวิ่งออกกำลังกายทางลาดชันเป็นอีกหนึ่งวิธีที่อยากให้คุณได้ลอง เพราะจะเป็นการช่วยเพิ่มกำลังขา เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อลำตัว และกระดูกสันหลัง ช่วยให้ปอดฟิตขึ้น
7. เสริมความฟิตให้กล้ามเนื้อ
การวิ่งเป็นการออกกำลังกาย ที่ต้องอาศัยกล้ามเนื้อแทบจะทุกส่วนของร่างกาย หมายความว่าคุณควรที่จะดูแลกล้ามเนื้อตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อเป็นการเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแแรง และสามารถวิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
8. วิ่งสลับเดินเร็ว
หากคุณวิ่งออกกำลังกายเต็มฝีเท้าไปได้สักระยะหนึ่ง และ รู้สึกเหนื่อยเกินไป คุณสามารถลดความเร็วลงแล้วเปลี่ยนเป็นการเดินเร็วดู
วิธีนี้จะช่วยป้องกันร่างกายไม่ให้เกิดความตึงเครียดมากเกินไป และเมื่อร่างกายเริ่มวิ่งไหว ก็ค่อยกลับมาเร่งฝีเท้าตามเดิม
9. ฝึกหายใจให้ถูกหลักขณะวิ่ง
การฝึกหายใจให้ถูกหลัก เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้คุณลดการจุกเสียดขณะวิ่งออกกำลังกายเพียงแค่คุณหายใจเข้าทางจมูก และปล่อยลมหายใจออกพร้อมกันทั้งปากและจมูก
ทั้งนี้ การหายใจควรปล่อยให้เป็นไปอย่างสบาย และพยายามหายใจด้วยท้อง มากขึ้น หายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องแฟ่บ เคยได้ยินไหมคะ
10. ฟังเพลงคลอเบาๆ
การฟังเพลงจังหวะสบายหู หรือเพลงป๊อปช้าๆ ระหว่างวิ่งออกกำลังกาย จะช่วยให้วิ่งได้นานขึ้น
เรื่องนี้มีผลวิจัยจาก Sports Medicine and Physical Fitness ยืนยันแล้วว่าเป็นจริง ดังนั้น พกหูฟังเอาไว้เสียบฟังเพลงระหว่างวิ่งก็เพลินดีนะคะ
เพื่อสุขภาพที่ดี การวิ่งออกกำลังกายเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ ค่ะ แม้แรกๆ การขุดตัวเองให้ไปวิ่งออกกำลังกาย จะเป็นเรื่องยากเสียหน่อย แต่พยายามเข้าค่ะ ไม่มีอะไรยากเกินความพยายามของมนุษย์ เพียงเวลาไม่นาน การออกกำลังกายจะเป็นเรื่องปกติ และเรื่องง่ายของคุณ อย่าลืมนะคะ รักสุขภาพ ต้องออกกำลังกาย
ขอบคุณข้อมูลจาก rabbitfinance.com