ถอดบทเรียนธุรกิจตามแบบคุณหนูไฮโซ ไคลีย์ เจนเนอร์
กลายเป็นทอล์กออฟเดอะเวิล์ดกันเลยเดียวเมื่อนิตยสารฟอร์บส์ ประกาศให้ ไคลีย์ เจนเนอร์ น้องเล็กสุดแซ่บแห่งบ้านคาร์เดเชียน-เจนเนอร์ ติดโผอยู่ในอันดับที่ 27 ทำเนียบเศรษฐินีอายุน้อยที่สุดของอเมริกาที่สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยลำแข้งตัวเอง เพราะอายุแค่ 20 (จะย่าง 21 ในเดือนส.ค.นี้) เธอก็เป็นเจ้าของทรัพย์สินมหาศาล มูลค่าราว 900 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 31,500 ล้านบาท) ล้มแชมป์เก่าอย่าง มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก เจ้าพ่อเฟซบุ๊คซึ่งเคยได้รับการจารึกว่าเป็นเศรษฐีตอนอายุ 23 ปีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
งานนี้แม้ผลที่ออกมาจะจักจี้ใจใครหลายๆ คน จนแม้แต่เจ้าของรางวัลอย่างนิตยสารฟอร์บสยังโดนชาวเน็ตเหน็บถึงการนำไคลีย์มาขึ้นปกนิตยสารฉบับลงวันที่ 31 ส.ค.นี้ ในธีมมหาเศรษฐินีพันล้านชาวอเมริกันที่สร้างตัวด้วยลำแข็ง เพราะใครๆ ก็รู้ว่า ครอบครัวคาร์เดเชียน-เจนเนอร์นั้นร่ำรวยมหาศาลขนาดไหน ทั้งนี้ฟอร์บส์ให้เหตุผลเพียงว่า ไคลีย์สมควรได้รับตำแหน่งนี้ เพราะต่อยอดความรวยมาได้ไกลกว่าสมาชิกคาร์เดเชียนทุกคน จากการปั้นธุรกิจเครื่องสำอางแบรนด์ “ไคลีย์ คอสเมติกส์” (Kylie Cosmetics) ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2016 โดยมีเธอเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทนี้เอง 100%
ใครที่ติดตามข่าวของไคลีย์มาตลอดอาจไม่สงสัยในความฮอตฮิตของแบรนด์เครื่องสำอางของเธอ แต่สำหรับใครที่รู้จักเธอผ่านๆ ลองไปสำรวจไอเดียในการปั้นธุรกิจของคุณหนูไฮโซที่ตอนนี้ใครๆก็นิยามว่าเธอทั้งสวยรวยเก่งว่าเธอมีแนวคิดปั้นธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จแบบติดจรวดอย่างไร
ในขณะที่ธุรกิจยักษ์ใหญ่ของโลก ตั้งแต่ Apple, Amazon, Disney, Google และ Hewlett-Packard เริ่มต้นจากโรงรถ ใครจะคิดว่าธุรกิจมูลค่าเฉียดพันล้านของไคลีย์เริ่มต้น ณ เคาน์เตอร์ในห้องครัว ตอนเธออายุแค่ 17 ปี จะสร้างปรากฏการณ์จนทำให้แบรนด์เครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ต้องมีสะดุ้ง เพราะแค่เปิดตัว Kylie Lip Kit ลิปสติกเนื้อแมต 3 สี คู่กับดินสอเขียนขอบปาก เซ็ตละ 29 เหรียญสหรัฐครั้งแรก ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทำยอดขายถล่มทลายจนรู้ถึงไหนอึ่งถึงนั้น
“ฉันใช้เงินที่ได้จากการเดินแบบ 250,000 พันเหรียญสหรัฐ ลงทุนจ้างเอาต์ซอร์สเพื่อผลิต Kylie Lip Kit 15,000 เซ็ต โดยมีเหล่าสมาชิกในครอบครัวเป็นอินฟลูเอ็นเซอร์ช่วยจุดกระแสทางอิสตราแกรมให้ก่อนที่จะประกาศวันขายจริงในวันที่ 30 พ.ย.2015 ผ่าน Shopify ไม่น่าเชื่อว่า Kylie Lip Kit จะขายหมดภายในไม่กี่นาที และถึงจะมีคนนำมาขายต่อในอีเบย์ในราคา 1,000 เหรียญสหรัฐ เพียงฉันกดรีเฟรชหน้าจออีกครั้ง สินค้าก็ถูกขายหมดในพริบตา”
จากกระแสความฮฮตของ Kylie Lip Kit ไคลีย์ไม่ปล่อยให้โอกาสทองหลุดมือ เพียง 3 เดือนต่อมา เธอต่อยอดจากลิปสติกสู่การทำแบรนด์เครื่องสำอางอย่างเป็นทางการ ในชื่อ “Kylie Cosmetics” เธอประเดิมด้วยการออกลิปสติกสีใหม่เพิ่มอีก 3 เฉด ปรากฏว่าขายเกลี้ยงไม่เหลือหรอ โกยเงินเข้ากระเป๋าไม่หวัดไม่ไหว และถึงจะเป็นมือใหม่หัดทำธุรกิจ แต่ไคลีย์เข้าใจกลไกโลกธุรกิจยุคดิจิทัลเป็นอย่างดี เธอไม่จำเป็นต้องเอาเงินก้อนไปจมกับการจ้างพนักงานมากมาย หรือ เสียค่าเช่าหน้าร้านแล้วยังต้องหาคนมาดูแลให้ปวดหัว แค่อาศัยหน้าร้านออนไลน์ บวกกับการตลาดแบบดิจิทัล
เคล็ดลับบริหารธุรกิจเกือบพันล้านของคุณหนูไคลีย์ คือ ใช้พนักงานเท่าที่จำเป็น เธอมีพนักงานประจำแค่ 7 คน และพาร์ตไทม์อีก 5 คน ส่วนที่เหลือไม่ว่าจะเป็นเรื่องการผลิตสินค้า,ทำแพ็กเกจจิ้ง เธอจ้างเอาต์ซอร์ทั้งหมด เรื่องการขายยิ่งหายห่วง เพราะเธอเลือกใช้การขายผ่านทางออนไลน์ทั้งหมด ส่วนการเงินเธอวางใจให้คุณแม่ (คริส เจนเนอร์) เป็นผู้ดูแล
สำหรับหน้าที่โปรโมตสินค้า ไคลีย์ไม่ต้องลงทุนลงแรง อาศัยคอนเนกชั่นให้เพื่อนช่วยลงอินสตาแกรม หรือ จ้างนางแบบ หาอินฟลูเอ็นเซอร์ที่ไหน แค่ใช้อินสตาแกรมของตัวเองที่มียอดคนโฟล์โลวเวอร์มหาศาล (ประมาณ 110 ล้านคน) ให้เป็นประโยชน์ ก็ผลิตของขายไม่ทันแล้ว ยิ่งนาทีนี้ ไลน์สินค้าของ “Kylie Cosmetics” ไม่ได้มีแค่ลิปสติก แต่ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ขายดีไม่แพ้กันทั้ง Blushes, Kylighters, Ultra Glow, Velvet Lip Kit, Kyshadow ยังไม่รวมคอลเล็กชันสุดพิเศษที่ส่งออกมายั่วใจสาวๆ ตลอดๆ แถมวอลุ่มในการขายก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เฉพาะ Holiday Collection ที่วางขายช่วงพ.ย.ปี 2016 สามารถทำยอดขายได้ถึง 19 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากวางขายแค่ 24 ชั่วโมง และสามารถทำรายได้ถึง 307 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากเปิดบริษัทได้ไม่ถึง 1 ปี
ยิ่งกว่านั้น เชื่อหรือไม่ว่า ความฮอตของสินค้าภายใต้แบรนด์ Kylie Cosmetics ยังทำให้โรงงานที่รับผลิตสินค้าให้ไคลีย์ต้องรับพนักงานเพิ่มอีก 500 ตำแหน่งเพื่อผลิตสินค้าของ Kylie Cosmetics โดยเฉพาะ
ทีนี้เชื่อหรือยังว่า บัลลังก์ของเศรษฐินีวัยทีนควรเป็นของเธอ...