สำหรับคนอยากมีบ้าน  ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้านใหม่ หรือมองหาบ้านมือสองสภาพดี ก็คงเริ่มศึกษาข้อมูลเรื่องบ้านและค่าใช้จ่ายเอาไว้บ้างแล้ว แน่นอนว่าคำศัพท์ที่พบบ่อยสุดๆ ก็คงหนีไม่พ้น สินเชื่อบ้าน และ การรีไฟแนนซ์บ้าน ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจ หรือสับสนในความหมาย แต่ที่แน่ๆคือทั้ง 2 คำนี้มีความหมายต่างกันสิ้นเชิง วันนี้ rabbit finance มีคำตอบมาฝากกันแล้วค่ะ

สินเชื่อบ้าน

สินเชื่อบ้าน

ทำความรู้จักสินเชื่อบ้านกันหน่อย

ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆ สินเชื่อบ้าน ก็คือการกู้เงินให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินออกเงินค่าซื้อบ้านหรือสร้างบ้านให้เราก่อน บ้านในที่นี้หมายรวมถึง บ้านเดี่ยว บ้านแฝด คอนโด อาคารพาณิชย์ ทาวโฮมและทาวเฮาส์ โดยผู้ซื้อบ้าน (หรือผู้ต้องการสร้างบ้าน) ต้องใช้หลักทรัพย์ คือ บ้านหลังดังกล่าวเป็นหลักค้ำประกันเงินกู้กับทางธนาคารหรือสถาบันการเงิน เพื่อให้มั่นใจว่าหากการผ่อนชำระไม่เป็นไปตามข้อตกลงทางธนาคารหรือสถาบันการเงินยังมีหลักประกันดังกล่าวเป็นสินทรัพย์ 

ซึ่งการจะปล่อยเงินกู้สินเชื่อบ้าน ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะพิจารณาว่าหลักทรัพย์ดังกล่าวเมื่อตีราคาแล้วมูลค่าสมดุลกับจำนวนเงินที่ต้องการกู้หรือไม่ ทั้งนี้รวมไปถึงพิจารณาไปถึงตัวผู้ซื้อบ้านว่าามีเครดิตการเงินที่น่าเชื่อถือหรือไม่ หากทุกอย่างผ่านการพิจารณาธนาคารหรือสถาบันการเงินจะอนุมัติสินเชื่อจ่ายเงินต้นทั้งหมดเป็นค่าบ้านให้กับเรา จากนั้นเราจะต้องผ่อนชำระคืนตามระยะเวลา จำนวนงวดและอัตราดอกเบี้ยที่ระบุในสัญญา

ศึกษาอัตราดอกเบี้ยให้ดี

ดอกเบี้ยในการขอเงินกู้สินเชื่อบ้านเป็นสิ่งที่สำคัญและพลาดไม่ได้เด็ดขาด เพราะเมื่อคุณได้รับการอนุมัติสินเชื่อแล้ว ทางธนาคารหรือสถาบันการเงินจะจ่ายเงินต้นตามที่ตกลงและระบุในสัญญา และธนาคารจะคิดดอกเบี้ยโดยตั้งต้นจากจำนวนเงินต้นที่อนุมัติไปนั่นเอง อัตราดอกเบี้ยของเงินกู้สินเชื่อบ้านที่เพื่อนๆ ควรรู้จักมี 3 ประเภท ดังนี้

– อัตราดอกเบี้ยลอยตัว หมายถึงดอกเบี้ยที่ต้องชำระแบบคงที่ในช่วงแรก จากนั้นก็จะปรับขึ้นลงตามสถานการณ์ของตลาดการเงิน รวมทั้งประกาศจากธนาคารแต่ละแห่ง ไม่สามารถกำหนดตายตัวได้

– อัตราดอกเบี้ยคงที่ หมายถึงดอกเบี้ยที่ต้องชำระโดยเป็นไปตามอัตราที่ระบุในสัญญาตลอดระยะเวลากู้ ไม่มีการปรับเปลี่ยน หรือขึ้นลงตามสถานการณ์ตลาดการเงิน อัตราดอกเบี้ยคงที่แบ่งเป็น อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นในช่วงแรก และ อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นแบบขั้นบันได

– อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะหนึ่งก่อนจะปรับคงที่ใหม่ทุกรอบตามระยะเวลาที่กำหนด หมายถึง อัตราดอกเบี้ยจะคงที่ไปเรื่อยๆ จนครบระยะเวลาที่กำหนด แล้วจะมีการปรับใหม่ เช่น ทุกๆ 5 ปี จะมีการปรับอัตราดอกเบี้ย และคงที่ไปตามที่ระบุ

เลือกกู้กับธนาคารที่ช่วยเราประหยัด

การเลือกธนาคาร หรือสถาบันการเงินที่ต้องการกู้เพื่อซื้อบ้าน สิ่งแรกที่เพื่อนๆ ต้องพิจารณาก็คือธนาคาร หรือสถาบันการเงินแห่งไหนช่วยประหยัดให้เราได้มากที่สุด รวมทั้งเงื่อนไขต่างๆ ที่อยู่ในสัญญาสอดคล้องกันหรือไม่ อาทิ วงเงินทั้งหมด อัตราดอกเบี้ย และเงื่อนไขในสัญญาการกู้เงิน

ในปัจจุบันแทบทุกธนาคารเปิดบริการปล่อยสินเชื่อบ้าน มีเคาน์เตอร์บริการส่วนบุคคล พร้อมเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาเรื่องนี้โดยตรง เราอยากแนะนำให้ลองเข้าไปพูดคุยและขอคำปรึกษาจากธนาคารหลายๆแห่ง แล้วค่อยนำข้อมูลมาเปรียบเทียบประกอบการพิจารณาจะดีกว่า เรื่องแบบนี้ให้ถือคติช้าๆได้พร้าเล่มงามนะคะ

สินเชื่อบ้าน

รีไฟแนนซ์บ้าน

รีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไร?

การรีไฟแนนซ์บ้าน คือการขอสินเชื่อก้อนใหม่จากธนาคารเดิม หรือธนาคารแห่งใหม่มาโปะหนี้ก้อนเดิมตามระยะเวลาที่กำหนด โดยส่วนใหญ่แล้วการรีไฟแนนซ์เป็นเทคนิคที่ลูกหนี้นิยมใช้เพื่อเป็นช่องทางลดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลง แถมยังช่วยลดค่างวดที่ต้องจ่ายต่อเดือนให้น้อยลง เพื่อยืดระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ให้นานขึ้น

พูดง่ายๆ คือการยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้านช่วยให้เจ้าของบ้านได้เอาเงินส่วนต่างจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงไปใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ที่จำเป็น หรือจะนำไปหมุนเวียนในธุรกิจก็ได้

ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้านที่ควรรู้

สำหรับวันนี้ rabbit finance ก็มี ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้าน ที่เพื่อนๆ ควรรู้มาฝากกัน เพื่อให้ลองศึกษาและทำความเข้าใจอย่างละเอียด รับรองว่างานนี้ได้ผลประโยชน์ที่คุ้มค่าอย่างแน่นอนค่ะ

1.เลือกธนาคารที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง เพราะสถาบันการเงินมีให้เลือกมากมายหลายแห่ง ไหนจะโปรโมชั่นล่อตาล่อใจที่ทำเอาคิดหนัก เราขอแนะนำให้เข้าไปเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยการรีไฟแนนซ์บ้านที่ www.refinn.com ที่รวบรวมมาอย่างครบครัน เพื่อความสะดวกของเพื่อนๆเอง

2.เตรียมเอกสารให้พร้อม ซึ่งการยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อนๆ ต้องเตรียมเอกสารทั้งหมด 3 ประเภทนะคะ นั่นคือ เอกสารส่วนบุคคล (บัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน), เอกสารแสดงรายได้ และเอกสารหลักประกัน (โฉนดที่ดินและสัญญากู้ฉบับเดิม)

3.ยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ หลังจากยื่นเรื่องขอรีไฟแนนซ์บ้านและแนบเอกสารอย่างครบถ้วนแล้ว ทางธนาคารหรือสถาบันการเงินก็จะเริ่มส่งเจ้าหน้าที่มาประเมินหลักประกัน และทำเรื่องพิจารณาอนุมัติอีกประมาณ 1 เดือน

4.จัดการยอดหนี้คงเหลือ สำหรับเพื่อนๆ ที่ได้รับการอนุมัติจากธนาคารใหม่แล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะให้เราไปดำเนินการสอบถามยอดหนี้คงเหลือและนัดวันไถ่ถอนจากธนาคารเก่าที่กู้ไว้ เพื่อให้ทั้ง 2 ธนาคารโอนหนี้ให้กันตรงตามยอดคงเหลือ

5.ทำสัญญาและจดจำนอง เมื่อจัดการเอกสารเรียบร้อย ทางธนาคารใหม่จะนัดหมายให้เราไปเซ็นสัญญาฉบับใหม่ที่กรมที่ดิน พร้อมกับการทำสัญญาจำนองในวันเดียวกัน เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว

ข้อควรระวังสำหรับคนอยากรีไฟแนนซ์บ้าน

สำหรับเพื่อนๆที่สนใจการรีไฟแนนซ์บ้าน นอกจากต้องศึกษารายละเอียดและเปรียบเทียบเงื่อนไขจากสถานบันการเงื่อนอย่างถี่ถ้วนแล้ว ยังมีข้อควรระวังอีกเยอะที่ต้องให้ความสำคัญนะคะ ว่าแล้วก็ตามไปดูกันเลย

1.คำนวณค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์ว่าคุ้มค่าหรือไม่

2.เปรียบเทียบดอกเบี้ยหลังหมดโปรโมชั่นของแต่ละธนาคาร ของ MLR ของแต่ละแห่งไม่เท่ากัน

3.บางธนาคารมีโปรโมชั่นฟรีจดจำนอง เหมาะสำหรับคนที่ไม่สะดวกเตรียมค่าจดจำนองมาในวันที่ต้องโอนกรรมสิทธิ์

4.ธนาคารบางแห่งสามารถต่อรองดอกเบี้ยหลังหมดโปรโมชั่นได้ และถ้าลองเปรียบเทียบแล้วไม่เห็นความต่าง เพื่อนๆก็ไม่จำเป็นต้องรีไฟแนนซ์บ้าน

5.การเลือกซื้อประกันภัย หรือประกันชีวิตประเภทต่างๆ ที่ธนาคารขายคู่กับสินเชื่อเป็นเรื่องที่สามารถต่อรองและเลือกตามความต้องการของเราได้

สินเชื่อบ้าน

สำหรับเพื่อนๆ ที่เคยสับสนระหว่าง สินเชื่อบ้าน และ การรีไฟแนนซ์บ้าน คงเข้าใจแจ่มแจ้งกันแล้วนะคะ คราวนี้ใครสนใจจะทำการรีไฟแนนซ์บ้านของตัวเองแต่กลัวจะได้รับสิทธิประโยชน์ไม่คุ้มค่า เราขอแนะนำบริการรีไฟแนนซ์จาก Refinn ช่องทางออนไลน์ที่ช่วยเปรียบเทียบข้อเสนอและหาโปรโมชั่นที่ดีที่สุดมาให้คุณ รับรองว่าสะดวกสบาย และวางใจได้อย่างแน่นอน ที่สำคัญยังไม่มีค่าบริการด้วยนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก www.imoneythailand.com , moneyhub.in.th rabbitfinance.com