10 ที่เที่ยวห่างไกลผู้คน สำหรับคนเบื่อโลก อยากหนีไปจากตรงนี้
เราทุกคนคงเคยมีฟิล เบื่อคน เบื่องาน เบื่อโลก อยากปลีกตัวออกจากทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วหนีหายไป ใช้เวลาอันมีค่ากับตัวเองในที่ไกลๆ สักพักกันบ้าง แต่จะให้ไปเที่ยวที่เดิมๆ หรือ ที่เที่ยวดังๆ มันก็อาจจะจำเจ และไม่ส่วนตัวแบบที่ต้องการสักเท่าไหร่
rabbit finance จึงอยากจะพาคุณไปรู้จักกับ 10 สถานที่ที่ขึ้นชื่อว่า อยู่ห่างไกลผู้คนมากที่สุดในโลกกัน เผื่อว่าจะเป็นไอเดีย สำหรับทริปท่องเที่ยวในวันที่คุณรู้สึกเบื่อโลกและอยากจะหนีจากความวุ่นวายตรงหน้าไปไกลๆ ค่ะ
วิทยาศาสตร์กล่าวว่า การปลีกวิเวกออกจากผู้คน ช่วยให้ชีวิตดีขึ้นได้จริง
การปลีกวิเวก ไปอยู่กับตัวเอง ในที่ที่เงียบสงบ ห่างไกลผู้คน ห่างไกลจากความวุ่นวายในชีวิตบ้าง เป็นเรื่องดีต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจของเราไม่น้อยเลยทีเดียวคjt หลายๆ คนอาจจะเถียงว่า การอยู่คนเดียว มันไม่ดีหรอก เหงาตายพอดี แต่จริงๆ แล้ว มันมีประโยชน์กับชีวิตเราหลายๆ ด้านเลยค่ะ อย่างเช่น
- ทำให้เราเข้าอกเข้าใจผู้อื่นได้มากขึ้น
เมื่อเราอยู่กับกลุ่มเพื่อน คนเราจะพัฒนากรอบความคิดเรื่อง “พวกเรา vs. พวกเขา” ขึ้นมา ซึ่งการใช้เวลาอยู่กับตัวเองนั้น จะช่วยทำให้คุณมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นที่อาจจะไม่ได้อยู่ในกลุ่มวงในของคุณได้มากขึ้นค่ะ
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
มี งานวิจัย บ่งชี้ว่า การถูกห้อมล้อมด้วยผู้คน เช่น การทำงานในออฟฟิศแบบเปิด อาจส่งผลให้สกิลความคิดสร้างสรรค์ลดลงได้ค่ะ คนเราจึงจะทำงานได้ดีกว่าเมื่ออยู่ตัวคนเดียวนั่นเอง นอกจากนั้นมันยังช่วยฝึกให้คุณมีสมาธิได้มากขึ้นด้วย
- ช่วยให้สุขภาพจิตแข็งแรง
มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคมก็จริง แต่ การปลีกวิเวก ไปอยู่คนเดียวก็มีความสำคัญไม่แพ้กันค่ะ เพราะถ้าเราสามารถอดทนใช้ชีวิตคนเดียวได้ดี เราจะมีความสุขและความพอใจในชีวิตได้มากขึ้น แถมยังช่วยให้เรารับมือกับความเครียด และภาวะซึมเศร้าได้ดีขึ้นด้วยค่ะ
- ทำให้เรามีเวลาในการวางแผนชีวิตมากขึ้น
การหนีไปใช้ชีวิตอยู่กับตัวเองสักพัก จะทำให้เรามีเวลามากพอ ที่จะค้นหาเป้าหมายและความต้องการในชีวิตของเราได้ ซึ่งเมื่อกลับมาสู่โลกแห่งความจริง มันจะทำให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น และช่วยให้เราสามารถ จัดการชีวิตได้ดีขึ้น ด้วยนะคะ
- ช่วยให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น
เมื่ออยู่คนเดียว เราจะสามารถตัดสินใจทุกอย่างได้ โดยไม่มีอิทธิพลของคนรอบข้างเข้ามาแทรกแซง ดังนั้น มันจึงทำให้เรารู้จักตัวตนที่แท้จริงของตัวเองได้มากขึ้น ทำให้รู้สึกพอใจกับตัวเองมากขึ้น และยังส่งผลให้ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างดีขึ้นได้ด้วยค่ะ
ฉะนั้น การจัดสรรเวลาในแต่ละวันให้กับตัวเอง หรือการไปเที่ยวพักผ่อนคนเดียวบ้างนานๆ ครั้ง จะช่วยคุณหายเหนื่อยกับชีวิตและชาร์จพลังกลับมาเป็นคุณที่สดใสกว่าเดิมได้ด้วยค่ะ
10 ที่เที่ยวปลีกวิเวก ที่ห่างไกลผู้คนมากที่สุดในโลก
1. Tristan da cunha เกาะสุดเหงา กลางมหาสมุทรแอตแลนติก
เกาะภูเขาไฟ แห่งนี้ ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ที่ห่างไกลผู้คนแถบจะที่สุดในโลกเลย ซึ่งถ้าถามว่าไกลแค่ไหน ก็แค่ว่ามันตั้งอยู่ใจกลางมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้ ซึ่งห่างจากชายฝั่งที่ใกล้ที่สุดถึง 2,800 กิโลเมตรและวิธีเดียวที่จะเดินทางไปถึงที่นี่ได้ คือ การนั่งเรือ เป็นระยะเวลาถึง 7 วันด้วยกันค่ะ
โดยเกาะแห่งนี้มีคนอาศัยอยู่เพียง 300 คนเท่านั้น และบนเกาะ ไม่มีร้านอาหาร ไม่มีโรงแรม ไม่มีสนามบิน ไม่มีอะไรทั้งสิ้นค่ะ มีแต่เกาะและความว่างเปล่าของมหาสมุทรเท่านั้น เรียกว่า ใครอยากไปลองใช้ชีวิตติดเกาะดูสักครั้ง ที่นี่เหมาะสุดแล้วค่ะ
2. Motuo ยอดเขาทิเบตอันหนาวเหน็บ
คำว่า Motuo มีความหมายว่า “ดอกบัวที่ถูกอำพราง” ซึ่งเป็นชื่อที่เหมาะสมกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้สุดๆ ค่ะ เพราะทิเบตถือเป็นประเทศที่เพิ่งจะมีถนนตัดผ่านไม่กี่ปีมานี้ ทำให้ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเข้าไปมากนักค่ะ ธรรมชาติ แถบนี้จงถือว่าอุดมสมบูรณ์มากๆ เลยทีเดียว
การเดินทางไปที่นี่ ก็ไม่ยากไม่ง่ายเกินไปค่ะ เพียงแค่ ไต่เขา ไปเรื่อยๆ 4 วันก็ถึงแล้วค่ะ เรียกว่า ห่างไกลและเงียบสงบ เหมาะกับคนที่อยากปลีกวิเวกไปอยู่กับธรรมชาติสุดๆเลยค่ะ
3. Ittoqqortoormiit เมืองหิมะแห่งกรีนแลนด์
เมือง Ittoqqortoormiit แห่งนี้ เรียกได้ว่า เป็นเมืองที่เงียบสงบและห่างไกลผู้คนมากที่สุดในโลกเลยค่ะ ซึ่งนอกจากประชากร 450 คนแล้ว ผู้อยู่อาศัยอื่นๆ ก็มีแค่ แมวน้ำ วอลรัส วาฬนาร์วาล หมีขั้วโลก และ หมาจิ้งจอกอาร์กติกเท่านั้นเอง
จุดเด่นของเมืองนี้ คือ บ้านที่มีสีสันสดใสตัดกับหิมะสีขาวที่ตกหนักตลอดปี และถึงแม้จะห่างไกล ก็ไม่ต้องกลัวเบื่อค่ะ เพราะมีกิจกรรมสนุกๆ รอให้ทำอยู่มากมายเลย อย่าง การนั่งเลื่อนหิมะ หรือ การพายเรือคายัคนั่นเอง ซึ่งถ้าใครอยากลองไปเที่ยวที่นี่ดูสักครั้ง การจะไปถึงได้ต้องบินไปถึงสนามบิน Nerlerit Inaat Airport ในกรีนแลนด์ซะก่อน แล้วค่อยอาศัยเฮลิคอปเตอร์ต่อไปค่ะ
4. Mcmurdo Station สถานีวิจัยในแอนตาร์กติก้า
แอนตาร์กติก้า ถือเป็นทวีปเดียวในโลกที่ไม่มีผู้อยู่อาศัยแบบถาวรเลย (คือ ไม่มีใครมีบ้านเกิดอยู่ที่นี่แน่นอน) บอกแค่นี้คงนึกภาพออกนะคะว่ามันต้องอ้างว้างโดดเดี่ยวขนาดไหน ซึ่ง Mcmurdo Station ก็ไม่ได้เปิดให้ นักท่องเที่ยว เข้ามาเท่าไหร่นัก เพราะมันเป็น ที่ตั้งของศูนย์วิจัย นั่นเอง
ทำให้คนที่จะมาที่นี่ได้ ต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ ทหาร หรือ ศิลปิน เท่านั้น ซึ่งจะมาก็ต้องนั่งเครื่องบินทหาร ต่อด้วยรถสะเทินน้ำสะเทินบกสะเทินหิมะอีก ซึ่งถ้าใครมีโอกาสได้ไปนั่งเล่นหิมะชิคๆ คนเดียวที่นี่ นับว่าโชคดีมากๆ เลยค่ะ
5. Easter Island เกาะอันเงียบสงบของเหล่าโมอาย
Easter Island หรือ Rapa Nui คือ เกาะอันแสนโดดเดี่ยว ที่เป็นส่วนหนึ่งของประเทศชิลีค่ะ ซึ่งถือเป็นพื้นที่ประวัติศาตร์ ที่ใครๆ ก็อยากมาลองสัมผัสเสน่ห์อันลึกลับของมันดูสักครั้ง
นอกจากชาวบ้านบนเกาะที่มีเพียง 5,000 คนแล้ว ประชากรที่หนาแน่นที่สุดน่าจะเป็น “รูปปั้นหินโมอาย” รูปปั้นปริศนา ที่จนปัจจุบันยังไขความลับกันไม่ได้เลยว่า มันเกิดมาได้ยังไงแล้วใครเป็นคนทำค่ะ ดังนั้นจึงเหมาะมากๆ สำหรับใครที่อยากลองไปปลีกวิเวกในที่แปลกๆ ดูบ้าง ซึ่งถ้าใครอยากไปเที่ยวที่นี่ ก็สามารถนั่งเครื่องบินต่อจาก เมือง Santiago ในชิลีไปได้เลย
6. Kerguelen Islands เกาะร้างไร้ผู้คน
ถ้าถามถึงความร้างของที่นี่ ก็ลองนึกภาพตามนะคะ ว่าสถานที่ที่ใกล้กับเกาะแห่งนี้มากที่สุด คือ มาดากัสการ์ ซึ่งก็ห่างกันไกลถึง 3,000 กว่ากิโลเมตร และหนทางเดียวที่จะเดินทางมาถึงที่นี่ได้ คือ การนั่งเรือที่จะออกเดินทางเพียงปีละ 4 ครั้งเท่านั้น
ทำให้ Kerguelen Islands ไม่มีประชากรท้องถิ่นอาศัยอยู่เลยค่ะ แต่ถ้าจะถามถึงมนุษย์บนเกาะก็คงมีแต่พวกนักวิจัยที่เดินทางไปสำรวจที่นี่เท่านั้น เพราะฉะนั้น ถ้าใครอยากหายจากโลกไปอยู่คนเดียวสักพัก ที่นี่แหละค่ะ เหมาะสุดแล้ว
7. Pitcairn Island เกาะสวย น้ำใส ใจกลางมหาสมุทร
เกาะอันห่างไกล ใจกลางมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ที่มีประชากรอาศัยเพียง 50 คนแห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ ประเทศอังกฤษ ค่ะ ซึ่งนอกจาก Pitcairn island โดยรอบของมันยังมีเกาะน้อยอีก 3 เกาะ คือ Ducie Oeno และ Henderson ค่ะ ซึ่งแต่ละที่ก็ร้างพอกัน เพราะมันไม่มีคนอยู่นั่นเอง
แต่จุดเด่นเลย คือ ธรรมชาติอันสวยงาม ภูเขาอันอุดมสมบูรณ์ และ น้ำทะเลสีฟ้าใส ที่พบได้แค่ไม่กี่ที่ในโลกเท่านั้น ถึงจะต้องนั่งเรือไปเป็นวันกว่าจะถึง ก็ถือว่าคุ้มค่าถ้าได้ไปนั่งเงียบๆ ดูพระอาทิตย์ตกที่นี่สักครั้งนะคะ
8. Hawaii หมู่เกาะน้อยใหญ่ ห่างไกลความวุ่นวาย
ถึงแม้เมืองใหญ่ของ Hawaii อย่าง Honolulu จะเป็น สถานที่พักผ่อน ยอดนิยมของคนทั่วโลก แต่ในหมู่เกาะแห่งนี้ ยังมีอีกหลายๆ ที่ที่เหมาะกับการเดินทางไปนั่งชิลๆ ชมวิวภูเขาทะเล อย่างสบายใจด้วยตัวคนเดียวค่ะ
อย่างเช่น เกาะ The Big Island หรือ เกาะ Kauai ก็ถือเป็นเกาะที่ไม่ค่อยมีคนไปนัก จึงเหมาะมากๆ สำหรับคนที่อยากไปอยู่คนเดียวเงียบๆ แต่ก็ยังไม่อยากห่างไกลจากความเจริญมากเกินไปนักค่ะ
9.Oymyakon จุดเยือกแข็งแห่งรัสเซีย
เมือง Oymyakon เป็นที่รู้จักกันในนามของ “เมืองที่หนาวที่สุดในโลก” ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ -28 องศาเซลเซียส แถมพื้นดินยังปกคลุมด้วยน้ำแข็งตลอดทั้งปีอีกด้วย แต่ถ้ามองในแง่ดี สำหรับใครที่ชอบอากาศหนาว และกำลังมองหาความเงียบสงบอยู่ เมืองนี้แหละเวิร์คสุดค่ะ
ที่นี่มีประชากรอาศัยอยู่แค่ประมาณ 500 คนเท่านั้น ซึ่งทางเดียวที่จะมาถึงได้ คือ การขับรถเข้ามาค่ะ เพราะอากาศมันเย็นไปสำหรับเครื่องบินนั่นเอง
10.Socotra Island หมู่เกาะเอเลี่ยนแห่งเยเมน
สำหรับคนที่อยากหนีไปอยู่ตัวคนเดียว โดดเดี่ยวบนห้วงอวกาศอันว่างเปล่า ฝันนั้นมันอาจจะไกลไปนิดนึงค่ะ แต่ถ้าอยากลองหนีจากสิ่งจำเจในชีวิต แล้วไปสัมผัสกับบรรยากาศแปลกใหม่ ที่ไม่เหมือนที่ไหนบนโลกดูสักครั้ง Socotra Island คือ คำตอบของคุณค่ะ
เพราะบนเกาะเอเลี่ยนแห่งนี้ มีแต่ต้นไม้และสัตว์แปลกๆ หายากเต็มไปหมด ขนาดที่ว่า 1 ใน 3 ของสิ่งมีชีวิตบนเกาะนี้ ไม่สามารถหาได้อีกแล้วจากที่อื่นบนโลกใบนี้ มันเลยให้ความรู้สึกเหมือนเราหลุดไปอยู่กับตัวเองบนดาวเคราะห์อะไรสักอย่างเลยล่ะค่ะ
และนี้คือ 10 สถานที่ที่ห่างไกล โดดเดี่ยว เดี่ยวดาย เหมาะสำหรับการไปปลีกวิเวกที่สุดในโลกค่ะ ถึงแม้บางที่อาจจะเดินทางไปถึงยากสักหน่อย แต่ถ้ามีโอกาสได้ไปสักครั้งในชีวิต คงจะฟินไม่น้อยเลยล่ะค่ะ ทริปหน้าใครได้ไปเที่ยวสถานที่เหล่านี้ อย่าลืมเก็บรูปมาฝาก rabbit finance ด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก rabbitfinance.com