ว่ากันว่า ยิ่งคุณจ่ายภาษีแพงเท่าไหร่

คุณภาพชีวิตที่คุณจะได้รับ ก็จะยิ่งดีเท่านั้น คุณว่าจริงไหม??

เพราะผู้เสียภาษีทุกคน รู้กันดีอยู่แล้วว่า เงินทุกบาทที่คุณได้เสียภาษีไป ล้วนแต่เป็นเงินที่เอาไปพัฒนาประเทศ ไม่ว่าจะด้านความปลอดภัยในชีวิต ระบบการเดินทาง สาธารณูปโภค หรือรวมถึงทางด้านการแพทย์

เอาเป็นว่าวันนี้ rabbit finance จะพาทุกคนไปรู้จักกับประเทศที่เสียภาษีแพงที่สุดในโลก มาดูกันว่าประเทศเหล่านั้นเป็นอย่างไร และแอบส่องสักหน่อยว่า เมื่อพวกเขาต้องเสียภาษีแพงขนาดนี้ คุณภาพชีวิตที่ได้รับจะดีมากหรือน้อยขนาดไหน 

ภาษีแพง
ขอบคุณรูปภาพจาก defendhomeowners.com

เปิดวาร์ป 5 ประเทศ ที่เสียภาษีแพงที่สุดในโลก

เชื่อเถอะว่า แม้การเสียภาษีจะเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ของประชาชนในประเทศ แต่ก็คงไม่มีใครอยากที่จะเสียภาษี หรือควักเงินออกจากกระเป๋าไปง่ายๆ หรอก ไม่เช่นนั้นจะเกิดกรณี คนยักยอกภาษี โกงภาษี ไม่จ่ายภาษี กันหรือ? เอาเป็นว่า หากคุณคิดว่าประเทศไทยเสียภาษีแพงแล้วล่ะก็ มาดูประเทศต่างๆ เหล่านี้กันดีกว่า ว่าเขาต้องเสียภาษีกันเท่าไหร่

ภาษีแพง
ขอบคุณรูปภาพจาก http://travelzeed.com

5. สโลวีเนีย Slovenia

มาเริ่มกันที่ลำดับ 5 กันก่อน กับ สโลวีเนีย หรือ สาธารณรัฐสโลวีเนีย ประเทศจากยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ ธรรมชาติที่สวยงาม และสถาปัตยกรรมที่มีมนต์เสน่ห์

คุณภาพชีวิตในประเทศ : 70%

ระบบการขนส่งในประเทศ : รถยนต์ส่วนตัว จักรยาน รถไฟใต้ดินหรือรถไฟฟ้า และรถโดยสารสาธารณะ

สภาพการจราจร : ติดขัดเพียง 11% คิดดูแล้วจำนวนเปอร์เซ็นต์เท่านี้ ดูจะเล็กน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับประเทศไทย ผู้เป็นเจ้าครองนครรถติดที่สุดในโลก

ด้านการแพทย์ : คุณภาพและการดูแลทางด้านการแพทย์ 64% ซึ่งก็นับว่าเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นการดูแลทางด้านการแพทย์ของสโลวีเนียก็อยู่ในระดับที่ดี

ประเทศสโลนีเวียเก็บภาษีเฉลี่ยอยู่ที่ : 33.4%

จากการวิเคราะห์แล้ว จะเห็นได้ว่า จากค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์การเก็บภาษีที่ 33.4% สอดคล้องกับคุณภาพชีวิตและการดูแลในด้านต่างๆ ที่มีให้บริการในประเทศ ไม่ว่าจะการจราจร การแพทย์ รวมถึงความปลอดภัยในชีวิต ที่อยู่ในระดับสูงทั้งสิ้น

ภาษีแพง
ขอบคุณรูปภาพจาก www.yingpook.com

4. ฮังการี Hungary

มาต่อกันที่ลำดับ 4 ประเทศฮังการี อีกหนึ่งประเทศจากยุโรปกลาง ดินแดนแห่งความสวยงาม และแหล่งท่องเที่ยวที่มีมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ไปเยี่ยมชม

คุณภาพชีวิตในประเทศ : 53%

ระบบการขนส่งในประเทศ : โดยส่วนใหญ่คนในประเทศมักจะเดินทางโดยใช้รถส่วนตัว และรถโดยสารประจำทาง

สภาพการจราจร :  ความติดขัดอยู่ที่ 12% แม้จะสูงกว่าประเทศสโลวีเนีย แต่ก็ยังถือว่าเป็นตัวเลขที่น้อยอยู่ดี

ด้านการแพทย์ : ทั้งคุณภาพการรักษา การดูแลผู้ป่วย รวมถึงอุปกรณ์ในการรักษา อยู่ที่ระดับ 52% ซึ่งเป็นตัวเลขในระดับปานกลาง เนื่องด้วยฮังการีไม่ได้ใช้อุปกรณ์ หรือเครื่องไม้เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยที่สุด

ประเทศฮังการีเก็บภาษีเฉลี่ยอยู่ที่ : 33.5%

จะเห็นได้ว่า ประเทศฮังการี เป็นอีกประเทศที่ค่อนข้างมีคุณภาพชีวิตที่ดี จากการเก็บภาษีที่แพง อีกทั้งฮังการียังมีการดูแลในเรื่องของความสะอาดได้อย่างดีเยี่ยม เอาเป็นว่าแม้ฮังการีจะเก็บภาษีแพง แต่คุณภาพชีวิตที่ได้กลับมาก็คุ้มค่าที่จะเสียภาษีมากค่ะ

ภาษีแพง
ขอบคุณรูปภาพจาก travelvisabookings.com

3. เดนมาร์ก Denmark

ผ่านมาครึ่งทางกับประเทศที่เสียภาษีแพงที่สุดในโลก กับลำดับที่ 3 ประเทศเดนมาร์ก ประเทศในยุโรปตอนเหนือที่มีระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม เป็นประเทศที่ติดอันดับมีรายได้เข้าประเทศสูงเป็นลำดับต้นๆ ของโลก

คุณภาพชีวิตในประเทศ : 76%

ระบบการขนส่งในประเทศ : ชาวเดนมาร์กมักจะเดินทางกันโดย รถยนต์ส่วนตัว, จักรยาน, รถโดยสารประจำทาง ด้วยสภาพการจราจรที่ดีไม่มีปัญหาการจราจรติดขัด ทำให้การเดินทางยิ่งสะดวกสบายมาก

สภาพการจราจร : 9% ถือว่าเป็นตัวเลขสภาพการจราจรติดขัดที่น้อยมากๆ

ด้านการแพทย์ : 75% แน่นอนว่า ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่า การดูแลทางด้านการแพทย์ของเดนมาร์ก มีการดูแลที่ดีพร้อม

ประเทศเดนมาร์กเก็บภาษีเฉลี่ยอยู่ที่ : 39.2%

เดนมาร์กประเทศเล็กๆ ที่เคยติดลำดับเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก แน่นอนว่าจะขึ้นชื่อเรื่องความแพงของภาษี แต่สิ่งที่ได้กลับมา คือ คุณภาพชีวิตที่แสนจะลงตัว และเพอร์เฟค ทั้งทางการแพทย์ การศึกษา รวมไปถึงความปลอดภัยในชีวิต

ภาษีแพง
ขอบคุณรูปภาพจาก pracob.blogspot.com

2. เยอรมนี Germany

ใกล้ลำดับ 1 เข้าไปทุกที แต่ขอแวะมาที่ลำดับ 2 ซึ่งอยู่ในฝั่งยุโรปกลางกันก่อน นั่นก็คือ ประเทศเยอรมนี อีกหนึ่งประเทศที่มีอิทธิพลต่อยุโรป มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าที่สุดในโลก รวมไปถึง ด้านวิศวกรรม อุตสาหกรรม การแพทย์ และการทหารด้วย 

คุณภาพชีวิตในประเทศ : 75%

ระบบการขนส่งในประเทศ : ประชาชนชาวเยอรมนีส่วนใหญ่นิยม ใช้รถยนต์ส่วนตัว, จักรยาน ในการเดินทางภายในประเทศ

สภาพการจราจร : 10% หากดูการจราจรในเหล่าประเทศภาษีแพงที่กล่าวมาแล้ว เยอรมนีดูเหมือนจะมีสภาพการจราจรที่ ติดขัดอยู่ในระดับปานกลาง

ด้านการแพทย์ : 79% ไม่ว่าจะคุณภาพ การบริการ รวมถึงอุปกรณ์เครื่องมือการแพทย์ที่ใช้ในการรักษา พูดได้เลยว่ามีคุณภาพสูงทั้งสิ้น

ประเทศเยอรมนีเก็บภาษีเฉลี่ยอยู่ที่ : 39.7%

เยอรมนี เป็นประเทศที่เก็บภาษีแพงเป็นลำดับที่ 2 ของโลก ก็นับว่าเหมาะสมกับคุณภาพชีวิตที่ดี จ่ายไปแพง ก็ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า  ที่สำคัญเยอรมนีก็ติดลำดับเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลกอีกด้วย 

ภาษีแพง
ขอบคุณรูปภาพจาก pantip.com/topic/37311524

1. เบลเยี่ยม Belgium

และแล้วก็มาถึงประเทศที่เสียภาษีแพงที่สุดในโลก นั่นก็คือ ประเทศเบลเยี่ยม นั่นเอง เบลเยี่ยมอยู่ในยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือ มีความหลากหลายทางภาษา อีกทั้งใครที่หลงรักและหลงใหลในช็อกโกแลต และสถานที่ท่องเที่ยว ศิลปะ วัฒนธรรม ก็ควรที่มาสัมผัสด้วยตนเองสักครั้ง

คุณภาพชีวิตในประเทศ : 62% เมื่อเทียบกับประเทศเก็บภาษีแพง ในด้านของคุณภาพชีวิตโดยรวม เบลเยี่ยมอาจจะยังมีการจัดการในการดูแลในหลายๆ จุด ที่ยังไม่ดีพอ ส่งผลให้เปอร์เซ็นต์คุณภาพชีวิตที่ออกมาอาจจะยังดูน้อยไป

ระบบการขนส่งในประเทศ : ประชาชนในประเทศเบลเยี่ยมส่วนใหญ่นิยมใช้ รถยนต์ส่วนตัว, จักรยาน, รถโดยสารประจำทาง ในการเดินทางภายในประเทศ

สภาพการจราจร : 14% จะเห็นได้ว่า จากเปอร์เซ็นต์ในสภาพจราจร เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่จัดเก็บภาษีแพงๆ ในข้างต้น เบลเยี่ยมอาจจะยังมีการจัดการในส่วนนี้ได้ไม่ดีเท่าไรนัก 

ด้านการแพทย์ : 80% แต่ต้องบอกว่าในด้านการแพทย์ การดูแลสุขภาพของชาวเบลเยี่ยมไม่ว่าจะการบริการ ความรวดเร็วในการดูแล อุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ ล้วนแล้วแต่มีคุณภาพดีทั้งสิ้น

ประเทศเบลเยี่ยมเก็บภาษีเฉลี่ยอยู่ที่ :  40.7%

อย่างไรก็ตาม แม้ประเทศเบลเยี่ยม จะเป็นประเทศที่เก็บภาษีแพงที่สุด แต่ระบบการดูคุณภาพชีวิตในประเทศนั้น ก็อาจจะยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง เมื่อเทียบกับในประเทศที่เก็บภาษีแพงประเทศอื่นๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก finextra.com

ขอบคุณข้อมูลจาก rabbitfinance.com