นิสัยการทำงาน 4 แบบ ที่ต้องเรียนรู้และเตรียมรับมือให้ทัน

เหนื่อยกับงานยังพอทน แต่ถ้าเหนื่อยกับคนละคะ เราจะทำยังไงดี?

ในชีวิตการทำงาน เราคงไม่ได้โชคดีเจอเพื่อนร่วมงานที่น่ารักเสมอไปหรอกจริงมั้ยคะ เพราะบางครั้งโลกก็ชอบโคจรเอาคนที่เป็น “ขั้วตรงข้าม” มาอยู่ใกล้ๆ เราซะงั้น นิสัยไม่เหมือนกัน คุยกันไม่เข้าใจ ทำงานไปทะเลาะกันไปเสียอารมณ์ทุกที

เราคงต้องทำใจค่ะ ว่าไม่ใช่ทุกคนในออฟฟิศที่จะเข้ากับเราได้ และคนทุกคนก็มีนิสัยส่วนตัวและวิธีการทำงานที่แตกต่างกันไป ดังนั้น เพื่อที่จะสร้าง สังคมการทำงานอันสงบสุข เราเองก็ควรที่จะเรียนรู้นิสัยและวิถีการทำงานของเพื่อนร่วมงานไว้บ้าง เพื่อที่จะได้เตรียมตัวรับมือกับพวกเขาในสถานการณ์ต่างๆ ได้ทันค่ะ

รู้จักตัวเองก่อน ว่าเรามีวิถีการทำงานแบบไหน?

เราทุกคนต่างก็เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนกัน ทำให้คนเราไม่มีใครมี บุคลิกนิสัย เหมือนกันแบบ 100% ได้หรอกค่ะ และการที่เราจะอยู่ในสังคมใดๆ ได้อย่างมีความสุขนั้น เราต้องเริ่มจากการรู้จักตัวเองก่อน ว่าเราเป็นคนแบบไหน และในขณะเดียวกัน เราก็ต้องเรียนรู้นิสัยใจคอของคนรอบข้าง และยอมรับในความแตกต่างของผู้อื่นให้ได้ด้วยค่ะ

คนๆ หนึ่ง มีบุคลิกนิสัยหลายร้อยอย่างผสมปนเปกันไป แต่เราทุกคนมักจะมี Default Style หรือ นิสัยเคยชินที่เรามักจะมีแนวโน้มทำแบบนั้นก่อนเสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการสื่อสารกับผู้อื่นหรือในการทำงานค่ะ ดังนั้น มาลองทดสอบกันหน่อยดีกว่า ว่าคุณมีสไตล์การทำงานแบบไหน แล้วมาดูผลลัพธ์กันค่ะ

[คลิกเพื่อทำแบบทดสอบ]

4 สไตล์การทำงาน ของเหล่ามนุษย์เงินเดือน

1.Driver ผู้ทะเยอทะยาน

ผู้ทะเยอทะยาน ตั้งใจทำงานแบบนี้ มักจะได้รับตำแหน่ง หัวหน้า ไปครองค่ะ เพราะพวกเขาชอบที่จะทำงานหนัก และมักให้ความสำคัญกับ การทำงานให้เสร็จพร้อมกับผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม นั่นเอง

- ข้อดี

Driver ชอบการแข่งขัน เป็นคนที่ตัดสินใจอะไรเด็ดขาด และรู้จักที่จะแบ่งงานให้ผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ คนแบบนี้ จะชอบอยู่ในที่ที่ได้มีบทบาทและมีแนวโน้มจะ ชอบความเสี่ยง มากกว่าคนอื่นค่ะ

เวลาทำงาน Driver จะโฟกัสที่ความสำเร็จและการทำงานให้เสร็จออกมาเป็นรูปธรรม ชอบมีตัวเลือกหลายๆ ทางให้ตัดสินใจและชอบที่จะได้รับคำวิจารณ์แบบตรงไปตรงมาค่ะ

- ข้อเสีย

คนแบบนี้ มองแว๊บแรกอาจจะดูเจ้ากี้เจ้าการไปนิด ชอบบังคับคนอื่นมากไปหน่อย และชอบตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง โดยไม่ค่อยสนความเห็นของคนอื่นค่ะ และถ้า Driver เจอ ความเครียด ขึ้นมา ก็อาจจะกลายร่างเป็นพวกบ้าอำนาจไปโดยไม่รู้ตัวได้เหมือนกัน

2.Analytical นักวิเคราะห์

เหล่านักวิเคราะห์ จะให้ความสำคัญกับ รายละเอียดของงานและตัวเลข เป็นหลักค่ะ ชอบใช้ตรรกะและเหตุผลในการตัดสินใจ ทำให้พวกเขาเป็นคนที่ทำงานได้รอบคอบและละเอียดยิบมากๆ เลยล่ะค่ะ

- ข้อดี

คนแบบนี้จะชอบวางแผนในหัวให้ครบจบทุกขั้นตอนก่อน แล้วค่อยลงมือทำทีเดียว มักจะเป็นคนเด็ดเดี่ยว มีระเบียบสูง ชอบทำงานคนเดียว รอบคอบเป็นพิเศษ และมีเหตุผลสุดๆ ค่ะ แถมยังเถียงเก่งและชอบที่จะเป็นฝ่ายถูกตลอดเวลาด้วยนะคะ

- ข้อเสีย

Analytical บางครั้งมักจะชอบเก็บตัวอยู่คนเดียวค่ะ และเข้ากับคนอื่นได้ยากหน่อย เป็นคนชอบวิจารณ์ทุกอย่างรอบตัว นิสัยจุกจิก รักความสมบูรณ์แบบ และก็หัวดื้อด้วยค่ะ ถ้าต้องเจอกับภาวะกดดันมากๆ ก็อาจจะทำให้เป็นคนโลเล และมักจะ หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า กับคนอื่นไปเลยด้วย

3.Expressive คนช่างฝัน

Expressive ชอบที่จะช่วยเหลือผู้อื่นและมีความคิดสร้างสรรค์อยู่ตลอดเวลาค่ะ พวกเขาจะให้ความสำคัญกับ ภาพรวมของงาน เป็นหลักและชอบที่จะ ทำงานเป็นทีม เพื่อที่จะทำภาพในหัวให้ออกมาเป็นความจริงได้มากที่สุดนั่นเอง

- ข้อดี

คนแบบนี้ ชอบที่จะแชร์ไอเดียของตัวเองให้คนอื่นฟังและก็ยังชอบรับฟังความเห็นของคนอื่นด้วยค่ะ เป็นคนพูดเก่ง ใจกว้าง มีความคิดสร้างสรรค์ มีสัญชาตญาณดี และมักจะเป็นสีสันให้กับ ออฟฟิศ เสมอค่ะ

- ข้อเสีย

คนลักษณะนี้ จะเป็นคนที่ทำงานไม่ค่อยละเอียดค่ะ เพราะชอบที่จะคิดมากกว่า แล้วรอให้คนอื่นลงมือทำรายละเอียดต่างๆ แทน เป็นคนโอเว่อร์ประมาณหนึ่ง หุนหันพลันแล่น ไม่ค่อยสม่ำเสมอและไม่มีวินัยค่ะ

4.Amiable มนุษย์แห่งสัมพันธ์

คนแบบนี้ มักจะให้ความสำคัญกับ ความสัมพันธ์ในการทำงาน มากที่สุดค่ะ พวกเขามักจะแคร์ว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไร ทำให้พวกเขาเป็นผู้ฟังที่ดีมากๆ และมักจะเป็นเพื่อนร่วมงานที่น่ารักกับทุกๆ คนด้วยค่ะ

- ข้อดี

Amible เป็นผู้ฟังที่ดี เป็นคนอ่อนไหว เห็นอกเห็นใจคนอื่นและมีความสามารถในการผูกมิตรกับทุกคนค่ะ คนแบบนี้ จะชอบทำงานเป็นทีมและชอบมีส่วนร่วมในการตัดสินใจต่างๆ ด้วย

- ข้อเสีย

คนลักษณะนี้ จะไม่ชอบการเผชิญหน้าเมื่อมี ความขัดแย้งในที่ทำงาน และมักจะเป็นคนโลเล ขี้อาย ไม่มั่นใจในตัวเอง ต้องพึ่งพาคนอื่นตลอดเวลา จึงไม่ค่อยจะมีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง ทำให้ไม่ค่อยกล้าตัดสินใจ และชอบคิดตามเสียงส่วนมากอยู่ตลอดนั่นเอง

ไม่มีสไตล์การทำงานใดที่ดีหรือแย่ที่สุดหรอกค่ะ เพราะ ทุกสไตล์สามารถนำไปปรับใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ที่แตกต่างกันได้หมด ขึ้นอยู่กับว่า เราจะเลือกส่วนไหน ไปใช้ตอนไหนนั่นเองค่ะ

เพื่อนร่วมงานนิสัยต่างกัน ทำอย่างไรให้อยู่ร่วมกันได้

การสื่อสาร เป็นหัวใจสำคัญของการทำงานเป็นทีม ดังนั้นถ้าเรารู้จักที่จะเลือกวิธีการสื่อสารให้เหมาะสมกับสไตล์ของคนแต่ละคนได้ มันก็จะเพิ่มโอกาสที่คนอื่นๆ จะคล้อยตามคุณได้มากขึ้น และทำให้เราสามารถทำงานร่วมกับคนอื่นได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ

เราคงจะพอทราบแล้วว่า สไตล์การทำงานแต่ละแบบ มีจุดแข็งและจุดอ่อนอะไรบ้าง ทีนี้ก็ถึงเวลานำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับสถานการณ์จริงแล้วล่ะค่ะ

สมมุติว่า คุณได้รับผิดชอบให้เป็นหัวหน้างานชิ้นหนึ่ง และคุณต้องการที่จะจูงใจให้เพื่อนร่วมงานของคุณเห็นด้วย และทำงานไปในแนวทางที่คุณต้องการ คุณควรจะเลือกวิธีการสื่อสารแบบไหนให้เหมาะกับเพื่อร่วมงานคนนี้ดี

- Driver

ถ้าอยากให้ผู้ทะเยอทะยานฟังคุณ คุณจะต้องสื่อสารด้วยความชัดเจน ตรงประเด็น กระชับ เด็ดขาด และหลีกเลี่ยงการนอกประเด็นในช่วงเวลาที่ประชุมงานกันด้วย เพราะคนแบบนี้จะชอบให้คุณบอก เป้าหมาย และวิธีการทำงานที่ชัดเจนไปเลยมากกว่าที่จะต้องมานั่งฟังคำอธิบายอ้อมค้อมยืดยาว และอย่าลืมอัพเดตความคืบหน้าของโปรเจกต์ให้พวกเขาฟังเป็นประจำด้วยนะคะ

- Analytical

เนื่องจากนักวิเคราะห์ เชื่อถือในตัวเลข เหตุผลและข้อมูลเป็นหลัก ดังนั้น ถ้าคุณอยากที่จะเข้าถึงพวกเขา คุณจะต้องมีการเตรียมตัวมาอย่างดี ข้อมูลต้องแม่นยำ เป็นเหตุเป็นผล มีความถูกต้อง อย่ามโนอะไรขึ้นมาเอง และต้องลงรายละเอียดการทำงานทุกอย่างทั้งหมด ถ้ามีสถิติหรือบทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญแนบมาด้วย คนแบบนี้จะเลิฟมากๆ เลยค่ะ

- Expressive

คนช่างฝัน เป็นคนที่ชอบหาความสนุกควบคู่ไปกับ การทำงาน ด้วย ดังนั้น ถ้าอยากจะทำงานกับคนแบบนี้ เราจะต้องเล่าให้เขาเห็นภาพรวมของงาน และเกิดความอยากทำขึ้นมาให้ได้ อย่าทำให้เขารู้สึกกดดันหรือลงรายละเอียดหนักจนเกินไป และใช้วิธีการสื่อสารที่เป็นมิตร กระตือรือร้น หยืดหยุ่นและอย่าลืมรับฟังความเห็นของพวกเขาด้วยนะคะ

- Amiable

มนุษย์แห่งสัมพันธ์นั้น ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ในการทำงานมากที่สุด พวกเขาชอบที่จะรับฟังความเห็นของคนอื่น มากกว่าที่จะออกความเห็นเองค่ะ ดังนั้นถ้าอยากให้เขาเข้าข้างคุณ คุณจะต้องสื่อสารด้วยความอ่อนโยน ไม่เครียด กระตุ้นให้พวกเขาอยากมีส่วนร่วม และแสดงออกให้เห็นว่าคุณแคร์ความรู้สึกของเขานั่นเองค่ะ

ถ้าเราลองทำความเข้าใจและยอมรับความแตกต่างของเพื่อนร่วมงานทุกคนได้ rabbit finance เชื่อว่า คุณก็จะมีสังคมการทำงานที่มีความสุขได้ง่ายๆ แล้วล่ะค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก rabbitfinance.com