ครึ่งปีแรก กลุ่มอสังหา ทำรายได้เท่าไหร่ (ผลประกอบการ 6M/61)
ครึ่งปีแรก กลุ่มอสังหา ทำรายได้เท่าไหร่ (ผลประกอบการ 6M/61)
ใกล้จะหมดสิ้นปี 2561 เข้ามาเรื่อยๆ สำหรับ ผลประกอบการกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ล่าสุด ที่ได้เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยังคงเป็นรอบ 6 เดือนแรกของปี 2561 และพบว่าภาพรวมตัวเลขรายได้ตลอด 6 เดือนแรก ยังคงมีแนวโน้มผันผวนพอสมควร บางบริษัทมีรายได้ก้าวกระโดด ขณะที่บางบริษัทรายได้ตกฮวบอย่างเห็นได้
ครั้งนี้ TerraBKK Research ได้สรุป ผลประกอบ ตัวเลขรายได้กว่า 30 บริษัทมหาชน ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ พร้อม อัตราส่วนกำไรสุทธิ (Net Profit Margin) แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลักตามระดับรายได้ รายละเอียดดังนี้
1.กลุ่มอสังหา ผลประกอบการ ระดับ หมื่นล้านบาท
แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) ยังคงตำแหน่งรายได้สูงเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มอุตสาหกรรม ด้วยรายได้รวม 6M/61 ราว 2.07 หมื่นล้านบาท สร้างอัตราส่วนกำไรสุทธิ (Net Profit Margin) 28.37% สูงเป็นอันดับที่ 1 ของกลุ่มอุตสาหกรรมเช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกัน บริษัทมหาชน ที่มี ผลประกอบการ เปลี่ยนแปลงตัวเลขรายได้ 6M/61 สูงขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คือ แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้(GOLD) 1.15 หมื่นล้านบาท ด้วยผลประสบความสําเร็จจากโครงการที่เปิดใหม่ในระหว่างปี2561 และโครงการเดิมยังขายโอนได้อย่างต่อเนื่อง และ เอพี (ไทยแลนด์)(AP) 1.28 หมื่นล้านบาท ด้วยสาเหตุหลักมาจากอัตราการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดีของ โครงการแนวราบซึ่งเป็นตัวผลักดันการเติบโตของรายได้
2. กลุ่มอสังหา ผลประกอบการ ระดับ 5,000-10,000 ล้านบาท
ภาพรวม อัตราส่วนกำไรสุทธิ(Net Profit Margin) 6M/60 ล้วนปรับตัวสูงขึ้นทั้งหมด โดย 2 บริษัทที่มีอัตรากำไรสุทธิโดดเด่นและสูงขึ้นมาตลอด 3 ปี คือ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้(ORI) 22.66% และ ควอลิตี้เฮ้าส์(QH) 22.32%
ด้าน ผลประกอบ ตัวเลขรายได้ครึ่งปีแรก 2561 พบว่า ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เป็นบริษัทมหาชนที่สามารถสร้างรายได้โดดเด่นที่สุดในกลุ่มระดับรายได้ 5,000-10,000 ล้านบาท ด้วยตัวเลขรายได้ 6.65 พันล้านบาท ขึ้นโตขึ้น 2.24 เท่าตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน ( 6M/60 = 2.05 พันล้านบาท) เนื่องจากมีการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมต่อเนื่องจากปี 2560 จํานวน 18 โครงการ ,โครงการใหม่ที่เริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2561 จํานวน 5 โครงการ และยังมีรายได้ค่าบริหารงานโครงการกับบริษัทที่มีการร่วมลงทุนกับบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดี เวลล็อปเมนท์จํากัด อีกด้วย รองลงมาเป็น พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค(PF) 9.13 พันล้านบาท จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นทั้งจากประเภทบ้านพร้อมที่ดิน, ประเภทคอนโดมิเนียม และรายได้จากการขายที่ดิน และ เอสซี แอสเสท(SC) 6.65 พันล้านบาท จากโครงการแนวราบสร้างรายได้ เพิ่มขึ้น 48.5% และโครงการแนวสูง เพิ่มขึ้น 48.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
3. กลุ่มอสังหา ผลประกอบการ ระดับ 1,000-5,000 ล้านบาท
บริษัทมหาชน ในกลุ่มรายได้ระดับ 1,000-5,000 ล้านบาท หลายแห่งเป็นเจ้าของโครงการคุ้นหน้าคุ้นตากันอย่างดี ทั้งแนวราบและแนวสูง เช่น แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์(LPN), เสนาดีเวลลอปเม้นท์(SENA), เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์(MJD) ,อารียา พรอพเพอร์ตี้(A) เป็นต้น
ภาพรวม อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) กลุ่มนี้ค่อนข้างผันผวนอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบช่วงเดียวกันรายปี โดย สิงห์ เอสเตท(S) สามารถสร้างอัตรากำไรสุทธิได้สูงถึง 21.73% รองลงมาเป็น ลลิล พร็อพเพอร์ตี้(LALIN) 19.26% และ ริชี่ เพลซ 2002(RICHY) 18.13% ขณะเดียวกัน ณุศาศิริ(NUSA) และ พริ้นซิเพิล แคปิตอล (PRINC) ยังคงติดลบมาตลอด 3 ปี
ด้านผลประกอบการตัวเลข รายได้ 6M/61 พบ 3 บริษัทมหาชนที่เติบโตเป็นเท่าตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน คือ พริ้นซิเพิล แคปิตอล (PRINC) โตขึ้น 2.94เท่า ทั้งจากรายได้ธุรกิจโรงพยาบาลและธุรกิจพัฒนาและให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ , ริชี่ เพลซ 2002(RICHY) โตขึ้น 2.23 เท่า ปัจจัยหลักจากการโอนรับรู้รายได้จากอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นจากโครงการแนวสูงเป็นหลัก และ ณุศาศิริ(NUSA) โตขึ้น 1.08 เท่า จากรายได้จากการขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เพิ่มขึ้น 104% เช่น การขายที่ดินโครงการพระราม 2 เฟส 2,3 เป็นต้น ขณะที่รายได้จากการขายบ้านและห้องชุดลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและผลของการปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารของลูกค้าที่ขอกู้เงินที่เพิ่มสูงขึ้น
4. กลุ่มอสังหา ผลประกอบการ ระดับ ร้อยล้านบาท
ภาพรวม ผลประกอบการ ของบริษัทมหาชนรายได้ระดับร้อยล้านบาทดำเนินไปไม่ค่อยดีนัก ด้วยตัวเลขรายได้รวม 6M/61 มีแนวโน้มลดลงมาตลอดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน มีเพียง เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง(NCH) ดำเนินธุรกิจสร้างตัวเลขรายได้เพิ่มขึ้น 12% มาอยู่ที่ 8.09 ร้อยล้านบาท ( 6M/60 = 7.19 ร้อยล้านบาท ) จากความสามารถในการโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวราบเพิ่มขึ้น ได้แก่ โครงการบ้านฟ้าปิยรมย์ เลคแกรนด์เด,โครงการบ้านฟ้า ปิยรมย์เทนโด ,โครงการบ้านฟ้าทาวน์นี่ ดอนหวาย และโครงการบ้านฟ้ากรีนเนอรี่ ปิ่นเกล้า-สาย 5 เป็นต้น
ด้าน อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) มีแนวโน้มลดลงเช่นกัน มีเพียง 2 บริษัทมหาชนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น คือ เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง(NCH) 3.26% และบ้านร็อคการ์เด้น(BROCK) 5.88%
บทความโดย : TerraBKK เคล็ดลับการลงทุน
TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก