อย่าให้ความเครียดลดอายุ
ผลวิจัยล่าสุดจากโรงเรียนธุรกิจฮาร์วาร์ดและมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด รัฐแคลิฟอร์เนียสหรัฐ รายงานว่า ความเคร่งเครียดในการทำงานทำร้ายสุขภาพเท่ากับการเป็นคนสูบบุหรี่มือสอง
รายงานได้รวบรวมเคสกว่า 228 รายพบว่า การทำงานมากๆ จะเพิ่มปัญหาสุขภาพและ มีโอกาสพบแพทย์มากขึ้น 35% นอกจากนี้การทำงานนานๆ ทำให้ชีวิตสั้นลงเกือบ 20%และคนที่สะสมความเครียดเป็นเวลานานหรือมีความกังวลอยู่เสมอว่าจะตกงาน ยิ่งส่งผลต่อสุขภาพมากถึง 50% โจเอล โกห์ (Joel Goh)ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาคบริหารธุรกิจ โรงเรียนธุรกิจฮาร์วาร์ด กล่าวว่า การวิจัยนี้จะช่วยให้เจ้าของบริษัทตระหนักถึงวิธีการทำงานของพนักงาน เพราะการทำงานหนักไม่ทำให้งานมีประสิทธิภาพเสมอไป นอกจากนี้เขายังแนะนำวิธีลดความเครียดไว้ ดังนี้
เขียนออกมา จากคำแนะนำของนักจิตวิทยาที่ว่าเราควรเขียนสิ่งที่รู้สึกลงบนกระดาษเพราะนอกจาก จะได้ระบายความเครียดแล้วเรายังได้เห็นปัญหาและเห็นทางแก้ไขมากขึ้น
ตรวจสอบความเป็นจริง งานวิจัยของฮาร์วาร์ดแสดงให้เห็นว่าคนที่มีความเครียดมากที่สุด คือคนที่กังวลว่าจะตกงาน ดังนั้นจงกล้าถามตัวเองว่างานที่ทำอยู่เป็นอย่างไร เสี่ยงต่อการถูกไล่ออกหรือไม่ หรืออาจจะถามมุมมองจากผู้ร่วมงานที่ไว้ใจได้เพื่อหาความคิดเห็นจากผู้ที่มองเข้ามา
ถามตัวเองว่ารักงานไหม นักจิตวิทยาจากลอสแองเจลิส โจอันนา ริพาลี (JoannaLipari) กล่าวว่า ผู้ป่วยที่เธอดูแลจะมีความเครียดกับงานน้อยลงเมื่อพวกเขารักงานที่ทำ และเมื่อรักงานแล้ว ความสุขในการทำงานก็จะตามมาส่งผลให้เครียดน้อยลงตามมา
ตั้งลิมิตของตัวเอง หากเจ้านายต้องการให้คุณทำงานวันละ 10 ชม. แทน 8 ชม. ตามปกติ คุณควรบอกเขาว่า “ไม่” และอธิบายว่าใน 8 ชม. นั้นคุณทำงานได้มีประสิทธิภาพมากแค่ไหน นอกจากนี้อย่าหลงลืมว่างานไม่ใช่ทั้งหมดในชีวิตของคุณ แต่สุขภาพของคุณต่างหากที่เป็นชีวิต
ขอบคุณข้อมูลจาก www.thaihealth.or.th