ในบทความที่แล้วของ Terrabkk Research ที่ได้พูดถึงกลุ่ม LGBT ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทั้งจำนวนประชากรและรายได้ของคนกลุ่มนี้ รวมถึงกลุ่ม LGBT จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม

          ทีม Terrabkk Research จึงได้เจาะลึกถึงตัวเลขที่น่าสนใจของคนกลุ่มนี้ พบว่า ในปี 2559 ประเทศที่มีกลุ่มคน LGBT มากที่สุดในโลกคือ ประเทศจีน ที่มีประชากรกลุ่ม LGBT มากถึง 90 ล้านคน คิดเป็น 6.5 % จากประชากร 1,378 พันล้านคนทั้งหมดของจีน(อ้างอิงจาก Population Reference Bureau) มีจีดีพีหรือมูลค่าทางการตลาดด้านของสินค้าและบริการมูลค่ารวมกว่า 938 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 32,830 พันล้านบาทไทย ถ้าคิดเป็นจีดีพีต่อคนจะอยู่ที่ประมาณคนละ 364,780 บาทไทย (อ้างอิงจาก LGBT CAPITAL บริษัทที่ปรึกษาด้านการเงินที่ให้บริการกลุ่ม LGBT เป็นหลัก)

          ตามที่ได้กล่าวไปในบทความตอนแรกนั้นว่าชาวต่างชาติที่ซื้อคอนโดมิเนียมในกรุงเทพผ่าน ซีบีอาร์อี ในปี 2560 ประเทศจีนเป็นประเทศที่เข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศไทยมากที่สุดมากที่สุดรวมถึงกลุ่มคน LGBT ด้วยโดยส่วนมากจะเลือกซื้อคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานครเป็นหลัก โดยเฉพาะในย่านสีลม-สาทร-บางรัก, ย่านสุขุมวิท-ทองหล่อ-เอกมัย, ย่านรัชดาฯ-พระราม 9, เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้เป็นพื้นที่กลางเมืองที่มีการคมนาคมที่สะดวกสบาย มีทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT ตัดผ่าน เป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ของกลุ่ม LGBT โดยเฉพาะย่านสีลม สาทร และย่านสุขุมวิท ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคนกลุ่มนี้อยู่มากมาย อาทิเช่น สีลมซอย 4 สถานที่บันเทิงและแฮงเอ้าท์ชื่อดังบนถนนเอกมัย ทองหล่อ สุขุมวิท นี่จึงทำให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อันดับต้นๆในการเข้ามาเลือกซื้อคอนโดมิเนียมของกลุ่ม LGBT

          ด้านของกลุ่ม LGBT จีนทาง Terrabkk Research คิดว่ายังมีปัจจัยนอกเหนือจากที่กล่าวมาที่ทำให้คนกลุ่มนี้สนใจเข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก คือ

          1.ประเทศไทยมีราคาเฉลี่ยของคอนโดที่ถูกกว่าประเทศจีน จากสถิติของ Global Property Guide ได้ระบุไว้ว่า ในประเทศจีน มีราคาเฉลี่ยของที่อยู่อาศัยต่อตารางเมตรอยู่ที่ 11,829 ดอลล่าสหรัฐ หรือประมาณ 378,528 บาทไทย มีค่าอัตราผลตอบแทนค่าเช่าเบื้องต้น (Rental Yield) อยู่ที่ 10% ต่อปี ในส่วนของประเทศไทยนั้นมีราคาเฉลี่ยของที่อยู่อาศัยต่อตารางเมตรอยู่ที่ 3,952 ดอลล่าสหรัฐ หรือประมาณ 126,464 บาทไทย มีค่าอัตราผลตอบแทนค่าเช่าเบื้องต้น (Rental Yield) อยู่ที่ 5.13% ต่อปี ถ้าคิดแบบง่ายๆในประเทศจีนมีราคาเฉลี่ยของที่อยู่อาศัยสูงกว่าประเทศไทยเกือบ 3 เท่า นี่จึงเป็นอีก 1 สาเหตุที่คนจีนเข้ามาเลือกซื้ออสังหาในประเทศไทย

          2. ประเทศไทยมีแรงต้านจากสังคมที่น้อยกว่าประเทศจีน เป็นที่ทราบกันดีว่า “จีน” เป็นประเทศที่ต่อต้านกลุ่ม LGBT มาแต่ไหนแต่ไร แม้ทุกวันนี้จะเริ่มมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นบ้าง แต่ก็ยังถือว่าเป็นประเทศที่มีอคติและแรงต้านจากสังคมมากกว่าประเทศอื่นอยู่ดี ทั้งนี้ สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ UNDP และ องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา USAID ได้มีบทความ Being LGBT in China: A National Survey on Social Attitudes towards SOGIE ได้กล่าวว่า”เพศที่สามในจีนนั้นมีเพียงแค่ 5% เท่านั้นที่กล้าเปิดเผยตัวตนในสังคม และที่กล้าบอกครอบครัวกับเพื่อนก็มีเพียงแค่ 15%” จึงทำให้ผู้คนเหล่านี้ ต้องการที่จะย้ายที่อยู่อาศัยหรือเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในสถานที่ที่ยอมรับในความเป็นตัวของตัวเองได้ ในส่วนของประเทศไทยถึงแม้ระดับกฎหมายยังไม่ได้ออกมายอมรับและรองรับสิทธิของคนกลุ่มนี้อย่างเต็มที่ แต่ในระดับของสังคม การท่องเที่ยว หรือการดำเนินธุรกิจ ประเทศไทยให้การยอมรับกับคนกลุ่มนี้มากกว่า เข้าถึงได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับบางประเทศในทวีปเอเชียหรือในโลก

ตัวอย่างแรงต้านของสังคมประเทศจีนที่มีต่อกลุ่ม LGBT

บทความจากสำนักงานข่าว BBC (15 November 2017) ได้เปิดเผยเรื่องราว 17 กรณีของการบำบัดผู้ที่เป็นเกย์ในประเทศจีนโดยส่วนใหญ่จะมีวิธีการรักษาโดยช็อตไฟฟ้า และการใช้ยาที่ผู้ที่เข้าการรักษาก็ไม่รู้ว่าคือยาอะไร มีอันตรายหรือไม่ ในขณะที่เปิดภาพยนตร์โป๊ของคนรักเพศเดียวกันไปด้วย 

Source : ภาพ AP โดย Ng Han Guan

 

ตัวอย่างการยอมรับในสังคมประเทศไทยที่มีต่อกลุ่ม LGBT

เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2561 ที่เมมโบ้คลับ ย่านพระรามสาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์กร AHF หรือ Aids Health care Foudation องค์กรเพื่อผู้ติดเชื้อ HIV ระดับโลก ร่วมกับบางกอกเรนโบว์ จัดประกวด Mr Gay World Thailand 2019 ซึ่งเป็นการจัดประกวดปีที่ 3 ภายในแนวคิด “เกย์กล้าก้าว” หรือ Dare to shine คือส่งเสริมให้เกย์กล้าก้าวออกมาแสดงศักยภาพของตัวเอง เพื่อรณรงค์ทางสังคมในเรื่องต่างๆ เพื่อกลุ่มหลากหลายทางเพศ ซึ่งปีนี้มีผู้เข้าประกวด 31 คน 

source: ไทยรัฐออนไลน์ (นัท ชโยดม” คว้า Mr Gay World Thailand2019 เตรียมไปต่อเวทีโลกที่แอฟริกา)

 

          3. การเดินทางระหว่างประเทศไทยและจีนสะดวกและอยู่ไม่ไกลกัน สามารถนั่งเครื่องบินถึงกันภายในไม่กี่ชั่วโมง และประเทศไทยยังมีย่านของชาวจีนและวัฒนธรรมของชาวจีนอยู่อย่างแพร่หลาย เช่น ย่านเยาวราช สำเพ็ง พาหุรัด หรือเขตฝั่งธนบุรีที่เราจะเห็นอารยธรรมของชาวจีนกระจายไปในพื้นที่ต่างๆ

          4. ค่าครองชีพในประเทศไทยถูกกว่าประเทศจีน โดยจากสถิติของ worlddata.info ได้แสดงให้เห็นว่าประเทศจีนมีค่าครองชีพเฉลี่ยอยู่ที่อันดับที่ 49 จาก 100 ประเทศที่มีการจัดอันดับ มีค่าเฉลี่ยของ Cost of living index อยู่ที่ 61.1 มีรายได้เฉลี่ย 724 USD หรือประมาณ 23,168 บาทไทย ในด้านของประเทศไทยมีค่าครองชีพเฉลี่ยอยู่ที่อันดับที่ 60 มีค่าเฉลี่ยของ Cost of living index อยู่ที่ 54.0 มีรายได้เฉลี่ย 497 USD หรือประมาณ 15,904 บาทไทย

          ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่มคน LGBT เป็นกลุ่มที่มีผลต่อหลายธุรกิจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว หรืออสังหาริมทรัพย์ น่าจะถึงเวลาแล้วที่นักการตลาดทั้งหลายต้องศึกษาความต้องการของคนกลุ่มนี้อย่างจริงจัง Terrabkk Research เองก็เชื่อว่านี่จะเป็นกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ที่พร้อมจะยอมจ่ายหากคุณพัฒนา Product ได้ตรงใจชาว LGBT มากพอ