ออกแบบ “ครัว” ได้แบบนี้ รับรองสมาชิกในบ้านต้องกดเลิฟ

         ไม่ได้มีแต่เฉพาะคนที่รักการทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจเท่านั้นที่มีครัวในฝัน เพราะถ้าเลือกได้ใครๆ ก็อยากได้ห้องครัวที่ใช่ ตอบโจทย์สไตล์และความจำเป็นในการใช้งานของแต่ละครอบครัว ทว่า แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่า“ห้องครัว” ถือเป็นอีกหนึ่งห้องสำคัญของบ้าน นอกจากจะเป็นพื้นที่เตรียมอาหารในแต่ละวันแล้ว ยังเป็นพื้นที่สานสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัวให้ได้ใช้เวลาดีๆ ร่วมกัน แต่ครัวในชีวิตจริงของหลายๆ บ้าน กลับตรงกันข้ามกับครัวในฝันโดยสิ้นเชิง อันเนื่องมาจากหลายๆปัจจัย เพราะฉะนั้นเพื่อให้การออกแบบ ตกแต่ง และจัดเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ในครัว ไม่ใช่เรื่องปวดหัวอีกต่อไป อิเกีย แบรนด์เฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านชั้นนำจากประเทศสวีเดน มีเทคนิคง่ายๆ ในการออกแบบ “ครัวที่ใช่” มาบอกต่อ

         ก่อนที่จะเริ่มออกแบบห้องครัว อยากให้ทุกบ้านถามตัวเองก่อนว่า เราคือใคร? อยู่อย่างไร? ใช้ชีวิตอย่างไร? และเราทำอะไรในห้องครัวบ้าง? เพราะคำตอบของคำถามเหล่านี้ จะเป็นตัวเฉลยว่า คุณควรออกแบบครัวให้มีรูปแบบและขนาดของห้องครัวอย่างไรจึงจะตอบโจทย์การใช้ชีวิต และ ทำให้ครัวกลายเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สร้างรอยยิ้มให้สมาชิกในครอบครัวได้มากที่สุด

         ได้คำตอบแล้ว อย่าเพิ่งผลีผลามพุ่งตัวไปจับจองชุดเครื่องครัวที่หมายตา แต่ให้เริ่มจากการวางผังครัวให้เสร็จสรรพก่อน เทคนิคง่ายๆ คือ คำนึงถึง 3 ฟังก์ชั่นการใช้งานหลักๆ ซึ่งประกอบด้วย 3 ส่วนก่อน ได้แก่ เก็บ ล้าง และปรุง

         จากนั้นวางผังให้สามส่วนหลักนี้มีทิศทางการใช้งานแบบวงจรสามเหลี่ยม (Triangle Way) เริ่มจากจุดที่จัดเก็บของสด เครื่องปรุง วัตถุดิบต่างๆ นำไปยังส่วนล้าง ก่อนเข้าสู่ส่วนปรุงการประกอบอาหารที่ส่วนหุงต้มต่อไป ทั้งนี้หากแบ่งสัดส่วนพื้นที่ใช้สอยทั้ง 3 ส่วนนี้ให้ลงตัว นอกจากจะช่วยให้การทำครัวง่ายขึ้นแล้ว ยังเป็นอีกจุดที่สร้างความน่าสนใจให้กับบ้านด้วย

         เมื่อได้แผนผังห้องครัวรูปแบบที่ตรงใจแล้ว ถึงเวลาแบ่งสัดส่วนพื้นที่จัดเก็บใน 3 ฟังก์ชั่นใช้งานหลักแล้ว อย่ามองข้ามเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้ครัวน่ามองขึ้น อย่างการจัดเก็บสารพัดสิ่งตั้งแต่ผัก ของสด ไปจนถึงเครื่องปรุงบางชนิดในตู้เย็น ควรจัดเก็บในกล่องใสหรือขวดโหล เพื่อให้สะดวกในการหยิบใช้งาน และยังมองเห็นของข้างในได้ว่ามีอะไรที่หมดและต้องเติมบ้าง

         ข้อดีในการจัดเก็บตู้เย็นให้เรียบร้อยคือ ประหยัดไฟ และช่วยให้หาของง่ายขึ้น หมดปัญหาเรื่องอาหารที่ถูกเก็บลืมจนหมดอายุ หากมีตู้ด้านบนเป็นตู้แขวนโล่ง อาจใช้เก็บแก้วน้ำ ชา กาแฟ รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ เช่น กรรไกร ที่เปิดขวด และของแห้งทั้งหลาย ถ้าอยากให้ดูเป็นระเบียบขึ้นอีกขั้นอาจบรรจุในกล่องใสหรือขวดโหล เพื่อให้สามารถมองเห็นของข้างในได้ว่ามีอะไรที่หมดและต้องเติมบ้าง

         ถัดมาที่สเตชั่นล้าง ปกติด้านใต้อ่างล้างจานมักใช้วางถังขยะ แต่ถ้าจะเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานในครัว ให้ง่ายกับการใช้ชีวิตขึ้นไปอีก อาจเลือกชุดครัวที่สามารถแบ่งถังขยะสำหรับขยะแห้ง ขยะเปียก และยังใช้เก็บอุปกรณ์สำหรับล้างจานได้ ส่วนท็อปครัวตรงกลาง อาจเลือกที่มีราวแขวน ตอบโจทย์สำหรับบางบ้านที่ไม่มีที่คว่ำจานก็สามารถใช้ที่แขวนติดผนังแทนได้ และอาจใช้ชั้นวางเสริมช่วยเพิ่มพื้นที่วางของร่วมไปด้วยก็ได้

         ปิดท้ายด้วยส่วนปรุง ส่วนนี้ควรเว้นระยะห่างระหว่างท็อปครัวกับตู้แขวนผนัง ประมาณ 55 ซม. เพื่อให้มี พื้นที่เพียงพอต่อการทำอาหาร และพื้นที่ระหว่างเตากับอ่างล้างจาน ควรห่างกันอย่างน้อย 80 ซม. เพื่อความสะดวกระหว่างประกอบอาหาร ส่วนมุมจัดเก็บและลิ้นชักข้างล่าง สามารถเพิ่มที่แบ่งช่องลิ้นชักสำหรับเก็บช้อนส้อม ระหว่างตัวผนังที่เป็น ส่วนทำอาหาร อาจหากระเบื้องสีขาวหรือเลือกใช้แผ่นติดผนังกันคราบ เพื่อเพิ่มลวดลายให้กับผนังและยังทำความสะอาดง่ายอีกด้วย

         ได้ไอเดียแล้ว มาเลือกผังห้องครัวที่ใช่ ซึ่งแบบที่นิยมและพบในบ้านส่วนใหญ่มีอยู่ 5 แบบ ประกอบด้วย

         1.ครัวแบบผนังเดียว (Single-sided kitchen) เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด คอนโดมิเนียม หรือบ้านที่มีพื้นที่มาก แต่ต้องการใช้พื้นที่ผนังเพียงฝั่งเดียวสำหรับทำครัว ข้อดี คือ สามารถขยายพื้นที่ได้ไม่จำกัด ขึ้นอยู่กับความต้องการ

ที่มารูป : http://slowhomestudio.com/videos/single-sided-kitchens-review/

         2.ครัวสองฝั่ง (Double-sided kitchen) เหมาะกับบ้านที่มีลักษณะเป็นแนวยาว หรือบ้านที่ต้องการพื้นที่ครัวแบบแยกออกมาจากตัวบ้าน ข้อดี คือ สามารถเข้าครัวได้พร้อมกันถึงสองคน

ที่มารูป : https://www.pinterest.com/pin/18084835976435274/

         3.ครัวเข้ามุม (L-Shaped Kitchen) เหมาะสำหรับบ้านที่ไม่ต้องการแยกครัวออกมาเป็นสัดเป็นส่วนในอีกห้องหนึ่ง ไม่ต้องการก่อผนังเพิ่ม ข้อดีคือ หลังจากแบ่งพื้นที่ครัวแล้ว ยังเหลือพื้นที่สำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารด้วย

ที่มารูป : http://www.home-designing.com/l-shaped-kitchen-layout-design-ideas-tips-pictures

       4.ครัวแบบเกาะกลาง (Island Kitchen) กำลังเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เพราะการก่อเกาะกลางช่วยเพิ่มพื้นที่ในการใช้งาน โดยที่พื้นที่นี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นพื้นที่เก็บของเท่านั้น อาจจะเป็นพื้นที่สำหรับนั่งทานอาหาร เป็นแพนทรีเล็กๆ พื้นที่สำหรับล้างจาน หรือเป็นพื้นที่ตั้งเตาประกอบอาหารก็ได้  

ที่มารูป : https://freshome.com/kitchen-island-ideas/

         5.ครัว 3 ผนัง (U-Shaped Kitchen) เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่กว้างขวาง ครอบครัวใหญ่ๆ หรือสำหรับคนที่รักการทำอาหารและมักใช้ห้องครัวอยู่เสมอ ข้อดี คือ ใช้ครัวได้พร้อมกันหลายๆ คน และประกอบอาหารหลายๆ เมนูได้พร้อมกัน

ที่ขอมารูป : https://www.houzz.com/magazine/how-to-design-the-perfect-u-shaped-kitchen-stsetivw-vs~61409591

         รู้เทคนิคแบบนี้แล้ว ก่อนรีโนเวท หรือ ออกแบบห้องครัวครั้งหน้า อย่าลืมถามตัวเองให้ชัดว่าครัวในฝันเป็นแบบไหน จะได้ไม่ต้องปวดหัวกับปัญหาครัวในฝันไม่เหมือนครัวในชีวิตจริง