จบทุกปัญหาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ด้วยการลงทุนแบบ IP
ในปัจจุบันการลงทุนมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบที่ให้ผลตอบแทนต่ำ ปานกลางและสูง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อผลตอบแทนสูง ก็ย่อมมีความเสี่ยงสูงตามมา ทำให้การลงทุนนั้น สร้างความกังวลใจและไม่สบายใจให้กับนักลงทุนอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งกลัวขาดทุน กลัวเศรษฐกิจไม่ดี กลัวล้มละลาย ทำให้ต้นทุนที่นอกจากตัวเงินที่ลงไป ยังมีต้นทุนเพิ่มที่เราอาจไม่รู้ตัว คือ “ความกังวลและความไม่สบายใจ” ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบคือ ความเครียด ความเจ็บป่วย หรือหนักที่สุด ก็คือโรคซึมเศร้า จึงเกิดคำถามตามมาว่า...แล้วจะทำอย่างไรถึงจะทำให้เราสามารถลงทุนอย่างสบายใจ?
คนทั่วไป เมื่อคิดจะลงทุน เริ่มต้นก็ต้องเปรียบเทียบว่าผลตอบแทนที่ได้รับคุ้มกับความเสี่ยงและความสบายใจหรือไม่ และการลงทุนหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก เพราะได้รับผลตอบแทน คุ้มกับความเสี่ยง และสบายใจมากกว่า เพราะความผันผวนน้อย คือ อสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดิน บ้าน อาคารพาณิชย์ สำนักงาน หรือคอนโด เป็นต้น
การเริ่มต้นในการลงทุนอสังหาฯ โดยปกติ ก็ต้องเริ่มศึกษาแหล่งข้อมูลในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ดูทำเล ราคาตลาด แนวโน้มราคาอนาคต พิจารณาความสามารถในการปล่อยเช่า ตลอดไปถึงขั้นตอนกู้เงินธนาคาร และมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาร่วมด้วย
การลงทุนอสังหาริทรัพย์ทั่วไปต้องเจออะไรบ้าง
เชื่อว่าหลายๆ คน เคยลงทุนในอสังหาฯ โดยทั่วๆไป ไม่ก็ซื้อบ้าน หรือคอนโด แล้วปล่อยเช่าเพื่อสร้างผลตอบแทน โดยอาจจะหาคนเช่าเองหรือผ่านนายหน้า และที่สำคัญ การปล่อยเช่าลักษณะนี้ ต้องปล่อยเช่าแบบรายเดือน รายปี ไม่สามารถปล่อยเป็นรายวันได้ตามข้อกฎหมาย ซึ่งการนำบ้านหรือคอนโดไปปล่อยเช่าเอง ก็พบเจอปัญหามากมาย จนหลายคนก็เบื่อการลงทุนอสังหาฯ ไปเลย เช่น
- เลือกทำเลไม่ดี หาคนเช่ายาก
- ผู้เช่าไม่รักษาของ
- ห้องเสียหาย
- ผู้เช่าจ่ายค่าเช่าล่าช้า
- แอบเลี้ยงสัตว์
- แอบนำห้องไปปล่อยเช่าต่อ
- ผิดสัญญาเช่า
- ฯลฯ
จากปัญหาที่กล่าวมา จึงได้มีการลงทุนอสังหาฯ แนวใหม่ ที่เรียกว่า “Investment Property” หรืออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนโดยเฉพาะ ที่จะมีผู้เชี่ยวชาญบริหารให้ โดยที่เจ้าของไม่ต้องมาดูแลหรือจัดการปัญหาจุกจิกข้างต้นเอง
การลงทุนแบบ Investment Property คืออะไร
ในช่วงหลายปีผ่านมาที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้รับความสนใจจึงทำให้ การลงทุนแบบ IP หรือ Investment Property คือ อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ได้ถูกกล่าวถึง แม้เป็นโมเดลการลงทุนที่ค่อนข้างใหม่ แต่ก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในประเทศไทย เพราะปัจจุบันมี โครงการอสังหาฯ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการลงทุนโดยเฉพาะตั้งแต่เริ่มสร้างโครงการ ทำให้การออกแบบโครงสร้างต่างๆ ให้นักลงทุนได้ประโยชน์เต็มๆ ด้วยการหามืออาชีพ มาคอยดูแลบริหารโครงการ ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้กับนักลงทุนโดยไม่ต้องยุ่งยากเท่ากับการหาทรัพย์ด้วยตนเอง เป็นการลงทุนรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์มอบความสบายใจ ทั้งเรื่องความเสี่ยงไม่สูง คาดการณ์ได้ ผลตอบแทนต่อเนื่อง และมีผู้เชี่ยวชาญบริหารให้นั่นเอง
นักลงทุนเพียงลงทุนครั้งเดียว รอรับผลตอบเท่านั้น
- ไม่ต้องบริหารจัดการเอง คล้ายกับกองทุนรวม
- นักลงทุนจะได้สิทธิ์ความเจ้าของ เพราะได้กรรมสิทธิ์ห้องเช่า สามารถขายต่อได้
- บริหารการเช่า รวมทั้งบริหารจัดการทุกอย่างให้ นักลงทุนรอรับผลตอบแทนเท่านั้น
เรียกได้ว่า การลงทุนใน Investment Property นั้น จบทุกปัญหาของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์
ลงทุนอสังหาแบบ IP กับโครงการ “Wyndham Nai Harn Beach Phuket”
บริษัท ซิซซา กรุ๊ป จำกัด เป็นหนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบ Investment Property (IP) โดยเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเชี่ยวชาญในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้เล็งเห็นทำเลที่โดดเด่นของหาดในหาน จึงได้ร่วมกับพาร์ทเนอร์ธุรกิจสำคัญ Wyndham Hotel Group เครือโรงแรมรีสอร์ทระดับโลกที่เข้ามาบริหารโครงการ มีประวัติการบริหารโรงแรมมากว่า 9,000 แห่ง ห้องพักรวมมากว่า 790,000 ห้อง ใน 80 ประเทศทั่วโลก เป็นแบรนด์โรงแรมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก มาพัฒนาโครงการ “Wyndham Nai Harn Beach Phuket”
โครงการ วินแดม ในหาน บีช ภูเก็ต สร้างเป็นอาคารสูง 4 ชั้น แบ่งเป็นห้อง 2 แบบ ขนาดตั้งแต่ 40 ตารางเมตร ขึ้นไป และ 60 ตารางเมตร จำนวนรวม 353 ยูนิต มีทั้งหมด 12 อาคาร ตั้งอยู่บริเวณชายหาดในหาน อยู่ห่างจาก หาดในหานประมาณ 800 ม. เป็นที่ดิน Free Hold ซึ่งนับวันจะหาได้ยากยิ่งในภูเก็ต และเปิดให้นักลงทุนทั่วไปที่ไม่ใช่รายใหญ่เข้าลงทุนได้ 248 ห้องเท่านั้น ราคาเริ่มต้น 6.5 ล้านบาท ส่วนห้องที่เหลือเป็นสัดส่วนของนักลงทุนรายใหญ่ จาก CISSA Group การันตีผลตอบแทนในปีที่ 1 และ ปีที่ 2 ให้ 6% และผลตอบแทนในปีที่ 3 ถึง 15 เป็นไปตามผลประกอบการของโรงแรมซึ่งคาดการณ์เฉลี่ยอยู่ที่ 10% หลังจากที่มีการหักค่าดำเนินการทุกอย่างออกแล้วจะมีการแบ่งส่วนกำไรให้นักลงทุนได้ Sharing Profit เต็ม 100%
นอกจากนักลงทุนที่ลงทุนจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนแล้ว นักลงทุนยังสามารถเข้าพักฟรีที่โครงการ วินแดม ในหาน บีช ภูเก็ต 30 วันต่อปี หรือเลือกพักตาม Hotel & Resort ในเครือ RCI ที่มีมากกว่า 120 ประเทศทั่วโลก ซึ่งถือเป็นความคุ้มค่าในการมอบทางเลือกให้ผู้ลงทุน อีกทั้งยังสามารถเข้าพักและได้รับส่วนลดที่โรงแรมมากกว่า 30% รวมไปถึงบัตรสมาชิกที่สามารถทำให้เราเข้าถึงสิทธิ์ประโยชน์ได้อีกมากมายโดยคาดว่าโรงแรมจะเปิดให้บริการได้ในเดือนกันยายนปี 2562 และ “Wyndham Hotel Group” เป็นผู้บริหารจัดการ
ขอบคุณข้อมูลจาก www.cissagroup.com