ตื่นเช้า แต่งตัวไปทำงาน ขับรถ 40นาที เริ่มทำงาน เลิกงาน กลับบ้าน กินข้าว ดูหนัง และเข้านอน... หากคุณรู้ตัวว่ากำลังใช้ชีวิตราวกับว่ากำลังปิดตาเดิน ไม่มีเวลาว่างมานั่งทบทวนว่าในแต่ละวัน ทำอะไรไปบ้าง จุดมุ่งหมายคืออะไร หรือแม้กระทั้งใช้ชีวิตแบบว่าไม่รู้จะเดินไปทางไหน คงจะรู้สึกสะดุ้งนิดหน่อยกับประโยคของปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์ที่ว่า “อย่ามัวแต่ใช้ชีวิตเหมือนคนเดินละเมอ” ("Don't sleepwalk through life.")
วอร์เรน บัฟเฟตต์ วัย 88 ปี เป็นที่รู้จักกันในนามมหาเศรษฐีที่เคยขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลก เป็น “นักลงทุน” ที่มีหุ้นกว่า Top 10 บริษัทระดับโลกอยู่ในมือ
WorkVenture ได้รวบรวม 3 แนวความคิดดีๆที่ได้รับจากการได้ฟัง Speech ของคุณปู่ท่านนี้ เพื่อเป็นแรงผลักดันให้คนธรรมดาอย่างเราพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้นในแบบของตัวเอง
แนวคิดที่หนึ่ง: 5/25 สูตรเร่งด่วนเพื่อการกำหนดเส้นทางของตนเองในอนาคต
สูตร 5/25 ของบัฟเฟตต์ นั่นก็คือ หยิบกระดาษมาหนึ่งใบ เขียนทุกอย่างที่ตัวเองอยากทำ 25 ข้อ และเลือกวงกลมเพียง 5 ข้อที่สำคัญต่อคุณมากที่สุด จากนั้น ให้ตั้งใจ (Focus) กับสิ่งที่ตัวเองเลือกทำ แม้ว่ามันจะยิ่งใหญ่หรืออาจมีแนวโน้มที่เป็นไปไม่ได้แค่ไหน ก็ต้องทำให้สำเร็จ หลายคนอาจจะคิดว่ากำลังหลงทาง สับสนว่าใช่ทางที่ถูกต้องรึเปล่า แต่เมื่อเป็นทางที่เราเลือกเดินมาแล้ว ไม่ว่าอุปสรรคหรือความเสี่ยงใดๆที่เราเจอ มันไม่ได้แสดงว่าคุณล้มเหลว เพราะมันยังไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต อุปสรรคและความเสี่ยงอื่นๆต่างหาก เป็นตัวช่วยที่จะให้คุณก้าวข้ามขีดความสามารถของตนเอง และข้ามไปอีกขั้นได้ เพื่อถึงเป้าหมายของคุณทั้ง 5 เป้าหมายข้างต้น
แนวคิดที่สอง: หางานที่ไม่ทำให้เรารู้สึกว่านั่นคือการทำงาน
จากคำแนะนำของบัพเฟตต์ “The important thing is to look for the job you would take if you didn’t need a job.” นั่นหมายความว่า อย่าทนทำงานที่คุณไม่ได้ชอบเพียงเพราะอยากมีประวัติการทำงานที่ดีในอนาคต หางานที่คุณทำแล้วรู้สึกตื่นเต้น และอยากลุกออกจากที่นอนตอนเช้าเพื่อไปทำงาน และไม่สนว่าจะสตาร์ทเงินเดือนที่เท่าไหร่ หากคุณยังไม่รู้สึกชอบงานที่กำลังทำอยู่ ไม่ว่าจะเป็นงานแรก หรืองานที่สอง อย่าเพิ่งยอมแพ้จนกว่าจะหางานที่ใช่เจอ
แนวคิดสุดท้าย: นำคุณสมบัติของคนที่ชื่นชอบมาประยุกต์ใช้
เลือกบุคคลที่คุณชื่นชอบมากที่สุด บัฟเฟตต์เชื่อว่า คุณจะเป็นคนในแบบที่คุณอยากจะเป็นได้ เพราะคนเหล่านั้นจะเป็นสูตรเร่งให้คุณประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการเลียนแบบพวกเขา โดยเขียนสิ่งที่ชอบในตัวพวกเขาและทำตาม สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างคือ สำรวจดูว่าสิ่งที่เราคิดจะลงมือทำ นั้นส่งผลอย่างไรในอนาคต ถ้าสิ่งนั้นก่อให้เกิดผลดี จงทำมันซะ ข้อคิดที่ได้จากคำแนะนำของบัฟเฟตต์ทั้งหมดทั้งมวลนี้ คือ หากคุณคิดว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่คุณสามารถทำได้ และทำมันได้ดี ให้เริ่มต้นลงมือทำอย่างมีสติ อย่าให้ความล้มเหลวเกิดขึ้นโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว ด้วยคำว่า “เดี๋ยวก่อน”
WorkVenture หวังว่าบทความนี้จะเป็นสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจ ที่สามารถเปลี่ยนชีวิตคนๆนึงได้ไม่มากก็น้อย สุดท้ายแล้ว คุณจะต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้ว่า คุณเลือกจะทำอะไรหลังจากที่คุณตื่นมา ?
ขอบคุณข้อมูลจาก www.workventure.com