แต่งห้องยังไง ให้รับลมเย็นในหน้าร้อน
หน้าร้อนกำลังจะมาถึงอีกรอบแล้วนะครับ ปีนี้ดูท่าจะร้อนหนักกว่าเดิม แห้งแล้งกว่าเดิม จะให้เราย้ายบ้านหนีแดดร้อนก็ไม่สามารถทำได้ หรือจะเปลี่ยนมุมของเดวงอาทิตย์ก็ไม่ได้แน่นอน ทีนี้ หากเราอยู่ที่คอนโด หรืออยู่บ้าน เราจะสามารถจัดการกับหน้าร้อนนี้ได้อย่างง่ายๆเลยก๋คือ การจัดห้อง แต่งห้องครับ เพราะหากเราจัดห้องดีๆ จะช่วยลดทอนอุณหภูมิลมร้อนที่พัดเข้ามาในห้อง หรือในบ้านเราได้ครับ
ร้อนแบบนี้ ต้องงดใช้พรม หรือขนสัตว์ในการตกแต่งบ้านครับ
หน้าร้อนแบบนี้ เราต้องแต่งบ้านให้โล่งที่สุด อากาศจะได้ถ่ายเทได้ดี แถมหากปกติเราตกแต่งบ้านด้วยพรมหรือขนสัตว์ ถ้าเป็นไปได้ก็เอาออกช่วงหน้าร้อนนี้ครับ ถึงแม้จะทำให้บ้านของเราดูหรูหรา ด้วยพรมและขนสัตว์ แต่ขนสัตว์ จะช่วยดูดและกักเก็บความร้อนไว้ได้อย่างยาวนานครับ และจะทำให้บ้านของเราร้อนขึ้นครับ
จัดห้อง ไม่ให้บังทิศทางลมจากหน้าต่าง
ทิศทางลมก็สำคัญครับ สังเกตหรือเปล่า ว่าหากมีช่องลม ตรงๆนั้นจะเป็นจุดที่มีลมไหลผ่านแรงที่สุด ถ้าเทียบกับพื้นที่กว้างๆ ซึ่งหลักการเดียวกันคับ หาก เราเปิดหน้าต่างห้อง ไว้ลมที่พัดเข้ามาตรงหน้าหน้าต่างก็จะแรงครับ ทีนี้ หากลมพัดเข้ามาในห้องแล้ว ถ้า มีทิศทางให้ลมพัด ก็จะช่วยถ่ายเทความร้อน หลังจากที่สะสมมาตลอดวันครับ
ปลูกต้นไม้ เพื่อสร้างความชื้น ไล่ความร้อน
ต้นไม้มักมาพร้อมความร่มรื่น และหากเรานำมาไว้ในห้อง ในบ้านของเรา แน่นอนว่า นอกจากจะเติมสีเขียวให้เราสสบายตาแล้ว ความร่มรื่นก็จะตามมา แถมต้นไม้ ก็จะเพิ่มความเย็นให้กับห้องของเราอีกด้วย
แต่งห้องเน้นสีขาว หรือสีโทนอ่อน
การแต่งห้องด้วยสีขาว หรือสีโทนอ่อนจะช่วยดูดซับความเย็นได้ดีกว่าสีดำ ซึ่งสีดำจะดูดซับความร้อนมากกว่าครับ และหากเป็นไปได้ถ้าทาผนังห้องเป็นสีขาวแล้ว ก็จะทำให้บ้านเราคายความร้อนได้อย่างรวดเร็วหลังจากอมความร้อนมาตลอดวันครับ
นี่จะเป็นวิธีการง่ายๆ ที่จะช่วยทำให้ห้องของเรา หรือบ้านของเรา นอกจากวิธีง่ายๆนี้ เรายังสามารถซื้อของมาตกแต่งห้องได้เอง โโยใช้บัตรเครดิต เพราะจะมีส่วนลด หรือยังได้เครดิตเงินคืนจากการใช้บัตรเครดิตอีกด้วยครับ แถมยังสามารถเปรียบเทียบบัตรเครดิตได้ด้วยตัวเองเลยครับ แค่คลิกที่นี่ หรือ แอดไลน์มาถามรายละเอียดได้ทาง Line@ : @masii ครับ ซึ่งเว็บไซต์มาสิ เป็นเว็บไซต์เปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ทางการเงิน อาทิ บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล ประกันรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซต์ และประกันโดรนครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก www.masii.co.th